สุดสลด! พ่อทำร้ายลูกชาย 6 ขวบเสียชีวิต ก่อนรีบนำไปฝั่งอำพราง และเข้าแจ้งความลูกหาย

วันที่ 29 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า คดีสะเทือนใจที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากช่วงค่ำวานนี้ (28 ต.ค.66) ศูนย์วิทยุ 191 รับแจ้งพบศพเด็กชาย เสียชีวิตในพงหญ้า ริมไร่อ้อย ในซอย 5 บ้านหนองคร้า หมู่ 5 ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทั้งนี้ พ.ต.อ.หงส์พรหม วิศิษฐ์ชนะชัย ผกก.สภ.หัวหิน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบร่าง น้องเจแปน เด็กชายวัย 6 ขวบ เสียชีวิตในพงหญ้า มีร่องรอยคล้ายถูกทำร้าย


หลังตรวจสอบเบื้องต้นพบพิรุธหลายอย่าง พ.ต.อ.หงส์พรหม จึงได้สั่งการให้ นำตัว นายนัฐพล หรือ นายโจ อายุ 23 ปี ชาวหัวหิน อาชีพรับตัดแต่งต้นไม้ตามรีสอร์ต ซึ่งเป็นพ่อของน้องเจแปน ไปสอบสวนที่ สภ.หัวหิน นานหลายชั่วโมง กระทั่งสุดท้ายพ่อยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุสลดฆ่าลูกชายตัวเองจนเสียชีวิต


โดยในวันนี้ พ.ต.อ.หงส์พรหม วิศิษฐ์ชนะชัย ผกก.สภ.หัวหิน พร้อมด้วย พ.ต.ท.จักรพัฒน์ จันทร์เที่ยง รอง ผกก.ป.สภ.หัวหิน พนักงานสอบสวน ร้อยเวรเจ้าของคดี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้คุมตัว นายโจ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จำนวน 7 จุด ได้แก่

จุดที่หนึ่ง บริเวณลานจอดรถหน้า สภ.หัวหิน ที่มาแจ้งความเท็จว่าลูกชายหาย

จุดที่สอง ที่ร้านข้าวริมถนน

จุดที่สาม บริเวณริมถนนจุดจอดรถก่อเหตุปิดจมูกลูกชายเสียชีวิต
จุดที่สี่ จุดทิ้งศพอำพรางในพงหญ้า

จุดที่ห้า ห่างจะจุดทิ้งศพเล็กน้อยเป็นจุดที่พาเพื่อนมาค้นหาน้องเจแปน

จุดที่หก หน้าทางเข้าบ้านจุดที่มาหาเพื่อนให้ไปช่วยตามหาลูกชาย

และจุดที่เจ็ด บริเวณบ้านพัก ที่อยู่กับลูกชาย


โดยมีประชาชนที่ทราบข่าวมารอดูการทำแผนจำนวนมาก ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ


พ.ต.อ.หงส์พรหม วิศิษฐ์ชนะชัย ผกก.สภ.หัวหิน เปิดเผยว่า นายโจ พ่อของน้องเจแปน ได้มาแจ้งความที่ สภ.หัวหิน เมื่อช่วงค่ำประมาณ 3 ทุ่มของวันที่ 27 ต.ค. 66 ที่ผ่านมาว่า ลูกชายหายออกจากบ้าน แต่ในความจริงแล้ว ลูกชายนั่งเล่นมือถืออยู่ในรถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสันตอนเดียว สีเงิน ทะเบียน 9694 ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นรถของตัวเอง จากนั้นได้กลับไปและแวะซื้อข้าวกล่องระหว่างทาง ซึ่งลูกชายก็อยู่ในรถด้วยกันตลอดเวลา และขณะนั้นยังไม่ได้เสียชีวิตแต่อย่างใด


กระทั่งช่วงเย็นประมาณ 17.00 น.ของวันที่ 28 ต.ค.66 นายโจ ได้ขับรถยนต์กระบะ มาจอดริมถนนก่อนถึงบ้านพัก ประมาณ 300 เมตรเศษ บริเวณนั้นเป็นทางเปลี่ยวห่างไกลบ้านคน จากนั้นได้ก่อเหตุปิดจมูกลูกชายซึ่งนั่งอยู่ที่ตักจนเสียชีวิต แล้วนำร่างมาวางไว้ในพงหญ้าริมถนนติดกับไร่อ้อย จากนั้นกลับบ้านไปหาเพื่อนเพื่อหาพยาน และขอให้เพื่อนช่วยตามหาบุตรชาย กระทั่งช่วงค่ำจึงพบร่างของน้องเจแปนนอนเสียชีวิตในพงหญ้าดังกล่าว


เบื้องต้นทราบว่า นายโจเพิ่งเลิกรากับภรรยา ไปเพียงเดือนเศษ จึงคาดว่าจะเกิดความเครียดอย่างหนัก กระทั่งก่อเหตุสลด มีข้อมูลการโพสต์คลิปเสียงและโพสต์หลายอย่าง ซึ่งอาจจะเป็นการประชดเมียหวังให้เมียกลับมาดูลูก ซึ่งจะนำมาเป็นหลักฐานทั้งหมด


อย่างไรก็ตามขณะนี้ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ร่างน้องเจแปนอย่างละเอียดมาประกอบสำนวนคดี โดยเบื้องต้นแพทย์ลงความเห็นว่า น้องเจแปนขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิต


ทางด้าน น.ส.พนัชกร หอมไกล ชาวหัวหิน ป้าของนายโจ กล่าวว่า มีศักดิ์เป็นป้า แต่รับนายโจมาเลี้ยงเป็นลูกชายอีกหนึ่งคน เหมือนเป็นลูกบุญธรรม โดยนายโจปลูกบ้านพักอยู่ใกล้ ๆ กัน นิสัยของนายโจเป็นคนดีรักลูกมาก และยังเลี้ยงดูตัวเองซึ่งไม่ใช่แม่แท้ๆ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นจริง


แต่คาดว่าจะเกิดความเครียดที่เมียไปมีคนใหม่ ขณะอยู่ด้วยกัน ยังเล่นเฟซบุ๊กและแชตไลน์กับชายอื่น ซึ่งนายโจเคยบอกอดีตภรรยาว่า ให้มาดูลูกหากไม่มา ตนก็ไม่เอาเหมือนกัน ส่วนข่าวที่ว่านายโจเคยจำลองเหตุการณ์ว่าลูกชายตายนั้น ตนไม่เคยเห็นไม่ทราบข้อมูล แต่ที่เห็นคือ นายโจคอยป้อนข้าวป้อนน้ำลูก พอเช้าก็พาลูกชายใส่รถไปทำงานด้วยกัน พอเย็นจะพาลูกมาปล่อยให้เล่นที่บ้านของตน


ตนคิดว่านายโจจะแค้นเมียมาก จึงพลั้งมือทำร้ายลูกชายตัวเอง คงไม่ได้ตั้งใจก่อเหตุ เพราะนายโจรักลูกชายมาก พอเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ตนรู้สึกเสียใจ ไม่น่าทำกับลูกชายซึ่งเป็นหลานของตนแบบนั้น แต่เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องไปรับกรรมตามกฎหมายเอง