หลายเขื่อนเร่งระบายน้ำ ทำทะลักบ้านเรือน-พื้นที่เกษตร เสียหายวงกว้าง

ปริมาณน้ำสะสมที่มาจากฝนตกหนักก่อนหน้านี้ ทำให้เขื่อนหลักเเละอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ต้องเร่งระบายลงสู่พื้นที่ท้ายน้ำ เเละทำให้หลายพื้นที่ยังคงได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำหลากท่วม ชุมชนเเละพื้นที่ทางการเกษตร เสียหายเป็นบริเวณกว้าง



เริ่มกันที่สถานการณ์ในลุ่มน้ำชี พบว่าขณะนี้มวลน้ำก้อนใหญ่จากมหาสารคาม ไหลผ่านไปถึงพื้นที่ด่านแรกของจ.ร้อยเอ็ดเเล้ว ชาวบ้านที่อยู่ติดริมน้ำเริ่มทยอยยกของขึ้นที่สูง บางส่วนต้องเคลื่อนย้ายวัว-ควาย ออกไปอยู่บนที่สูง



ที่เริ่มกระทบเเล้วก็คือ บ้านหนองแค ต.ม่วงลาด อำเภอจังหาร ซึ่งอยู่บริเวณรอยต่อระหว่างมหาสารคาม กับร้อยเอ็ด ขณะนี้พบว่า บ้านเรือนจำนวน 38 หลัง ที่อยู่ทางด้านเหนือของหมู่บ้านซึ่งตั้งอยู่ติดกับเเม่น้ำชี มีน้ำล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำเเละถนนบางส่วน บางจุดน้ำท่วมสูง-รถเล็กสัญจรลำบาก



ชาวบ้านเริ่มขนย้ายทรัพย์สินเเละรถยนต์ไปจอดตามแนวคันพนังกั้นน้ำนอกหมู่บ้าน เริ่มตั้งเต็นท์เตรียมไว้สำหรับอพยพเด็กเเละผู้สูงอายุ หากเกิดกรณีน้ำท่วมสูง



ส่วนนาข้าวในจุดที่อยู่ใกล้พนังกั้นน้ำ จากการสำรวจเบื้องต้น พบมีนาข้าวอย่างน้อย 300 ไร่ จมอยู่ใต้น้ำ นอกจากนี้ยังพบนาข้าวในพื้นที่รอบนอก ถูกน้ำเเล้วไม่น้อยกว่า 800 ไร่แล้ว



ที่พิจิตร สถานการณ์ในแม่น้ำน่านวันนี้เพิ่มสูงขึ้นจนใกล้ถึงจุดวิกฤติเเล้ว เหลืออีกเพียง 10 เซนติเมตรก็จะล้นเเนวตลิ่ง เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองพิจิตร ต้องเตรียมกระสอบทรายกว่า 2,000 กระสอบ รวมทั้งส่งกำลังลงไปอุดท่อน้ำทิ้งของเทศบาลเมืองพิจิตรจำนวน 16 ช่อง เพื่อป้องกันน้ำน่านไหลย้อนเข้ามาทางท่อระบายน้ำ ซึ่งจะส่งผลทำให้ท่วมย่านเศรษฐกิจ ร้านค้าและชุมชนใจกลางเมืองพิจิตร



ที่นครนายก จุดที่ยังมีน้ำท่วม อยู่ที่ ต.ท่าเรือ อ.ปากพลี หน่วยงานในพื้นที่ได้นำถุงยังชีพไปมอบให้กับชาวบ้านผู้ประสบภัย การเดินทางต้องนั่งเรือเข้าไปประมาณหนึ่งกิโลเมตร จุดนี้มีชาวบ้านประมาณ 30 คนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งมีทั้งเด็กเเละผู้สูงอายุ