ญาติวอนช่วย 50 แรงงานไทยในอิสราเอล ถูกบังคับทำงานท่ามกลางสงคราม

วันที่ 13 ตุลาคม 2566 ที่สำนักงานแรงงานจังหวัดนครพนม ยังคงมีญาติครอบครัวแรงงานไทย ในอิสราเอล ที่เดินทางมาติดต่อขอรับการช่วยเหลือ ประสานให้แรงงานไทยในอิสราเอลเดินทางกลับ เนื่องจากบางรายไม่สามารถติดต่อหน่วยงานเกี่ยวข้องได้ บางรายสูญหายขาดการติดต่อ ถูกจับเป็นตัวประกัน ในส่วนของ จ.นครพนม มียอดแรงงานไปทำงานในอิสราเอลทั้งหมด รวมกว่า 2,100 คน มียอดแรงงานที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ติดชายแดนที่เกิดภัยสงคราม รวม 330 คน และยังมีคนที่ขาดการติดต่อสูญหาย รวม 5 ราย

โดย นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม ได้ประสาน นายนพพร มานะ แรงงานจังหวัดนครพนม นางสาววรานิษฐ์ กีรติพงษ์ รักษาราชการแทน จัดหางานจังหวัด ตั้งวอร์รูมเป็นศูนย์ช่วยเหลือแรงงานและติดตามสถานการณ์สู้รบในอิสราเอล โดยให้ทางญาตินำเอกสารที่เกี่ยวข้อง ยื่นเรื่องต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อขอรับการช่วยเหลือ เปิดสายตรงแรงงานจังหวัดนครพนม โทร.096-9759453 (ตลอด 24 ชั่วโมง) หรือ สายด่วนกรมการจัดหางาน 1694 เพื่อเร่งประสานงานช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล

ขณะเดียวกันทางด้าน นางสาว ยุพิน ทองดีนอก อายุ 30 ปี ชาว ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม ได้นำเอกสารหลักฐาน เข้ามาประสานขอความช่วยเหลือ นางสาว จารุวรรณ จันทะวงษ์ หรือนุ้ย อายุ 35 ปี เป็นพี่สาวของสามี ชาว ต.นางาม อ.เรณูนคร จ.นครพนม เดินทางไปทำงานในเขตเทลอาวีฟ ห่างจากฉนวนกาซา พื้นที่สีแดง ที่เกิดภัยสงคราม เป็นเวลานานกว่า 4 ปี ทำงานในฟาร์มเกษตร แต่หลังจากเกิดภัยสงคราม ยังถูกนายจ้างบังคับให้ทำงาน ทั้งที่เกิดสงคราม มีทั้งทหารออกมากราดยิง รวมถึงยิงระเบิดปะทะกัน ต้องหลบภัยวุ่น โดยมีแรงงานชาวอีสาน รวมเกือบ 50 คน และเป็นชาว จ.นคพรนม จำนวน ประมาณ 10 คน ที่ยังพักในแคมป์คนงานเดียวกัน และไม่ยอมออกไปทำงานตามนายจ้างสั่ง

ทางญาติจึงต้องประสานขอความช่วยเหลือ จากทางภาครัฐ เข้าไปดูแล อำนวยความสะดวกในการกลับไทย นอกจากนี้ยังมีการพบภาพแรงงานไทยในอิสราเอล ที่ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากทำงานเก็บผลิตการเกษตร จนถูกแรงระเบิด พร้อมมีการส่งไปตามสื่อโซเชียลต่างๆ สื่อให้เห็นถึงความเสี่ยงอันตราย และความโหดร้ายของสงครามในอิสราเอล ที่ต้องเร่งประสานช่วยเหลือให้เร็วที่สุด

ทั้งนี้ นางสาว ยุพิน ทองดีนอก อายุ 30 ปี ชาว ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม ญาติแรงงานสาวในอิสราเอล เปิดเผยว่า สำหรับพี่สาว เป็นญาติสามี ไปทำงานที่อิสราเอล เป็นสวนเกษตร มานานกว่า 4 ปี หลังเกิดภัยสงคราม ในพื้นที่ชายแดน อิสราเอล ยังคงหลบในแคมป์กับเพื่อนคนงาน แต่มีปัญหานอกจากจะยังไม่ได้รับการช่วยเหลือออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย ยังถูกบังคับให้ทำงานต่อ และข่มขู่ว่าจะให้ออกหากไม่ทำตามคำสั่งนายจ้าง แต่กลุ่มแรงงานรวมตัวกันไม่ยอมทำงาน เพราะห่วงความปลอดภัย เพราะเป็นพื้นที่ชายแดน มีการสู้รบตลอดเวลา อีกทั้งยังถูกตัดไฟ รวมถึงขาดแคลนอาหาร เพราะในแคมป์คนงาน มีแรงงานไทยรวมเกือบ 50 คน ต้องกินอาหาร ที่พอมีเก็บไว้ ประทังชีวิต ตนจึงมาประสานผ่านแรงงานจังหวัด ติดต่อสถานทูต เร่งเข้าไปช่วยเหลือกลับไทย ห่วงความปลอดภัย

ด้าน นายนพพร มานะ แรงงานจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ปัจจุบันทาง ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานและติดตามสถานการณ์สู้รบในอิสราเอล ได้รับเรื่องขอประสานการช่วยเหลือแรงงาน ตลอด 24 ชั่วโทง สายสายตรง 096-9759453 รวมถึงสายด่วน 1694 ล่าสุดมียอดญาติแรงงานไทยชาว จ.นครพนม ไปทำงานในอิสราเอล มาขึ้นทะเบียนขอรับการช่วยเหลือ เพราะขาดการติดต่อ และยังรอการช่วยเหลือกลับไทย ที่มายืนยันตัวตนแล้ว รวม 50 ราย มีการสูญหาย ขาดการติดต่อ รวม 5 ราย ส่วนภาพรวมมีแรงงานชาวนครพนม ไปทำงาน มากกว่า 2,100 ราย แต่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยประมาณ 330 ราย อยู่ระหว่างการประสานช่วยเหลือเร่งด่วนทุกช่องทาง หากกลับถึงไทยจะได้ดูแลการชดเชยเยียวยาทุกราย ตามนโยบายรัฐบาลต่อไป