เลือกตั้งและการเมือง

“สว.วันชัย” ถาม “ชาดา” ปราบผู้มีอิทธิพลทำได้จริงหรือไม่ “ชาดา” บอกจะไม่ทำแบบไฟไหม้ฟา เตรียมเดินหน้าทลายรัง-สร้างระบบ

โดย paranee_s

9 ต.ค. 2566

97 views

วันนี้ (9 ต.ค. 2566ฉ ที่รัฐสภา ในการประชุมสมาชิกวุฒิสภา นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ตั้งกระทู้ถามนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เรื่องการปราบปรามผู้มีอิทธิพล โดยมีนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ตอบแทน


นายวันชัย กล่าวว่า หากจะถามตรง ๆ ในฐานะที่เป็นนักเลง คงไม่โกรธ ความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนต้องการดำเนินการในเรื่องปราบผู้มีอิทธิพลเป็นเรื่องสำคัญ


“ประชาชนทั่วไปมีความรู้สึกว่า เราเอานักเลงมาปราบนักเลง เอาเจ้าพ่อมาปราบเจ้าพ่อ ขออภัยนะครับ เอาผู้มีอิทธิพลแห่งจังหวัดอุทัยธานี มาปราบผู้มีอิทธิพลทั้งประเทศ นี่เป็นความรู้สึกของชาวบ้านว่าจะทำได้จริงหรือไม่” นายวันชัย


นายวันชัย กล่าวต่อว่า ความเชื่อมั่นเป็นเรื่องสำคัญที่สุด การทำได้ถือเป็นเรื่องดี แต่สิ่งที่เรามีความรู้สึกว่าจะทำได้จริงหรือไม่ หรือจะทำได้นานแค่ไหน หรือแค่สร้างภาพกันเท่านั้น เพราะขนาดรัฐบาลที่มีอำนาจเต็ม เข้ามาก็ลุยแหลก สารพัดบ่อนซ่อง แปบเดียวก็เข้าสู่สภาวะปกติเหมือนเดิม ทั้งที่อำนาจเต็มใช้องคาพยพในบ้านเมืองได้


แล้วรัฐมนตรีจะมีอำนาจเต็มแบบนั้นหรือไม่ เพราะผู้มีอิทธิพลในประเทศไทยรัฐมนตรีก็ทราบดี ส่วนใหญ่จะมาจากบ้านใหญ่ ซึ่งครอบคลุมนักการเมือง บางบ้านก็เป็นรัฐมนตรีเสียเอง หรือ อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จึงไม่แน่ใจว่าเป็นการลูบหน้าปะจมูกหรือไฟไหม้ฟางหรือไม่


ตนเห็นนายชาดา ไปประชุมที่จังหวัดอุทัยธานี ก็มั่นใจว่าท่านทำได้ เป็นพื้นที่สีขาวแบบที่ท่านพูดไว้ แต่กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ที่รัฐมนตรีต้องจัดการด้วยหรือไม่ มีทั้ง บ่อน ซ่อง พนันออนไลน์ ปัญหาต่างๆ


“ขนาดสำนักงานตำรวจแห่งชาติอิลุงตุงนังกันอยู่เลย ที่พูดมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงอารัมภบท ให้เห็นว่าโยงใยเครือข่ายของผู้มีอิทธิพลมันครอบคลุม ฝังรากลึกมานาน” นายวันชัย กล่าว


นายวันชัย ตั้งคำถามว่า คำว่าผู้มีอิทธิพลที่รัฐมนตรีจะปราบปราม ครอบคลุมแค่ไหน เพียงไร ระดับไหน ทั่วประเทศหรือไม่ ตนเห็นมีคณะกรรมการต่าง ๆ 20 กว่าคน จะมีกระบวนการการจัดการในรูปแบบใด แปลกแหวกแนวเหมือนที่เคยทำในอดีตหรือไม่ จะทำได้จริงหรือไม่ ใช้เวลาเท่าไหร่ที่พอจะเห็นมรรคผล หรือตั้งไว้แค่นั้น และระยะเวลากว่า 1 เดือนได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง


