"อัจฉริยะ" ร้อง ปปป. เอาผิด "บิ๊กโจ๊ก" ม.157 ขวางค้นบ้าน พร้อมจี้สอบร่ำรวยผิดปกติ

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมายื่นเรื่องให้กับทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จำนวน 2 เรื่อง คือ การร้องทุกข์ต่อพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตามความผิดฐานมาตรา 157 และ ฐานความผิดร่ำรวยผิดปกติ ตาม พ.ร.บ. ปปช. มาตรา 61


จากกรณี ก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนได้มีการนำหมายค้นเข้าไปตรวจสอบบ้านพักแห่งหนึ่งในซอยวิภาวดี 60 ซึ่งพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ออกมาขัดขวางไม่ให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวนที่มีการนำหมายค้นจากศาลไปแสดง ซึ่งถือว่ามีมีความผิดตามมูลฐานความผิดมาตรา 157


และกรณีที่ 2 คือพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ให้ข้อมูลว่ามีการให้เงินกับลูกน้องคนสนิทเพื่อใช้จ่ายในกิจการของสำนักงานเดือนละกว่าหนึ่งล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวไม่มีที่มาที่ไป จึงเดินทางมาร้องขอให้พนักงานสอบสวน บก.ปปป. เข้ามาดำเนินการ ตาม พ.ร.บ. ปปช. มาตรา 61


เรื่องที่ 2 คือตนเองนำข้อมูลเกี่ยวกับที่ปรึกษาของศูนย์พิทักษ์เด็กและสตรีของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ เป็นผู้บังคับบัญชาดูแลอยู่ ได้มีที่ปรึกษาคนนี้ ณ ขณะนั้นดำรงตำแหน่งยศพลตำรวจตรี มีการรับเงินจากบัญชีม้าของนายพุฒิพงษ์ พูนศรี ซึ่งเป็นบัญชีเครือข่ายของมินนี่ เดือนละกว่า 50,000 บาท ซึ่งมีในตำรวจติดตามของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ เป็นผู้ดำเนินการ ร้องให้ทาง บก.ปปป. ตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย


แต่ปัจจุบันนายตำรวจคนดังกล่าวเกษียณอายุราชการออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นที่เรียบร้อย ส่วนรายละเอียดว่าที่ปรึกษาคนนี้มีการรับเงินจากบัญชีม้าด้วยเหตุผลใดเป็นหน้าที่ของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ที่ต้องไปชี้แจง


ขณะที่นายอัจฉริยะ ยังมีการเปิดหลักฐานที่อ้างว่า เป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์ในวันนี้ของตนเอง แน่นอนกว่าของทนายอนันต์ชัย คือ ตนเองเคยมอบหลักฐานชุดนี้ให้กับพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ เพื่อให้ตรวจสอบ เครือข่ายของนายตำรวจคนสนิทของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ทำเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งตนเองเคยยื่นหลักฐานทั้งหมดและตัวพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ รวมถึงพันตำรวจเอกภาคภูมิ และคณะทำงานของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดี


ซึ่งเรื่องดังกล่าวคือเรื่องของเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ในภาคตะวันออก (ภาค 2) เว็บ nigoal 88 ที่เป็นเว็บพนันของเพื่อนบิ๊กโจ๊ก ชื่อแจ๊คกี้ รุ่น 47 ซึ่งในตอนนั้นพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ได้มีการรับหลักฐานทั้งหมดและบอกกับตนเองว่าจะดำเนินการตรวจสอบภายใน 7 วัน และหากพบว่าลูกน้องหรือบุคคลคนสนิทของตนเองที่เป็นคนดี มีการกระทำความผิด เกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ ก็จะดำเนินการลงโทษให้ออกจากราชการไว้ก่อน


แต่จนถึงปัจจุบันผ่านมาหลายเดือนก็ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ ในกรณีนี้และเรื่องก็เงียบหายไป และปัจจุบันตัวนายแจ๊คกี้ ก็ยังคงเป็นรองผู้บังคับการในภาคตะวันออก


อีกเรื่องคือตนเองยังเคยนำหลักฐาน ที่พบว่ามีนายตำรวจยศพันตำรวจเอก คนสนิทของบิ๊กโจ๊ก เป็นที่ปรึกษาและเป็นหุ้นส่วนกับเว็บพนันออนไลน์ ที่เป็นเครือข่ายเช่นเดียวกับมินนี่ โดยมีนายมาร์ค เป็นตัวกลางที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของตำรวจ รับบัญชีม้าและเปิดเว็บพนันออนไลน์ในภาคตะวันออก ซึ่งใครจะเปิดเว็บพนันจะต้องผ่านนายมาร์คคนนี้ ซึ่งเป็นสาขาที่เกี่ยวข้องกับพันตำรวจเอกคนสนิท


ซึ่งยังมี สส. ของฝ่ายรัฐบาล ร่วมอยู่ด้วย โดยเครือข่ายดังกล่าวเรียกว่าเครือข่ายหวยสด มีความเกี่ยวพันกับ 2 ลูกตำรวจ ที่ถูกออกหมายจับในคดีมาเก๊า 888 ซึ่งหลักฐานทั้งหมดตนเองได้มอบให้กับบิ๊กโจ๊กไปเช่นเดียวกัน รวมถึงยังได้มีการนำพยานไปให้บิ๊กโจ๊กทำการสอบปากคำด้วย ซึ่งพยานได้มีการยืนยันตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของเว็บพนันดังกล่าว แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ มาจนถึงปัจจุบัน


