เลือกตั้งและการเมือง

นายกฯ-รมว.กลาโหม แจงปมเปลี่ยน 'เรือดำน้ำ' เป็น 'เรือฟริเกต' ยันไม่เสียเปรียบจีน เชื่อทางออกที่ดีที่สุด

โดย chiwatthanai_t

23 ต.ค. 2566

47 views

ปัญหาเปลี่ยนการจัดซื้อเรือดำน้ำมาเป็นเรือรบฟริเกต วันนี้รัฐมนตรีกลาโหม ออกมาชี้แจง ว่าได้คิดรอบคอบแล้วทุกมิติ ไม่ได้ตัดสินใจโดยพลการ และยืนยันว่าไทยไม่เสียเปรียบจีน และเป็นทางออกที่ดีที่สุด ขณะที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าให้คณะการเจรจาทำงานก่อน และเชื่อว่าจะมีข่าวดี


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามผู้สื่อข่าว เรื่องการเปลี่ยนเรือดำน้ำเป็นเรือฟริเกตว่า ต้องให้เกียรติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ทำงานก่อนหลังไปเจรจามาแล้ว ยืนยันว่าการพูดคุยเป็นไปด้วยบรรยากาศที่ดี หากมีข้อมูลครบแล้วค่อยดำเนินการเจรจาดีกว่า แต่เชื่อว่าจะมีข่าวดีและมีความคืบหน้าไปได้ด้วยดี พร้อมเปิดเผยเมื่อมีความชัดเจน รวมทั้งยืนยันว่าประเทศไทยจะไม่เสียเปรียบในเรื่องนี้


ด้านนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง กรณีที่ กมธ.ทหาร เตรียมเรียกไปชี้แจง กรณีเปลี่ยนการจัดหาเรือฟริเกตแทนเรือดำน้ำกับประเทศจีน ว่า พร้อมชี้แจงทุกที่ ซึ่งทราบว่า นอกจากนี้ยังมีกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร จะมาพบก็ยินดีเพราะจะได้ทำความเข้าใจกัน


เมื่อถามว่า การเปลี่ยนเป็นเรือฟริเกต จะทำให้เสียงบประมาณที่ดำเนินโครงการไปก่อนหน้านี้หรือไม่ เช่นการส่งบุคลากรไปอบรม และเตรียมสถานที่จอดเรือดำน้ำ นายสุทิน ระบุว่า ต้องชั่งน้ำหนักกัน ระหว่างการเดินหน้าต่อเอาเครื่องยนต์จากจีน และการต้องเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น ก็มีได้มีเสียเหมือนกัน พร้อมยืนยันว่าเราคิดรอบคอบในทุกมิติแล้ว คิดว่านี่จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด และหากเดินหน้าต่อคิดว่าจะต้องเจอคำถามมากกว่านี้ ยืนยันว่า เหล่าทัพเข้าใจดี ไม่ได้ตัดสินใจโดยพลการ ใช้อำนาจของรัฐมนตรี หรือรัฐบาล แต่ได้ประชุมหารือกันในทุกแง่มุม


ส่วนไทยจะเสียเปรียบหรือไม่ที่จะต้องเสียเงินเพิ่ม อีกพันล้านบาท นายสุทิน ยืนยันว่าไม่เสียเปรียบ และที่น่าสนใจคือ นายสุทิน ไม่ได้มองว่าจีนผิดสัญญา แต่ไม่เป็นไปตามข้อตกลงมากกว่า เพราะเป็นเรื่องของจีทูจี


ขณะที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร โพสต์ข้อความผ่านบัญชีทวิตเตอร์ หรือ เอกซ์ เสนอทางออกกรณีเรือดำน้ำคือขอเงินที่ประเทศไทยจ่ายไปแล้ว 7,000 ล้านบาทคืน หรือแลกเปลี่ยนเป็นสินค้าอื่นในวงเงินเดียวกัน แต่ต้องดูรายละเอียดในสัญญา และ กมธ.การทหาร สภาผู้แทนราษฎร จะเชิญกองทัพเรือมาชี้แจงในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ แต่นายวิโรจน์ยอมรับว่ากรณีนี้ต้องมีการเจรจา และต้องหาทางออกร่วมกันเพื่อรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

คุณอาจสนใจ

Related News