สลด! เด็กหญิง 4 คน ลงเล่นน้ำจมฝายน้ำล้นลำน้ำเตา เป็นศพทั้งหมด

พบศพอยู่ห่างจากฝายน้ำล้นไปทางทิศเหนือบริเวณที่เด็กลงเล่นช่วงระหว่าง 10 - 40 เมตรผลัดกันไปตามลำดับในระดับน้ำลึก 2-3 เมตรห่างจากฝั่งประมาณ 7 เมตรเมื่อเวลา 11.00 น.

วันที่ 7 ตุลาคม 2566 ร.ต.อ.สันติ คำอำไพ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเด็กจมน้ำหายไป 4 คน ที่บริเวณฝายน้ำล้นลำน้ำเตา บ้านโพนเงินหมู่ 4 ตำบลเมืองบัว อำเภอเกษตรวิสัย หลังได้รับแจ้งจึงพร้อมด้วยพ.ต.ท.ปรีชา คำทองเขียว รองผู้กำกับสอบสวนสภ.เกษตรวิสัย และประสานงานไปยังหน่วยกู้ภัยในพื้นที่ให้นำนักประดาน้ำมาช่วยกันค้นหา โดยเจ้าหน้าที่และนักประดาน้ำใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงจึงพบศพแรก ชื่อเด็กหญิงพิมพ์นภา อายุ 10 ปี สักพักก็พบศพที่ 2 คือเด็กหญิงประภาศรี อายุ 12 ปี พบศพที่ 3 คือเด็กหญิงปิยกร อายุ 10 ปี และศพสุดท้ายชื่อเด็กหญิงกรพิชชาอายุ 10 ปี

จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่าเด็กหญิงทั้ง 4 คนได้ชวนกันมาหาพ่อซึ่งหาปลาอยู่ใกล้บริเวณดังกล่าวแล้วชวนกันลงเล่นน้ำผู้เป็นพ่อก็ได้ไล่ให้ขึ้นจากน้ำแล้วไปหาปลาต่อ จากนั้นกลับมาดูบริเวณที่เกิดเหตุอีกครั้งพบแต่รองเท้า และเสื้อผ้าจึงเดินตามหาและร้องตะโกนหาไม่มีเสียงตอบรับจึงรีบวิ่งเข้าไปในหมู่บ้านแจ้งให้เพื่อนบ้านมาช่วยกันหาแต่ระดับน้ำลึกไม่สามารถงมหาได้

จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบและให้นักประดาน้ำมาช่วยเหลือ จนกระทั่งพบศพดังกล่าว สำหรับสถานที่เกิดเหตุนั้นเป็นฝายดินที่ชาวบ้านให้รถแม็คโครมาขุดกั้นลำน้ำเตา เพื่อกัดเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง แต่เมื่อฤดูฝนที่ผ่านมาน้ำมีปริมาณมากจึงเซาะให้คันดินกั้นน้ำขาดอยู่ช่วงกลางเป็นช่องกว้างประมาณ 5 เมตร ก็ท่วมทำให้มองไม่เห็น ซึ่งในช่วงฤดูแล้งและก่อนหน้านี้เด็กก็เคยเดินข้ามคันดินและมาเล่นน้ำในบริเวณดังกล่าวแต่วันนี้คงไม่ทราบว่าด้านล่างนั้นคันดินขาดแล้วและมีระดับน้ำไหลเอื่อยๆตลอดเวลาเมื่อพากันเดินข้ามไปจึงทำให้ตกร่องคันดินที่ถูกน้ำกัดเซาะขาดและพยายามจะช่วยกันแต่เหนี่ยวรั้งจึงจมน้ำไปด้วยกันทั้งหมด ถูกน้ำพักพาไปจมน้ำตายดังกล่าว