สังคม

'อาศิส พิทักษ์คุมพล' จุฬาราชมนตรี คนที่ 18 ถึงแก่อนิจกรรม เปิดประวัติ - กำหนดการละหมาดขอพร

โดย nattachat_c

23 ต.ค. 2566

29 views

วานนี้ (22 ต.ค. 66) มี ประกาศสำนักจุฬาราชมนตรี เรื่อง การถึงแก่อนิจกรรมของจุฬาราชมนตรี


ตามที่ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ได้เข้ารับการรักษาอาการป่วย เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ความละเอียดแจ้งแล้ว นั้น


สำนักจุฬาราชมนตรีขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี คนที่ ๑๘ แห่งราชอาณาจักรไทย ได้กลับไปสู่ความเมตตาของอัลลอฮ์ (ถึงแก่อนิจกรรม) แล้ว เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๖ เวลา ๑๐.๓๒ น.


และจะจัดพิธี ละหมาดญะนาชะห์ (ละหมาดขอพร) ในวันจันทร์ที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๖ เวลา ๑๐.๐๐ น. ณ มัสยิด กลางประจำจังหวัดสงขลา เลขที่ ๓๕๒ ถนนลพบุรีราเมศวร์ ตำบลคลองแห อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ประกาศ ณ วันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๖

-------------

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ในการพิธีละหมาดญะนาซะห์ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี


นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักจุฬาราชมนตรี ออกประกาศเรื่องการถึงแก่อนิจกรรมของนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยแล้วนั้น ได้รับแจ้งจาก สำนักจุฬาราชมนตรี ว่า


คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และผู้เกี่ยวข้อง ได้ประกอบพิธีเคลื่อนศพของจุฬาราชมนตรี จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ไปยังท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ในเวลา 13.00  น.  เพื่อเคลื่อนไปยังท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ จ.สงขลา ถึงในเวลา 14.00 น. เพื่อประกอบพิธีละหมาดญะนาซะห์ (ละหมาดขอพร) ในวันที่ 23 ต.ค.2566  เวลา 10.00 น. ณ มัสยิดกลางประจำจ.สงขลา ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา


โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ในการพิธีละหมาดขอพร ณ มัสยิดกลางประจำ จ.สงขลา ในวันที่ 23 ต.ค.


โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทยเป็นผู้แทน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้แทนฝ่ายรัฐบาล พร้อมด้วยนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม ร่วมพิธี


โดย ศน. ได้จัดประสานงานสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสงขลา (สวจ.สงขลา)  ในการอำนวยความสะดวกการประกอบพิธีร่วมกับสำนักจุฬาราชมนตรีแล้ว

-------------

วานนี้ เมื่อเวลา 14 นาฬิกาที่ผ่านมา ได้มีพิธีเคลื่อนย้ายร่างของ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี คนที่ 18 แห่งราชอาณาจักรไทย โดยเครื่อง C-130 ของกองทัพอากาศ จากท่าอากาศยานทหาร ดอนเมือง ไปยัง มัสยิด กลางประจำจังหวัดสงขลา ตำบลคลองแห อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งมีผู้แทนจากสำนักจุฬาราชมนตรี รวมถึงครอบครัวร่วมพิธีด้วย


และมีรายงานว่า ขณะนี้ ถึงที่จังหวัดสงขลาเรียบร้อยแล้ว โดยกำหนดการพรุ่งนี้ เวลา 08.00 น. พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรีอัญเชิญดินฝังศพพระราชทาน และเป็นประธานในพิธี และเวลา 10.00 น. ที่มัสยิดกลางสงขลา

-------------

วันที่ 22 ต.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักจุฬาราชมนตรี ได้ออกประกาศเรื่องการถึงแก่อนิจกรรมของ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี คนที่ 18 แห่งราชอาณาจักรไทย ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เมื่อเวลา 10.32 น. ที่ผ่านมา


และขณะนี้ ทางการ ทั้งคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และผู้เกี่ยวข้อง กำลังนำ “มายัต” (ศพ) ของท่านจุฬาราชมนตรี เดินทางกลับบ้านเกิดที่ จ.สงขลา โดยเครื่องบินกองทัพอากาศออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 มาถึงสนามบินกองบิน 56 อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา เมื่อเวลา 16.40 น. ที่ผ่านมา


โดยมี นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา รวมทั้งหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัด และครอบครัว และทหารกองเกียรติยศ ร่วมในพิธีรับร่างจุฬาราชมนตรีอย่างสมเกียรติ


หลังจากนั้นจะเคลื่อนไปยังบ้านเกิดของท่านจุฬาราชมนตรี ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 45 ซ.ควนสันติ 1 ม.1 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

-----------

โดยบรรยากาศล่าสุด เมื่อช่วงเย็น ที่บ้านเลขที่ 45 ซ.ควนสันติ 1 ได้มีพี่น้องประชาชนมาร่วมแสดงความเสียใจที่บ้านเกิดของ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี กันอย่างต่อเนื่อง


และมีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยพื้นที่โดยรอบ ทั้งตำรวจ และ ฝ่ายปกครอง รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการจอดรถ และที่ทางต่าง ๆ รวมทั้ง ยังมีการจัดเตรียมเต็นท์ และที่นั่งรองรับผู้คน ที่จะเดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจ และรอรับร่างทางท่านจุฬาราชมนตรี


นอกจากนี้ ที่บริเวณหน้าบ้านพักทางครอบครัวและญาติ ได้มีการติดป้ายห้ามถ่ายรูป และขอความอนุเคราะห์ เวลาที่ขบวนศพของท่านจุฬาราชมนตรี เคลื่อนผ่านเข้ามายังบ้านพัก ขอความร่วมมืองดถ่ายภาพขบวนดังกล่าวด้วย

-----------

สำหรับในส่วนของพิธีการนั้น มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (23 ต.ค. 66) เวลา 10.00 น. ที่มัสยิดกลางประจำ จ.สงขลา ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ในการพิธีละหมาดขอพร ณ มัสยิดกลางประจำ จ.สงขลา


โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เป็นผู้แทน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้แทนฝ่ายรัฐบาล พร้อมด้วย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม ร่วมพิธีดังกล่าวด้วย

-------------
สำหรับประวัติของนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรีคนที่ 18 แห่งราชอาณาจักรไทย อดีต ปธ.คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย , อดีตสมาชิกวุฒิสภา , อดีตประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา มีดังนี้

  • เกิดเมื่อวันที่ 6 มี.ค.2490 ที่ จ.สงขลา
  • สืบเชื้อสายมาจาก สุลต่าน สุลัยมาน ชาห์ ผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลา ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม-รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
  • เป็นบุตรของนายมะแอ (ฮัจญีอิสมาแอล) กับ นางน๊ะ (อามีนะห์) เบ็ญสะอีด โ
  • มีพี่น้องทั้งหมด 4 คน


การศึกษา

  • ศึกษาระดับประถมศึกษา ที่โรงเรียนบ้านหัวเขา ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา
  • ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนสงเคราะห์ประชา อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา
  • สำหรับสายศาสนานั้น ท่านศึกษาที่ ปอเนาะอัลนาซอนีย๊ะ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา
  • และที่ปอเนาะตุยง (ปัจจุบันคือโรงเรียนสกุลศาสน์อิสลาม) อ.หนองจิก จ.ปัตตานี


เส้นทางการทำงาน


ในยุคที่ นายประเสริฐ มะหะหมัด ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นจุฬาราชมนตรี คนที่ 16 แห่งราชอาณาจักรไทย ได้เสนอชื่อ นายอาศิส เพื่อโปรดเกล้าฯ ให้เป็นกรรมกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และได้มอบหมายให้ดูแลงานวิชาการ ร่วมกับ นายวินัย สะมะอุน


ต่อมา ในปี พ.ศ. 2530 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ นายอาศิส เป็นประธานกรรมการอิสลามประจำ จ.สงขลา และได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนี้มาโดยตลอด


และเมื่อ พ.ร.บ.การบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม พ.ศ. 2540 ได้ประกาศใช้ โดยกำหนดให้คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ประกอบด้วยกรรมการผู้ที่เป็นผู้แทนของแต่ละจังหวัด ซึ่ง นายอาศิส ก็ได้รับการเลือกให้เป็นผู้แทนคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.สงขลา ในคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย


ในปี พ.ศ. 2539 นายอาศิส ได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกวุฒิสภาสัดส่วนผู้นำศาสนาอิสลาม นอกจากนั้นแล้ว ยังเป็นที่ปรึกษากระทรวงศึกษาธิการในการจัดทำหลักสูตรอิสลามศึกษา เพื่อใช้ในสถานศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้


และถูกแต่งตั้งให้เป็น กรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) เพื่อศึกษาปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาตใต้ และเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว


วันที่ 16 พ.ค.2553 ได้รับลงคะแนนเสียงเป็นอันดับ 1 จากกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั่วประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งจุฬาราชมนตรี ตามพระราชบัญญัติการบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม พ.ศ.2540 ซึ่งนับเป็นคนที่ 2 ต่อจาก นายสวาสดิ์ สุมาลยศักดิ์ และได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นจุฬาราชมนตรีคนที่ 18 เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2553


วันที่ 31 ก.ค.2557 นายอาศิส ได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ แต่ปฏิเสธการรับตำแหน่งนี้ ด้วยเหตุผลว่าตำแหน่งจุฬาราชมนตรี เป็นผู้นำศาสนาอิสลามในไทย ไม่สมควรรับตำแหน่งใด ๆ ทางการเมือง


ในปี พ.ศ. 2566 นายอาศิส ได้เข้ารับการรักษาอาการป่วย โดยเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จนกระทั่ง ถึงแก่อนิจกรรม เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม เวลา 10:32 น.


