อาชญากรรม

อดีตนางเอกร้องกองปราบฯ โดนเพื่อนสามี หลอกลงทุนซื้อขายทอง สูญกว่า 3 ล้าน

โดย nutda_t

11 ต.ค. 2566

1.5K views

จ่าคิงส์ สะพานใหม่ พา นางวนิษฐา วัชโรบล อายุ 63 ปี อดีตนักแสดง นางเอก "เจ้าหญิงแตงอ่อน" และ "โสนน้อยเรือนงาม" พร้อมนายวีระวัฒน์ วรรธนกุล สามี เดินทางเข้าพบ พงส.บก.ป.แจ้งความ กรณีโดนเพื่อนรักของสามี ซึ่งเป็นบุตรชายอดีตนักร้องลูกกรุงชื่อดังกับอดีตนางเอกภาพยนตร์ ฉ้อโกงด้วยการหลอกลงทุนเทรดทองผ่านแอปฯ สูญเงินเก็บก้อนสุดท้ายร่วม 3 ล้านบาท




นางวนิษฐา เปิดเผยว่า ปัจจุบันตนพักอยู่หมู่บ้านย่านสมุทรปราการ อดีตเป็นนักแสดงละครจักรวงศ์รุ่นเก่า แต่งงานกับนายวีระวัฒน์ วรรธนกุล ถูกเพื่อนรักของสามีเข้ามาหลอกลวงในรูปมิจฉาชีพ ชักชวนให้ลงทุน เพราะตนและสามีต่างเป็นผู้เกษียณอายุ ต้องการหารายได้เลี้ยงชีพ ด้วยความเป็นเพื่อนสนิท ถูกหว่านล้อมต่างๆนาๆ ให้นำเงินมาลงทุนให้หมด เพื่อจะได้รับผลประโยชน์สูง ถึงขนาดยุให้เอารถยนต์ที่ใช้อยู่ไปขาย เพื่อจะได้เอาเงินมาสมทบให้มากที่สุด ซึ่งเขาและครอบครัวทำอยู่ ได้รับผลตอบแทนมาอย่างดี ที่สำคัญต้องการขอเงินคืนเมื่อไหร่ สามารถถอนได้ทันที เพราะเขารับประกันเต็มร้อยว่าที่ทำเป็นคนรู้จักกันอย่างดีมาก มีบุญคุณกันมา การันตีไว้ใจตัวเขาได้


นางวนิษฐา กล่าวอีกว่า เพื่อนสามีคนนี้ชื่อนายวี อ้างว่าเป็นประธานบริษัทฯ มีภรรยาทำเกี่ยวกับร้านอาหารสัตว์ เป็นหุ้นส่วนคอกม้า และกิจการร้านอาหารญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังเปิดร้านขายเบียร์ในห้างดังด้วย ความที่เป็นเพื่อนกับสามี เป็นบุตรชายของอดีตนักร้องลูกกรุงชื่อดัง คุณแม่เป็นนางเอกหนังยุคเก่า เป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม เพื่อนๆ เชื่อถือเขามาก




พฤติการณ์เริ่มชักชวนให้ลงทุนเมื่อ ต.ค. 64 จากหลักแสนเป็นหลักล้าน กับบริษัทซื้อขายทอง ในระยะแรกได้มีผลตอบแทนมาประมาณ 2-3 เดือนเท่านั้น หลังจากนั้นเริ่มมีแต่คำพูดให้รอ และเริ่มไม่รับผิดชอบมาตลอด ตนขอดูหลักฐานในการโอนไปลงทุน ก็บ่ายเบี่ยง และมีแจ้งมาบ้างว่าได้คืนแน่นอน และตัวเขาจะหาเงินมาคืนให้ทั้งหมด แล้วจะรับภาระแทนเรา ตนให้โอกาสมาจนเกือบ 2 ปีแล้ว ไม่มีอะไรได้คืนเลย ถ้าเขาเอาเงินไปลงทุนทองจริง ต้องมีหลักฐานในการโอนเงิน แต่ขอดูเท่าไหร่ไม่มีมาให้ดู ซึ่งหมายความว่าเขาหลอกลวงฉ้อโกง เอาเงินเราไปทำประโยชน์อย่างอื่นเพื่อตัวเขาเอง ได้สอบถามกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน กลับได้รับคำตอบว่า เพื่อนอีกหลายคน โดนหลอกลวงฉ้อโกงอีกเช่นเดียวกัน จนครั้งสุดท้าย ตนท้วงถามให้หาเงินมาคืนให้ กลับมีการขู่ว่าจะไม่คืน และขู่ว่าพวกเราจะโดนดีแน่


วันนี้จึงมาขอความยุติธรรมทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสื่อต่างๆ เป็นที่พึ่ง เราเดือดร้อนมาก เพราะเงินจำนวนนี้เป็นเงินก้อนสุดท้ายที่เก็บไว้ทำธุกิจค้าขาย เพื่อเป็นรายรับสำหรับบั้นปลายชีวิต เขาไม่เคยสนใจจะเยียวยา ไม่ใส่ใจ ทางเรากลับต้องไปกู้หนี้ยืมสิน เพื่อการดำรงอยู่รอดตลอดมา ไปหาหมอรักษาจากโรคภัยที่คุกคาม ซึ่งทางสามีและตน เครียดมากมาตลอด ตนป่วยเป็นเส้นโลหิตในสมองตีบ สามีคิดมากป่วยเป็นโรคซึมเศร้า คิดจะฆ่าตัวตายหลายต่อหลายครั้ง จึงขอความเห็นใจจากทุกฝ่ายให้ช่วยเหลือ ช่วยคืนความยุติธรรมให้กับพวกเราด้วย มิจฉาชีพในคราบเพื่อนรัก


เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ตรวจสอบข้อมูลผู้เสียหายก่อนพิจารณาดำเนินการต่อไป



คุณอาจสนใจ