อาชญากรรม

ที่แท้ฝีมือพ่อ ขึ้นโรงพักแจ้งลูก 6 ขวบหาย ก่อนฆ่าอำพราง รับประชดเมียหนี

โดย passamon_a

30 ต.ค. 2566

234 views

ความคืบหน้ากรณีพบศพเด็กชายวัย 6 ขวบ ในพงหญ้าริมไร่อ้อย ในซอยหลังวัดหนองคร้า หมู่ 5 ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 28 ต.ค.66 โดยสภาพศพเด็ก มีร่องรอยคล้ายถูกทำร้าย


ซึ่งจากการสอบสวน นายนัฐพล หรือ นายโจ อายุ 23 ปี ชาวหัวหิน อาชีพรับตัดแต่งต้นไม้ตามรีสอร์ท ซึ่งเป็นคนไปแจ้งตำรวจว่าลูกชายหายตัวไป จนกระทั่งมีการตามหาจนพบศพ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า คำให้การต่าง ๆ ของนายนัฐพล มีพิรุธหลายอย่าง จึงคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.หัวหิน นานหลายชั่วโมง จนกระทั่งในที่สุด นายนัฐพลยอมรับว่า เป็นคนฆ่าลูกด้วยมือของตัวเอง


เมื่อวันที่ 29 ต.ค.66 พ.ต.อ.หงส์พรหม วิศิษฐ์ชนะชัย ผกก.สภ.หัวหิน พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ คุมตัวนายนัฐพลไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 7 จุด ได้แก่ จุดที่หนึ่ง บริเวณลานจอดรถหน้า สภ.หัวหิน ที่มาแจ้งความเท็จว่าลูกชายหาย, จุดที่สอง ที่ร้านข้าวริมถนน, จุดที่สาม บริเวณริมถนนจุดจอดรถก่อเหตุปิดจมูกลูกชายเสียชีวิต, จุดที่สี่ จุดทิ้งศพอำพรางในพงหญ้า


จุดที่ห้า ห่างจะจุดทิ้งศพเล็กน้อยเป็นจุดที่พาเพื่อนมาค้นหาน้องเจแปน, จุดที่หก หน้าทางเข้าบ้านจุดที่มาหาเพื่อนให้ไปช่วยตามหาลูกชาย และจุดที่เจ็ด บริเวณบ้านพัก ที่อยู่กับลูกชาย โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าว มารอดูการทำแผนจำนวนมาก และส่งเสียงสาปแช่งผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่จึงต้องวางกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา เพราะเกรงว่าผู้ต้องหาจะถูกรุมประชาทัณฑ์


พ.ต.อ.หงส์พรหม เปิดเผยว่า นายนัฐพลให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าน้องเจแปน ลูกชายวัย 6 ขวบจริง โดยเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.00 น. นายนัฐพลมาแจ้งความที่ สภ.หัวหิน ว่าลูกชายหายตัวไปขณะจอดรถกระบะ ลงไปซื้อข้าวหมูแดงที่ร้านแห่งหนึ่ง ริมถนนสายหัวหิน-หนองพลับ ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วในเวลานั้น น้องเจแปนนั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ในรถ ไม่ได้หายตัวไปไหน จากนั้นก็กลับไปและแวะซื้อข้าวกล่องระหว่างทาง ซึ่งลูกชายก็อยู่ในรถด้วยกันตลอดเวลา ซึ่งขณะนั้นยังไม่ได้เสียชีวิตแต่อย่างใด ก่อนที่เจ้าหน้าที่และสื่อโซเชียลจะช่วยกันตามหาเด็ก แต่ไม่พบตัว


กระทั่งช่วงเย็นประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 28 ต.ค. นายนัฐพลได้ขับรถกระบะมาจอดริมถนน ก่อนถึงบ้านพักประมาณ 300 เมตร บริเวณนั้นเป็นทางเปลี่ยวห่างไกลบ้านคน แล้วก็ลงมือปิดจมูกลูกชายซึ่งนั่งอยู่ที่ตักจนเสียชีวิต แล้วนำร่างมาวางไว้ในพงหญ้าริมถนนติดกับไร่อ้อย จากนั้นกลับบ้านไปหาเพื่อน เพื่อขอให้เพื่อนช่วยตามหาลูกชาย เป็นการหาพยานให้กับตัวเอง  