จุฬาราชมนตรีคือใคร


จุฬาราชมนตรี เป็นผู้นำกิจการศาสนาอิสลามในประเทศไทย และเป็นตำแหน่งฝ่ายมุสลิม ให้ข้อปรึกษาด้านศาสนาอิสลามแก่รัฐบาลไทย โดยเฉพาะแก่กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงวัฒนธรรม


มีประวัติมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ในทำเนียบศักดินาของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทำเนียบตำแหน่งขุนนาง ซึ่งในชั้นหลังเรียกว่า "กรมท่าขวา" มี "พระจุลาราชมนตรี" เป็นหัวหน้าฝ่ายแขก คู่กับ หลวงโชฎึกราชเศรษฐี หัวหน้าฝ่ายจีน


โดย เจ้าพระยา เฉกอะหมัด รัตนราชเศรษฐี (เฉกอะหมัด) ปฐมจุฬาราชมนตรี ท่านเฉกอะหมัดได้เดินทางเข้ามาทำการค้าขายที่ตำบลท่ากายีใกล้กรุงศรีอยุธยา


ต่อมา ปลายแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ท่านเฉกอะหมัดได้ช่วยปรับปรุงราชการกรมท่า จนได้ผลดี จึงโปรดเกล้าฯ ให้เป็น "พระยาเฉกอะหมัดรัตนราชเศรษฐี" เจ้ากรมท่าขวา และ จุฬาราชมนตรี นับได้ว่าท่านเป็นปฐมจุฬาราชมนตรี และเป็นผู้นำพาศาสนาอิสลามนิกายชีอะหฺ มาสู่ประเทศไทย ท่านเป็นต้นสกุลของไทยมุสลิมหลายนามสกุล และสกุลบุนนาค เป็นต้นสกุลของเจ้าพระยาหลายท่านในระยะเวลาต่อมา


จุฬาราชมนตรี อาศิส พิทักษ์คุมพล เป็นคนที่ 14 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และนับเป็นจุฬาราชมนตรีลำดับที่ 18 แห่งราชอาณาจักรไทย


หน้าที่ของจุฬาราชมนตรี


เริ่มแรกในรัฐบาลของนายปรีดี พนมยงค์ ได้รื้อฟื้นตำแหน่งจุฬาราชมนตรีเมื่อ พ.ศ.2488 โดยให้เป็นที่ปรึกษาราชการขององค์พระมหากษัตริย์ ในด้านกิจการศาสนาอิสลาม


กระทั่ง พ.ศ.2491 รัฐบาลของจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้เปลี่ยนให้จุฬาราชมนตรีเป็นที่ปรึกษากรมการศาสนาในกระทรวงศึกษาธิการ


อย่างไรก็ดี หลังจากที่การประกาศใช้ พ.ร.บ.การบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม พ.ศ. 2540 ได้มีการระบุไว้ในกฎหมายนี้ว่า จุฬาราชมนตรีเป็นผู้นำกิจการศาสนาอิสลามในประเทศไทย ซึ่งมีหน้าที่ดังต่อไปนี้

ให้คำปรึกษาและความเห็นต่อทางราชการเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม

แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อให้คำปรึกษาเกี่ยวกับบัญญัติศาสนาอิสลาม

ประกาศผลการดูดวงจันทร์เพื่อกำหนดวันสำคัญทางศาสนา

ออกประกาศเกี่ยวกับวินิจฉัยตามบัญญัติแห่งศาสนาอิสลาม

เป็นประธานอำนวยการจัดงานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย

กฎหมายฉบับนี้ ยังให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยให้เป็นกิจลักษณะ โดยมีจุฬาราชมนตรีเป็นประธานและกรรมการอื่นจากผู้แทนของคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดและกรรมการที่จุฬาราชมนตรีเสนอชื่อ ซึ่งจะมีบทบาทในด้านการบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม ขณะที่สำนักจุฬาราชมนตรีนั้นเป็นหน่วยธุรการของจุฬาราชมนตรี


หลังจากประกาศใช้กฎหมายดังกล่าวไม่นาน นายประเสริฐ มะหะหมัด จุฬาราชมนตรีในขณะนั้น ได้ถึงแก่อนิจกรรม และผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นจุฬาราชมนตรีคนต่อมาคือ นายสวาสดิ์ สุมาลยศักดิ์ ขณะมีอายุได้ 94 ปีเศษ ซึ่งเป็นจุฬาราชมนตรีคนแรกที่ได้รับการเลือกตั้งตามกฎหมายฉบับนี้ โดยดำรงตำแหน่งจนถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2553


และวันที่ 16 พ.ค.2553 ที่ประชุมคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั่วประเทศได้มีมติให้ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล เป็นผู้สมควรดำรงตำแหน่งจุฬาราชมนตรีต่อจากนายสวาสดิ์ สุมาลยศักดิ์ และได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นจุฬาราชมนตรีคนที่ 18 แห่งราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2553
-------------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/jfI-oEFpmlo









คุณอาจสนใจ