“ผมเองที่พูดมาทั้งหมด ผมเชื่อมั่นในตัวท่าน เพราะเป็นคนพูดมาจากใจ เป็นนักเลงตัวจริง ผมอยากให้มีผลงานปรากฏอยู่ในประเทศนี้” นายวันชัย กล่าว


จากนั้น นายชาดา ตอบกระทู้ว่า เรียกตนว่านักเลง ตนไม่โกรธ เพราะว่านักเลงกับอันธพาลไม่เหมือนกัน รูปแบบการทำงานของตน ต้องเรียนด้วยความเคารพว่าในอดีตที่ผ่านมาเรามีการขึ้นบัญชีผู้มีอิทธิพลหลายครั้ง ในวันนี้ก็ยังมีอยู่และพัฒนาการขึ้นไปเรื่อย ๆ ตนเรียนว่า จะไม่ทำแบบไฟไหม้ฟางและหวือหวา เช่น จะไปค้นบ้านนู้นบ้านนี้ แต่ตนจะให้จังหวัดโดยกรมการปกครองขึ้นบัญชีและบอกพฤติกรรมด้วยว่าเป็นอย่างไร


การปราบปรามผู้มีอิทธิพลในลักษณะที่ถูกต้อง ตนเรียนว่าต้องเข้าไปดำเนินการทั้งหมด ต้องให้อาณาจักรล่มสลายไปเลย เพราะฉะนั้น หากนำผู้มีอิทธิพลไปติดคุก แต่อาณาจักรผู้มีอิทธิพลยังอยู่ ก็จะเหมือนกับประเทศเวเนซุเอลาที่ทหารต้องไปทลายเรือนจำ เนื่องจากมีความหรูหรา พร้อมขอให้สบายใจได้


“บ้านใหญ่ส่วนมากล่มสลายแล้ว ผมเชื่อว่าบ้านใหญ่รุ่นใหม่คงไม่อาศัยผู้มีอิทธิพลแล้ว เพราะประชาชนเขาไม่เลือกหรอกครับ ที่จะเอาไปข่มขู่แบบในอดีต ไปแจกเงินแล้วเอามือปืนไปข่มขู่ ผมว่ายุคนี้มันไม่มีแล้วในสังคมปัจจุบัน” นายชาดา กล่าว


นายชาดา กล่าวว่า ตอนนี้ตนรวบรวมรายชื่อแล้วให้เจ้าหน้าที่ตำรวจผสมกับฝ่ายปกครอง ซึ่งได้ดำเนินการขอไปตามหน่วยงานต่าง ๆ ว่ามีใครบ้าง เอารายชื่อมาทับซ้อนกัน รวมถึงเปิดศูนย์ร้องเรียนจากประชาชนโดยตรง ซึ่งในการทำงานเราต้องนำรายชื่อมาดูว่าจริงเท็จอย่างไร ที่ กทม. เราได้ให้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลทำรายชื่อ ตนมีความเชื่อว่าในอำเภอกับผู้กำกับต้องรู้เรื่องพื้นที่ดี


“ผู้ใหญ่บ้านก็ต้องรู้ คุณไม่รู้ได้อย่างไรว่ามีการขายยาเสพติดในหมู่บ้านคุณ คุณไม่รู้ได้ยังไงว่ามีผู้มีอิทธิพลในหมู่บ้านคุณ มีปัญหา ผู้ใหญ่บ้านต้องรับผิดชอบ นายอำเภอต้องเข้ามาดูว่ามีรายงานไหม” นายชาดา กล่าว