กระทั่งเวลาเที่ยงคืนกว่า ๆ ของวันที่ 28 ต.ค. ทางตำรวจได้รับแจ้งจากนายนัฐพล ว่าพบศพลูกชายนอนเสียชีวิตอยู่ในป่าอ้อยริมถนน ภายในซอยหลังวัดหนองคร้า สภาพใบหน้าซีด มีรอยเล็บที่หน้าผาก  เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบพร้อมแพทย์ รพ.หัวหิน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัด จากการตรวจสอบสาเหตุเบื้องต้นพบว่าเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ จากนั้นจึงส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียด ที่ รพ.หัวหิน


หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายนัฐพล ไปสอบปากคำนานหลายชั่วโมง เนื่องจากมีพิรุธ ก่อนยอมรับสารภาพเป็นคนลงมือฆ่าลูกตัวเอง ส่วนสาเหตุมาจากการทะเลาะกับนางดวงกมล ภรรยา ที่อยู่กินมานานหลายปีจนมีลูกชายด้วยกัน ก่อนที่ภรรยาจะทิ้งผู้ต้องหาและลูก ไปได้ประมาณ 1 เดือน ผู้ต้องหาจึงเกิดความเครียดที่ภรรยาทิ้งลูกไว้เป็นภาระ วันเกิดเหตุช่วงค่ำ ผู้ต้องหาได้พาลูกชายขับรถออกจากบ้าน แล้วพาลูกขับรถไปจนถึงที่เปลี่ยว ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านออกไปประมาณ 300 เมตร โดยให้ลูกชายนอนหนุนตัก ก่อนจะใช้มือปิดปากปิดจมูกจนลูกชายแน่นิ่งเสียชีวิต แล้วนำศพไปทิ้งอำพรางคดีที่บริเวณดังกล่าว จากนั้นขับรถย้อนกลับบ้าน ตีหน้าตื่นไปตามเพื่อนบ้านให้ช่วยกันตามหาลูกชายจนถึงจุดพบศพ


นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบหลักฐานว่า ในช่วงที่เลิกกับภรรยา ผู้ต้องหามีการโพสต์คลิปเสียงและโพสต์หลายอย่าง ซึ่งอาจจะเป็นการประชดเมีย หวังให้เมียกลับมาดูลูก เบื้องต้นภายหลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี โดยขณะนี้รอผลชันสูตรร่างน้องเจแปนอย่างละเอียด เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี


ทางด้าน น.ส.พนัชกร ป้าของนายนัฐพล กล่าวว่า ตนมีศักดิ์เป็นป้า รับนายนัฐพลมาเลี้ยงเป็นลูกชายอีกหนึ่งคน เหมือนเป็นลูกบุญธรรม โดยนายนัฐพลปลูกบ้านพักอยู่ใกล้ ๆ กัน นิสัยของนายนัฐพลเป็นคนดีรักลูกมาก และยังเลี้ยงดูตัวเองซึ่งไม่ใช่แม่แท้ ๆ ไม่คิดว่าจะก่อเหตุแบบนี้ คาดว่าจะเกิดความเครียดที่เมียไปมีผู้ชายคนใหม่ขณะอยู่ด้วยกัน ซึ่งนายนัฐพลเคยบอกอดีตภรรยาว่า ให้มาดูลูก หากไม่มาตนก็ไม่เอาเหมือนกัน ส่วนข่าวที่ว่านายนัฐพลเคยจำลองเหตุการณ์ว่าลูกชายตายนั้น ตนไม่เคยเห็นไม่ทราบข้อมูล แต่ที่เห็นคือ นายนัฐพลคอยป้อนข้าวป้อนน้ำลูก พอเช้าก็พาลูกชายนั่งรถไปทำงานด้วยกัน พอเย็นจะพาลูกมาปล่อยให้เล่นที่บ้านของตน


ตนคิดว่านายนัฐพลจะแค้นเมียมาก จึงพลั้งมือทำร้ายลูกชายตัวเอง คงไม่ได้ตั้งใจก่อเหตุ เพราะนายนัฐพลรักลูกชายมาก พอเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ตนรู้สึกเสียใจ ไม่น่าทำกับลูกชายซึ่งเป็นหลานของตนแบบนั้น แต่เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องไปรับกรรมตามกฎหมายเอง



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/pbe3-xmRWxs


คุณอาจสนใจ

Related News