สังคม

หญิงชาวนาสุดเทิดทูน ในหลวง ร.9 เก็บสะสมภาพติดไว้ทั่วบ้าน-ยึดคำสอนอยู่อย่างพอเพียง

โดย paranee_s

13 ต.ค. 2566

203 views

ที่จังหวัดอุทัยธานี ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีชาวนาคนหนึ่งได้เก็บภาพในหลวงรัชกาลที่ 9 ไว้ เพราะประทับใจที่ท่านทรงห่วงใยชาวไทยมาตลอด และท่านทรงเป็นแบบอย่างในการดำรงชีวิต ตั้งแต่เติบโตมาอีกด้วย


โดยนางอุไร อายุ 52 ปี ชาวตำบลหมกแถว อำเภอหนองขาหย่าง จังหวัดอุทัยธานี เปิดเผยถึงเรื่องราวว่าย้อนไปเมื่อ 16 ปีก่อน ได้รับพระราชทานบ้านและเป็นอยู่อาศัยจนถึงปัจจุบัน โดยทางองค์การบริหารส่วนตำบลท่าโพ ตำบลท่าโพ อำเภอหนองขาหย่าง จังหวัดอุทัยธานี ได้คัดเลือกคนที่มีความขยันและอดทน แต่ฐานะยากจน โดยผ่านการประชาคม จึงได้รับเลือกแล้วได้รับพระราชทานบ้านหลังนี้ขึ้นมา


ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นตนที่มีฐานะค่อนข้างยากจนมีอาชีพทำนาเป็นหลักกับสามี จากนั้นก็มีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน นางอุไรนั้นเปิดเผยถึงเรื่องราวของการสะสมพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร หรือในหลวงรัชกาลที่ 9 ว่าตั้งแต่เล็กแล้วเติบโตมาจนถึงปัจจุบันนี้ ก็เห็นท่านทรงห่วงใยประชาชนชาวไทยมาตลอดท่านทรงงานหนักเพื่อแก้ไขปัญหาฝนแล้ง น้ำท่วม และท่านยังทรงให้ประชาชนอยู่อย่างพอเพียง ซึ่งหากคิดแล้วทำตามท่านก็คือการให้รู้จักการประหยัดและรู้จักเก็บออม


สำหรับสะสมพระบรมฉายาลักษณ์ เริ่มตั้งแต่การไปธนาคารเพื่อไปฝากหรือออมเงินให้ลูกสาวทางธนาคารจะให้ปฎิทินมา จึงสะสมไว้เรื่อยมา เพราะมีความรู้สึกที่รักในพระองค์พ่อของปวงชนชาวไทยที่มีแต่ความเสียสละเพื่อส่วนรวมโดยเฉพาะด้านเกษตรกรรม


ซึ่งนางอุไรบอกว่าท่านทรงมองเห็นว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการทำการเกษตรทำนาและไร่เป็นชีพหลัก ท่านจึงคิดค้นวิธีที่ให้ฝนที่ตกลงมานั้นกักเก็บไว้ใช้ได้นั่นก็คือการทำฝายชะลอน้ำ และแก้มลิง และที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดก็คือการทำฝนเทียม โดยในตอนที่นางอุไรอายุ 17 ปี ได้ตามแม่ไปที่นาข้าว เพราะแม่ทำนาอยู่แล้ว จึงถามแม่ว่าน้ำจะมีทำนาหรือ เพราะมันแล้งแบบนี้


โดยแม่ของนางอุไรก็ตอบว่าอีกไม่กี่วันฝนก็ตกลงมาแล้วเพราะในหลวงท่านทำฝนเทียมให้ จากนั้นมาประมาณ 4 วันฝนก็ตกลงมาจริง ๆ ลงในนาข้าวของตัวเอง ในตอนนั้นเป็นเรื่องที่อัศจรรย์ใจของนางอุไรมาก นับตั้งแต่นั้นมาก็ทรงเห็นในหลวงนั่นเป็นฮีโรของตัวเองเลยก็ว่าได้ในการช่วยเหลือชาวไทยในด้านต่าง ๆ อีกเยอะมาก


และที่เสียใจมากที่สุดก็คือวันที่ท่านทรงสวรรคตหรือวันที่ 13 ตุลาคม 2559 หรือ 7 ปีที่ผ่านมานั้นในวันที่ทราบข่าวก็รู้สึกว่าไม่อยากให้เกิดขึ้นเลยวันที่ปวงชนชาวไทยพร้อมใจกันร่ำไห้เพื่อท่านยังจำเหตุการณ์ได้ดี ในวันนั้นนางอุไรและครอบครัวร้องไห้ทั้งวัน เพราะไม่อยากเสียพระองค์ไป และยังเก็บพระบรมฉายาลักษณ์ในหนังสือพิมพ์ในเหตุการณ์วันสวรรคตของท่าน ไว้ดูเวลาคิดถึงพระองค์ท่าน


โดยพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ยังถือว่าเป็นสมบัติอันล้ำค่าของครอบครัว ในวันไหนที่คิดถึงก็นำรูปเหล่านี้มาดู ซึ่งนางอุไรบอกว่าหากย้อนไปเมื่อ 16 ปีที่ผ่านมา ทางครอบครัวของตัวเองนั้นฐานะค่อนข้างยากจนมาก จากนั้นมาก็เริ่มทำนาโดยการเช่าที่นา ต่อมาก็เริ่มซื้อที่นาเพื่อทำนาเรื่อยมา และฐานะก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้จะไม่รวยแต่ก็พอมีพอกินไม่ลำบากเลี้ยงลูก ส่งลูกเรียนได้โดยไม่ต้องเพิ่งพาใคร ซึ่งก็เพราะคำสอนของพ่อก็คือการอยู่อย่างพอเพียงนั่นเอง


โดยทุกวันนี้รูปเหล่านี้มีความหมายกับนางอุไรมากถึงแม้ในชีวิตนี้ไม่เคยจะมีโอกาสได้เข้าเฝ้าหรือใกล้ชิดพระองค์เลยสักครั้ง แต่พระองค์ก็ไม่เคยห่างจากประชาชนชาวไทยยังคงเฝ้าดูอยู่ไม่ห่างและกาลเวลาจะเปลี่ยนไปเท่าไร เชื่อว่าปวงชนชาวไทยยังคงคิดถึงท่านเสมอมาและเชื่อว่ารูปในหลวงนั้นเป็นรูปที่มีทุกบ้านเพราะปวงชนชาวไทยยังรักท่านเหมือนพ่อของตัวเอง นี่เป็นความรู้สึกของร่างอุไรที่มีแด่พระองค์ท่านซึ่งครอบครัวที่มีอาชีพทำนา และใช้ชีวิตเรียบง่ายตามวิถีที่เป็นอยู่และเชื่อว่าชาวไทยทุกคนคงรู้สึกสึกเหมือน นางอุไรที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร หรือในหลวงรัชกาลที่ 9

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