ตำรวจคุมตัวเยาวชนวัย 15 และ 17 ปี สอบปากคำ ต้องสงสัยอดีตเอกอัครราชทูตเสียชีวิต

ตำรวจนครบาลสุทธิสาร คุมตัวเยาวชนอายุ 17 ปี มาที่ห้องสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลสุทธิสาร ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยก่อเหตุลงมือฆาตกรรม นายวิชิต อดีตเอกอัครราชทูต ณ กลุ่มโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก อายุประมาณ 63 ปี หลังเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพบเสียชีวิตภายในห้องน้ำชั้น 2 ของบ้านพัก ภายในซอยวิภาวดี 20 โดยพบว่าผู้เสียชีวิตถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่หน้าอก และมีกล่องกระดาษวางทับร่างของผู้เสียชีวิตเอาไว้


ซึ่งขณะที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องสงสัยเข้าห้องสืบสวน พบว่ามีเยาวชนอายุ 15 ปี (เสื้อขาว) และผู้ปกครองเดินทางมาด้วย และได้เชิญตัวผู้ปกครองออกมาแยกสอบที่ห้องพนักงานสอบสวน โดยผู้ปกครองของเด็กไม่ยอมที่จะเปิดเผยข้อมูลใด ๆ ทั้งสิ้นกับสื่อมวลชน


จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง และเดินทางเข้ามาประชุมกับคณะพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจนครบาลสุทธิสาร


จากนั้น พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตของอดีตเอกอัครราชทูต ภายในบ้านหรู ซอยวิภาวดี 20 กับสื่อมวลชนว่า เบื้องต้นผลตรวจร่างกายผู้เสียชีวิต พบถูกแทงบริเวณหน้าอก 3 แผล ขณะเดียวกัน ภายในบ้านมีรอยคราบเลือดตั้งแต่ประตูหน้าบ้านไปจนถึงห้องน้ำชั้น 2 จุดพบศพ คาดว่าคนร้ายหน้าจะลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้เสียชีวิตทันทีที่เจอกันครั้งแรก


จากการสอบถามกับญาติผู้ตาย ทราบว่าญาติไม่สามารถติดต่อผู้ตายได้ตั้งแต่ 27 กันยายน 2566 หรือประมาณ 11 วันที่แล้ว ปกติแล้วผู้ตายพักอาศัยอยู่คนเดียว ซึ่งเดิมผู้ตายพักอาศัยอยู่ที่คอนโด เพิ่งจะย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2566 หลังปรับปรุงซ่อมแซมบ้านเสร็จ


โดยวันนี้ช่างที่มาปรับปรุงบ้าน ซึ่งมีกุญแจบ้านไขกุญแจเข้าไปภายในบ้าน พบว่าเจ้าของบ้านกลายเป็นศพอยู่ในห้องน้ำชั้น 2


เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นอดีตข้าราชการระดับสูง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงกำชับให้ดำเนินการเรื่องนี้ให้รวดเร็วรัดกุมที่สุด เบื้องต้นจากการรวบรวมหลักฐาน และเรียกบุคคลมาสอบปากคำ ผู้ก่อเหตุไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับครอบครัวผู้ตาย หรือครอบครัวของผู้ใกล้ชิด ซึ่งเป็นช่างที่เข้ามาปรับปรุงบ้านให้ผู้ตาย แต่เนื่องจากครอบครัวช่างมีเยาวชน ดังนั้นจึงต้องรอการสอบปากคำพร้อมสหวิชาชีพ แต่ยืนยันว่าตำหนิรูปพรรณคนร้ายที่ตำรวจได้มา ไม่เกี่ยวข้องกับครอบครัวช่างที่มาทำบ้าน


จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีการรื้อค้นทรัพย์สินภายในบ้านบริเวณชั้น 1 และ ชั้น 2 จึงเชื่อได้ว่าคนร้ายประสงค์ต่อทรัพย์ แต่เบื้องต้นไม่มีร่องรอยการงัดแงะภายในบ้าน แต่จุดเกิดเหตุคล้ายว่าเกิดบริเวณประตูทางเข้าบ้านเลย เพราะมีร่องรอยกระเซ็นของเลือด ทางการสอบสวนเชื่อว่ามีการต่อสู้ครั้งแรกที่เจอหน้ากันเลย ส่วนอาวุธที่คนร้ายใช้ทำร้ายผู้ตายเป็นมีดทำครัว จำนวน 2 เล่ม เพราะเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พบคราบเลือดที่มีด 2 เล่ม จากมีดทั้งหมด 5 เล่ม ที่เสียบเก็บไว้ภายในที่เก็บมีดของบ้าน


ส่วนกรณีที่ชาวบ้านบอกว่าผู้ตาย พักอาศัยอยู่กับลูกเลี้ยงนั้น ลูกเลี้ยงในที่นี้ ตำรวจก็หมายถึงครอบครัวช่างที่สนิทกัน ขณะนี้ได้เรียกตัวมาสอบสวนแล้ว แต่ในครอบครัวมีเยาวชน จึงต้องสอบร่วมกับสหวิชาชีพ แต่ทราบมาว่าลูกเลี้ยงไม่ได้อาศัยกับผู้ตายนานกว่า 2 เดือนแล้ว


ทั้งนี้ตำรวจคาดว่า คนร้ายน่าจะเข้าไปภายในบ้านโดยผู้ตายเป็นคนเปิดประตูบ้านให้ เพราะไม่พบร่องรอยการงัดแงะ แต่ในพื้นที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดอยู่ด้วย ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ แต่ ผบ.ตร.กำชับแล้วให้ทำคดีนี้ให้เร็วที่สุด