เหิมหนัก! 'ลูกน้องเสี่ยแป้ง' ส่งจดหมายขู่ฆ่าอัยการ - รวบ 'หนอน ทุ่งลาน' ช่วย ‘เสี่ยแป้ง’ ขับรถพาหลบหนี

รวบตัว ‘นายหนอน’ ลูกน้อง ‘เสี่ยแป้ง’ หลังติดต่อมอบตัว แต่ทำตำรรวจรอเก้อ  ด้าน ‘ภรรยา’ เผยไม่ใช่ลูกน้องคนสนิท ขณะที่ ‘ลูกน้องเสี่ยแป้ง’ เหิมส่งจดหมายขู่ฆ่าอัยการทวงเงินอ้างถูกหักหลัง

จากกรณีนายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี หรือ แป้ง นาโหนด หลบหนีออกจากโรงพยาบาลมหาราช เมื่อคืนวันที่ 22 ตุลาคม 2566 ต่อมาตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 6 คน พร้อมยึดรถกระบะที่ใช้ในการหลบหนี 2 คัน ส่วนอีกคันที่เป็นรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีดำ ที่มีนายสุทิวัส ขุนณรงค์ อายุ 28 ปี หรือ หนอน ทุ่งลาน ซึ่งถูกศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ออกหมายจับ ตามความผิด ร่วมกันกระทำการด้วยประการใด ให้ผู้ถูกคุมขังตามอำนาจของศาล ซึ่งเป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปหลุดพ้นจากการคุมขังไป

วานนี้ (31 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำลังตำรวจชุดสืบสวนพัทลุง ได้ระดมสรรพกำลังออกติดตามจับกุม หนอน ทุ่งลาน อย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดได้รับการติดต่อจากญาติว่า หนอนจะเข้ามอบตัวเมื่อวานนี้ (31 ต.ค.) แต่สุดท้าย ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรอแต่สุดท้ายก็ไม่มาตามนัด


กระทั่งต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. ที่บริเวณซอยประสานสุข ซอย 1 ม. 10 ต.ดอนตะโก อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดหนุมาน กองปราบ และชุดสืบสวนตำรวจภูธรราชบุรี กว่า 20 นายได้สนธิกำลังลงพื้นที่เข้าจับกุมตรวจค้นแมนชั่นแห่งหนึ่ง พร้อมหมายศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจาก นายสุทิวัส ขุนณรงค์ หรือหนอน อายุ 28 ปี หนึ่งในลูกน้องคนสนิทของเสี่ยแป้ง หนีมากบดานอยู่ที่ในแมนชั่นดังกล่าวในพื้นที่กลางใจเมืองราชบุรี


โดยมีข้อมูลว่านายหนอน คนนี้ได้อาศัยรถกระบะ ดีแมกซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน ขค 8701 นครศรีธรรมราช และได้มาอยู่ที่แมนชั่นแห่งนี้เป็นเวลากว่า 4 วันแล้ว จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม พร้อมเข้าตรวจสอบภายในห้อง เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย

ต่อมาได้ควบคุมตัวนายหนอนมาที่กองกำกับการสอบสวน ตำรวจภูธรเมืองราชบุรี เพื่อสอบสวน ก่อนจะนำตัวไปฝากขังไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองราชบุรีหนึ่งคืน และจะนำตัวไปที่ จ.นครศรีธรรมราช ต่อไป ในวันนี้ (1 พ.ย.)

เบื้องต้น นายหนอน สารภาพว่าตนได้ไปส่งเสี่ยแป้งที่ชายแดนมาเลเซีย ก่อนที่จะหนีเดินทางมากบดานที่ จ.ราชบุรี ในส่วนของคดียังไม่ได้ให้การอะไรที่เป็นประโยชน์

ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับภรรยาของนายหนอน ยืนยันว่า นายหนอนไม่ใช่ลูกน้องคนสนิท และเงินที่โอนเข้าบัญชีไม่ใช่เงินค่าจ้าง แต่เป็นเงินส่วนตัวของนายหนอน


สำหรับ นายสุทิวัส หรือหนอน มีประวัติโชกโชน ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเมื่อ วันที่ 20 ก.พ.62 พร้อมอาวุธปืนและยาบ้า ในพื้นที่ ต.ควนมะพร้าว อ.เมือง จ.พัทลุง และไปตรวจค้นยึดยาบ้าที่ซุกซ่อนอยู่ในสวนหลังบ้าน โดยการขุดหลุมฝังไว้ 3,100 เม็ด อาวุธปืนขนาด .32 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนเอ็ม16 อีก 1 กระบอก ถูกศาลสั่งจำคุกในคดียาเสพติด 4 ปี แต่คดีครอบครองอาวุธสงครามศาลยกฟ้อง

ซึ่ง นายสุทิวัส เป็นนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ และลูกน้องคนสำคัญของ เสี่ยแป้ง ที่คอยดูแลจนกระทั่ง เสี่ยแป้ง ถูกย้ายเรือนจำ เมื่อนายสุทิวัส พ้นโทษ ก็ยังวนเวียนติดต่อกับเสี่ยแป้ง มาโดยตลอด จนกระทั่งมาเป็นตัวจักรสำคัญในการก่อเหตุช่วย เสี่ยแป้ง หลบหนี ล่าสุดทั้งคู่แยกย้ายกันหลบหนีแล้ว

