สังคม

แม่-พี่สาวร่ำไห้ เป็นห่วงลูกชาย-สะใภ้ ถูกจับเป็นตัวประกัน วอนหน่วยงานรัฐช่วยเหลือ

โดย paranee_s

8 ต.ค. 2566

903 views

วันนี้ (8 ต.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีแรงงานไทยไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล ถูกกลุ่มกองกำลังติดอาวุธยิงขีปนาวุธถล่มอิสราเอล และมีกองกำลังติดอาวุธบุกจับแรงงานไทยที่ทำงานในบริเวณดังกล่าว ล่าสุด เป็นแรงงานชาวจ.อุดรธานีถึง 5 คน ประกอบด้วยนายบุญถม อายุ 45 ปี ชาวบ้าน อ.สร้าง ส่วนภรรยานายบุญถมคือ นางณัฐฐาวรี หรือ โย อายุ 35 ปี ชาวอ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น,นายอนุชา ชาวตำบลปะโค อ.กุดจับ จ.อุดรธานี,นายมณี ชาวต.นาไหม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี,นายเกียรติศักดิ์ ชาวอ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี และนายมาโนช ถูกยิงอาการสาหัส เป็นชาวต.เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี


ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านในหมู่ 1 บ้านหินโงม ต.หินโงม อ.สร้างคอม พบกับนางเขียน อายุ 85 ปี แม่ของนายบุญถม ซึ่งเมื่อรู้ข่าวลูกชายถูกจับมีอาการตกใจ โดยนางเขียนบอกว่า มีลูกทั้งหมด 9 คน ซึ่งคนที่ไปอิสราเอลเป็นลูกคนสุดท้อง ไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลหลายปีแล้ว รู้ข่าวแล้วว่าลูกชายถูกจับเพราะลูก ๆ เล่าให้ฟัง ก็เป็นห่วงลูกชายกินไม่ได้นอนไม่หลับ


ขณะที่นางอุไร อายุ 61 ปี พี่สาว เปิดเผยว่า น้องชายไปทำงานประเทศอิสราเอลได้ 5 ปีกว่าแล้ว พอรู้ข่าวก็ตกใจทั้งแม่และพี่สาวก็เป็นห่วงน้องชายมาก คิดถึงน้องกลัวน้องเป็นอันตราย อยากให้มีชีวิตรอดปลอดภัยกลับมาหาแม่และพี่ ๆ ทุกคนเป็นห่วง ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยปกปักรักษาให้น้องชายและน้องสะใภ้รอดปลอดภัยด้วยเถิด และอยากจะวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ช่วยน้องชายและคนไทยทุกคนที่ถูกจับด้วย โดยนางอุไรพูดไปก็ร้องไห้ไป


ขณะเดียวกันมีรายงานว่า วันนี้เวลา 11.00 น. นายนพดล จงสมชัย แรงงานจังหวัดอุดรธานี ลงพื้นที่บ้านในหมู่ 1 บ้านหินโงม เยี่ยมครอบครัวของแรงงานไทย สร้างขวัญกำลังใจ พร้อมแจ้งข้อมูลข่าวสาร ชี้แจงการให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับตามกฎหมายให้แก่ญาติทราบ


สำหรับจ.อุดรธานี มีรายงานว่า ขณะนี้มีแรงงานไทยที่เป็นคนจ.อุดรธานีถึง 5 คนที่ถูกจับและได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ โดยทางเจ้าหน้าที่จากแรงงานจ.อุดรธานีและจัดหางานจ.อุดรธานีจะเดินทางไปพบกับครอบครัวผุ้ประสบภัยทั้งหมดในวันนี้


ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า 2 สามีภรรยาชาวอุดรถูกจับนั้น ได้มีชื่อของนางศิริวรรณ ด้วย ซึ่งนนางศิริวรรณ ไม่ใช่ภรรยา แต่เป็นหลานสาวของนายบุญถม โดยออกมายืนยันตัวตนว่า ตนเองไม่ได้ถูกจับ แต่ก่อนเคยไปทำงานประเทศอิสราเอล กลับบ้านตั้งแต่ปี 62 หรือ 4 ปีที่แล้ว พร้อมกับนำบัตรประชาชนมายืนยันตัวตนกับเจ้าหน้าที่ฯ ว่าไม่ได้ถูกจับ ข่าวออกไปคลาดเคลื่อน

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