นอกจากนี้ในส่วนของนายตำรวจคนสนิทยศพันตำรวจเอกรายนี้ ยังมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีของนายพุฒิพงษ์ เช่นเดียวกัน ซึ่งจากข้อมูลของตนเอง พบว่านายตำรวจคนนี้ถือเป็นตัวจี๊ดในทีมงานของบิ๊กโจ๊ก ซึ่งนายตำรวจคนนี้ยังเคยมีการนำคลิปวงจรปิด ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่อ้างว่าตนเองมีความเกี่ยวข้องกับเป้ 140 ล้านไปให้กับนักข่าวคนสนิทช่องมากสีนำเสนอ ซึ่งนายตำรวจคนสนิทคนนี้เป็นตำรวจในสังกัดตำรวจตรวจคนเข้าเมือง


ซึ่งทั้งสองเรื่องตนเองได้ให้กับบิ๊กโจ๊กไปก่อนหน้านี้แต่ยังไม่มีการทำ เพราะเป็นเครือข่ายของตัวเอง ที่บิ๊กโจ๊กอ้างว่าเป็นคนดี แต่ในวันนี้ทั้ง 8 คนเข้าไปเกี่ยวข้องจนมีการถูกออกหมายจับและหมายค้น รวมถึงอีก 2 คนนี้ที่ปรากฎตามหลักฐานที่ตนเองแสดงในวันนี้ต่อสื่อมวลชนร่วมด้วย ซึ่งตนเองอยากให้สื่อมวลชนไปถามบิ๊กโจ๊กว่าหลักฐานทั้งหมดนี้ตนเองเคยนำไปมอบให้จริงหรือไม่


ในวันนี้จึงออกมาเปิดหลักฐานทั้งสองเพื่อให้สังคมได้รับรู้ ว่าคนที่สังคมมองว่าเป็นคนขยันทำงานทำงานเก่ง แต่เมื่อเป็นคนสนิทคนใกล้ชิดกระทำความผิดซะเองกลับไม่ดำเนินการใดๆ


นอกจากนี้ในส่วนของพยานที่เป็นบัญชีม้าที่ถูกตำรวจสำโรงเหนือจับกุม และให้เปิดบัญชีม้า ก็จะมีการเดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมในวันพรุ่งนี้ บก.ปปป. ซึ่งตนเองยืนยันว่าตนเองมีข้อมูลว่าใครเป็นคนสั่งการให้ไปเปิดและใครที่นำบัญชีนี้ไปใช้


พร้อมกันนี้ตนเองยัง อยากฝากถึงผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนอยู่ว่า ในคดีของกำนันนกที่ปรากฏข้อมูลว่ามี 6 ตำรวจกระทำความผิม ยังมีการดำเนินการให้ 6 ตำรวจที่เกี่ยวข้องออกจากราชการก่อน แต่ในส่วนตัวของ พันตำรวจโทคริษฐ์ ผิดแล้วผิดอีก และยังเป็นตัวหลักของการถือบัญชีม้า กลับยังไม่มีมีการดำเนินการ ให้ออกจากราชการก่อนแต่กลับมีการสั่งให้ช่วยราชการแทน จึงอยากฝากให้ไปคิดว่าทำไมถึงไม่มีการดำเนินการเช่นเดียวกัน


ผู้สื่อข่าว ยังถามว่ารู้สึกกังวลหรือไม่ที่วานนี้มีปรากฏภาพพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ นั่งร่วมโต๊ะกินข้าวกับพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนปัจจุบัน ในท่าทีสนิทสนมกันเอง ว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินการหรือไม่ นายอัจฉริยะ เผยว่า ตนเองไม่สนใจใครทั้งนั้น ยังยืนยันจะเดินหน้าเปิดเผยความจริง แม้ว่าตนเองจะถูกกลั่นแกล้งดำเนินคดีเช่นเมื่อเช้านี้ที่มีการกลั่นแกล้งสั่งฟ้องตนเองในฐานความผิดหมิ่นประมาทที่ สน.ลุมพินี และตนเองก็ได้ประกันตัวมาเมื่อเช้านี้ โดยเหตุมาจากการพูดในรายการหนึ่ง เมื่อปี 2564 ถึงทนายคนหนึ่งว่ามีการใช้เหลี่ยม เพียงเท่านี้ก็เป็นมูลเหตุในการฟ้องตนเองได้


นอกจากนี้ตนเองยังขอประกาศอีกว่าวันอังคารหน้าจะมีการดำเนินการเอาผิดกับอัยการ จังหวัดสมุทรปราการ ทั้งอัยการจังหวัดและอัยการเจ้าของสำนวน และ อัยการอาญาใต้ ตั้งแต่อธิบดีลงมายันพนักงานอัยการ ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ


ส่วนเรื่องบิ๊กเซอร์ไพรส์ของทนายอนันต์ชัย ตนเองจะขอรอดูในวันพรุ่งนี้ ว่าจะ บิ๊กเซอร์ไพรส์ อย่างไร แต่ตนเองก็รู้ว่าทนาย อนันต์ชัย นำข้อมูลมาจากไหนและรับมอบอำนาจมาจากใคร