ออกหมายจับเพิ่ม 2 ราย แก๊งหลอกขายไอโฟน ม.6 ผบ.ตร.สั่งขยายผลล่าตัวการใหญ่

ความคืบหน้ากรณีเยาวชนชั้นม.6 ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง หลังถูกเเก๊งมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินค่าโทรศัพท์ไอโฟน ล่าสุด ผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ เปิดเผยว่า ตำรวจไซเบอร์ได้ออกหมายจับสมาชิกเครือข่ายเพิ่มอีก 2 คน พร้อมสั่งการให้ขยายผลไปถึงหัวหน้าขบวนการชาวต่างชาติ ที่คอยสั่งการอยู่เบื้องหลัง



พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจไซเบอร์ ได้ขยายผลเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ต้องหา ในคดีที่หลอกขายไอโฟนให้นักเรียนหญิงชุั้น ม.6 ซึ่งผู้เสียหายได้โอนเงินไปให้เเก๊งนี้ จำนวน 18,500 บาท กระทั่งรู้ตัวว่าถูกหลอกเเละไม่ได้เงินคืน จึงตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง



ซึ่งขณะนี้ ตำรวจไซเบอร์ได้ขออนุมัติศาลอาญา ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 คน เป็นชาวต่างชาติ 1 คน และคนไทย 1 คน



การสืบสวนพบว่า ทั้ง 2 คน มีหน้าที่บริหารจัดการเงิน โดยหลังจากเงินถูกโอนเข้าบัญชีม้า จะมีคนคอยกดเงินสด และนำเงินที่ได้ไปให้กับ 2 คนนี้



พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ย้ำว่า คดีนี้จะไม่หยุดเพียงแค่นี้ เเละจะขยายผลจับกุมไปยังหัวหน้าขบวนการ ซึ่งคาดว่าจะเป็นชาวต่างชาติ แต่ยังไม่สามารถระบุเชื้อชาติได้



ส่วนการป้องกันในอนาคต ภายในสัปดาห์หน้า ตำรวจไซเบอร์จะเข้าประชุมกับ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อหาแนวทางร่วมกันป้องกันอาชญากรรมลักษณะนี้



ซึ่งมีแนวคิดในการเสนอแก้ไขกฎหมาย เกี่ยวกับการเปิดบัญชี โดยอาจมีการเสนอให้เปิด 1 คน ต่อ 1 บัญชี เพื่อง่ายต่อการสืบสวนเส้นทางการเงิน



จนถึงขณะนี้ มีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องในขบวนการนี้แล้วอย่างน้อย 7 คน

ประกอบด้วย

1. นางสาวดอกแก้ว บัญชีม้าแถว 1 ถูกจับแล้ว ขณะนี้ถูกควบคุมตัวในทัณฑสถานหญิงกลาง 2. นางสาว ศิริพร จำปี อายุ 20 ปี บัญชีม้าแถว 2 อยู่ระหว่างหลบนี

3. นางสาว รัตนพร บัญชีม้าแถว 3 ถูกจับแล้ว อยู่ระหว่างสอบปากคำ

4. นาย ธีรวัฒน์ บัญชีม้าแถว 4 ถูกจับแล้ว อยู่ระหว่างสอบปากคำ

5. นางสาว ณัฎฐนิชา ถูกจับแล้ว อยู่ระหว่างสอบปากคำเช่นกัน

6. นาย สมบัติ คนจัดหาบัญชีม้า ถูกจับแล้วเเละส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองเชียงราย ในความผิดตาม พ.ร.ก.ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566

7. เป็นชาวต่างชาติ ทำหน้าที่ดูแลบัญชีม้า



การสอบปากคำ นายสมบัติ อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาคนล่าสุด ที่ถูกตำรวจไซเบอร์จับ ฐานเป็นนายหน้ารับซื้อบัญชีม้า โดยถูกจับได้ที่จังหวัดเชียงราย ให้การรับสารภาพว่า เขามีหน้าที่ตระเวนหาเหยื่อที่เป็นเยาวชน เพื่อหลอกลวงให้นำบัตรประชาชนเปิดบัญชีม้า โดยพบว่ามีหลายคนที่หลงเชื่อ และตกเป็นเหยื่อ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนหญิงช่วงอายุ 15-18 ปี อีกทั้งยังมุ่งเน้นไปยังกลุ่มเป้าหมายที่อยู่แนวตะเข็บชายแดน เพราะง่ายต่อการควบคุม และสามารถติดตามตัวได้ตลอดเวลา หลังจากที่ได้เหยื่อแล้ว นายสมบัติซัดทอดว่า จะรวบรวมเอกสารทั้งหมดไปส่งให้ชายชาวเมียนมา ซึ่งเรียกกันว่า "เสี่ยสอง" เคลื่อนไหวอยู่ในจังหวัดท่าขี้เหล็ก จากข้อมูลพบว่า "เสี่ยสอง" เป็นคนกำกับดูแลเรื่องบัญชีม้า