นายชาดา ยังกล่าวด้วยว่า กรมการปกครองเคยส่งมาให้แล้ว แต่ตนให้กลับไปทำใหม่ ตนมีการแบ่งแยกเป็นโซนสีแดง สีเขียว ขอให้เชื่อมั่นว่าการทำงาน ตนสามารถทำได้ ตนไม่มีกองกำลัง ก็จะใช้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการ ใช้ระบบราชการที่มีอยู่ ว่ากันไปตามระบบ สิ่งสำคัญคือผู้ที่กระทำความผิดซ้ำถือว่าเข้าข่ายผู้มีอิทธิพล


“ผมคนตรงนะครับ อิทธิพลมีทั้งด้านดี และด้านไม่ดี อิทธิพลด้านดีไม่เป็นไร ยังมีอิทธิพลด้านความคิดที่สร้างความแตกแยกให้บ้านเมือง เราก็จะเอาเข้ามาอยู่เหมือนกัน หนักกว่าผู้มีอิทธิพลที่อยู่ตามต่างจังหวัดอีก” นายชาดา กล่าว


จากนั้น นายวันชัย ถามคำถามต่อว่า ตนอยากได้คำตอบอย่างชัดเจนว่า คำจำกัดความของคำว่าผู้มีอิทธิพล มีวิธีการจัดการแล้วหรือไม่ กังวลว่าจะซ้ำกับการดำเนินงานของตำรวจหรือไม่ การเปิดบ่อน เปิดซ่องอยู่ในอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีชาดาหรือไม่ นอกจากนี้ ที่บอกว่าจะเอาให้หมดเนื้อหมดตัว ไม่มีที่อยู่ในสังคม จะทำอย่างไร ตลอดระยะเวลา 1 เดือน มีอะไรเป็นรูปธรรมแล้วหรือยัง ผู้มีอิทธิพลพอจะหดหัวได้บางหรือไม่ หรือเข้ากับสำนวนไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ ตนขอความชัดเจน


ทำให้นายชาดา กล่าวว่า ในปัจจุบันเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับอยู่แล้วทุกคดี แต่อาจจะยังดำเนินการไม่ได้ แต่ครั้งนี้รูปแบบคือเข้าไปบูรณาการกับทุกฝ่าย จะต้องตรวจสอบภาษีด้วย ตามที่มาของเงิน ตามที่มาของอาณาจักร ถือเป็นครั้งแรกที่เอากรมสรรพากรเข้าไปตรวจสอบด้วย ตนต้องการให้ระบบที่ดีเกิดขึ้นกับบ้านเมือง นอกจากนี้ต้องดูว่าใครเป็นลูกน้อง เป็นมือเป็นไม้


ก่อนที่นายวันชัย จะลุกขึ้นกล่าวต่อว่า ตนไม่มีอะไรจะถามแล้ว แต่อยากจะฝากไว้ด้วยความเคารพ กลัวฟังจากน้ำเสียงความจริงจังแล้ว ตนเชื่อ และเชื่อว่านายชาดาจะพิสูจน์ตัวเองต่อพี่น้องประชาชน อย่างน้อยที่สุด ก็พิสูจน์กับชาวอุทัยธานีมาหลายสมัย ตนจะติดตามนักเลงแห่งลุ่มแม่น้ำสะแกกรัง


จากนั้นนายชาดา ได้กล่าวขอบคุณนายวันชัย พร้อมย้ำว่าเวลานี้ตนต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน วันนี้ถือว่าถูกที่ถูกทาง เต็มใจที่จะทำงาน แล้วจะทำงานนี้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ตนคงไม่ยอมเอาชีวิตทั้งชีวิต งานที่ทำมา มาทิ้งกับเรื่องนี้


“ไม่รู้จะพูดอย่างไร แต่มันเหมาะซะยิ่งกว่าเหมาะอีกครับท่าน ผมเรียนด้วยความเคารพ ก็ถือว่าเป็นบุญของผมและบุญของประเทศที่เข้ามาแล้วเกิดเหตุการณ์เรื่องนี้ท่านนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ท่านถามผมคำแรกเลยว่าไหวไหม ถ้าไม่ไหวบอกมา ผมบอกด้วยความเคารพ ผมทำไหว” นายชาดา กล่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