ขณะแหล่งข่าวจากตำรวจพัทลุง นายหนึ่ง ระบุ ปัญหาสำคัญที่ทำให้การไล่ล่าคนร้ายในคดีดังกล่าวเป็นไปอย่างล่าช้านั้น มาจากการขาดการบูรณาการร่วมกันของตำรวจด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นตำรวจกองปราบ ตำรวจภาค 8 ตำรวจภาค 9 ตร.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ตร.ภ.จว.พัทลุง ฯลฯ ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวนี้นี้ยังอยู่ในลักษณะต่างคนต่างทำ

ในส่วนของตำรวจพัทลุงนั้นได้ถูกผู้บังคับบัญชาวางกำลังเป็นกำลังเสริมเท่านั้น โดยมิได้เป็นกำลังหลักในการไล่ล่ากลุ่มคนร้ายแต่อย่างใด หลายฝ่ายสงสัยกันว่าสาเหตุใดที่นายจักรี (บิ๊ก) แป้นน้อย และ นายจีระวุฒิ (ปอย) ชุมศรี จึงต้องเข้ามามอบตัวกับ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ อดีต รอง ผบ.ตร. ซึ่ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้ประสานงานขอให้มาช่วยคลี่คลายคดีดังกล่าว

แหล่งข่าวคนดังกล่าวยังกล่าวอีกว่า หากการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจยังอยู่ในแบบต่างคนต่างทำ ถึงแม้ว่าผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้สั่งให้ร่วมบูรณาการร่วมกันก็ตาม ก็ยากที่จะติดติดจับกุมผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีได้ ในขณะที่คนสนิทของเสี่ยแป้ง ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลบหนีของเสี่ยแป้ง ก็ได้หายตัวออกไปจากบ้านไปหลายรายแล้ว โดยคนภายในครอบครัวก็ยังไม่ทราบว่าบุคคลดังกล่าวได้ไปอยู่ที่ไหน และหลายๆ ฝ่ายยังเชื่อว่าเสี่ยแป้ง ไม่น่าจะหลบหนีเข้าไปในประเทศมาเลเซียตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

---------------------------------------------------------

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ได้มีอัยการท่านหนึ่ง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นอัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการ ภาค 9 รักษาการในตำแหน่งอัยการจังหวัดคดีศาลแขวงสงขลา ได้นำจดหมายข่มขู่เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา หลังจากที่มีจดหมายขู่ฆ่าส่งมาจากลูกน้องของเสี่ยแป้ง

โดยมีพฤติการณ์ในจดหมายระบุว่า เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ที่ผ่านมา อัยการท่านนี้ได้เดินทางมาทำงานที่สำนักงานอัยการ จ.สงขลา คดีศาลแขวงสงขลาตามปกติ ต่อมาเวลาประมาณ 09.00 น. ได้มีเจ้าหน้าที่ธุรการสำนักงานอัยการจังหวัดคดีศาลแขวงสงขลา ได้มาแจ้งกับอัยการท่านนี้ว่า มีบุคคลไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดนำจดหมายเขียนด้วยลายมือโดยใช้ปากกาสีน้ำเงินเขียนลงในกระดาษ A4 พับเป็นสี่แหลม และเย็บด้วยลวดเย็บกระดาษเขียนจ่าหน้าซองว่า "เรียนอัยการท่านนี้ ซึ่งเรียกเป็นชื่อเล่น และลงวันที่ 27 ต.ค. 2566”

เมื่ออัยการท่านนี้เปิดจดหมายดูปรากฏว่า ข้อความในจดหมาย ซึ่งระบุชื่อเล่นของอัยการ “มึงเอาเงินที่มึงได้มาคืนพี่แป้งด้วย มึงเป็นพวกเดียวกับไอ้บอย (หมายถึงอัยการบอย) พวกมึงหักหลังทีมงานกู มึงรู้อยู่แก่ใจ มึงระวังตัวไว้ได้เลย คนพัทลุงด้วยกันไม่น่าทำเลย มึงกับเมียระวังตัวไว้ ขับ BMW กับเบ้นขาว ครอบครัวมึงด้วยกูจะยิงให้แว่นมึงทะลุตา และลงท้ายด้วยการวาดรูปปืนสั้น และคำว่า "ตาย"

จนเป็นเหตุให้อัยการท่านนี้เกิดความกลัว และรู้สึกไม่ปลอดภัย เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีข่าวเสี่ยแป้งได้หลบหนีการควบคุมของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยสื่อมวลชนได้เสนอข่าวว่าเสี่ยแป้งจะมาล้างแค้นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลคนที่เคยรับราชการที่ จ.พัทลุง

ซึ่งอัยการท่านนี้แจ้งว่า ได้ย้ายมาจากสำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัว จ.พัทลุง มารับตำแหน่งอัยการจังหวัดคดีศาลแขวงสงขลา เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2566 และไม่เกี่ยวข้อง และไม่รู้จักบุคคลใดเป็นการส่วนตัว จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ให้สืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดในคดีนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา ได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานพร้อมกับจดหมายข่มขู่ ซึ่งเข้าข่ายข้อหาทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็น และทาง พ.ต.อ.บรรเทิง เหล่าเจริญ ผกก.สภ.เมืองสงขลา ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ และเร่งสืบสวนหาตัวผู้ที่นำจดหมายข่มขู่มาวางไว้

 ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่สำนักงานอัยการจังหวัดคดีศาลแขวงสงขลา ถ.แหลมสนอ่อน ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/d0mPfbP7R1E