เลือกตั้งและการเมือง

'ภูมิศิษฐ์' รองเลขาฯ ฟ้องเอาผิด 'ประธาน กสทช.' ม.157 จงใจไม่แต่งตั้ง ซ้ำยังตั้งกรรมการสอบ

โดย passamon_a

2 ต.ค. 2566

144 views

เมื่อวันที่ 30 ก.ย.66 รายงานข่าวแจ้งว่า นายภูมิศิษฐ์ มหาเวศน์ศิริ รองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายแพทย์ สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. เป็นจำเลย ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา


โดยระบุว่า มีเหตุจงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จากกรณีที่ไม่ลงนามในคำสั่งแต่งตั้ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ภูมิศิษฐ์ ตามมติ กสทช. ครั้งที่ 13/2566 ตามระเบียบ กสทช. ว่าด้วยการรักษาการแทนฯ ข้อ 6 ที่ประธานกรรมการ กสทช. มีหน้าที่ต้องแต่งตั้งรองเลขาธิการ โดยความเห็นชอบของ กสทช. เป็นผู้รักษาการแทน


ข่าวแจ้งว่า กรณีดังกล่าวเกิดจากมติที่ประชุม กสทช. ครั้งที่ 13/2566 ที่ได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยฯ กับ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล จากกรณีผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการกรณีสำนักงาน กสทช. สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดรายการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย


และเห็นชอบให้เปลี่ยนตัวรองเลขาธิการ กสทช. รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. โดยเห็นชอบให้แต่งตั้งนายภูมิศิษฐ์ เป็นผู้รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. ในระหว่างการสอบสวน เนื่องจากเป็นรองเลขาธิการ กสทช.ที่มีอาวุโสสูงสุด ตามระเบียบ กสทช.ว่าด้วยการรักษาการแทนฯ


ต่อมามีข่าวประชาสัมพันธ์จากงานเลขานุการประธาน กสทช. ในทำนองการเสนอข่าวของสื่อมวลชนเกี่ยวกับมติที่ประชุม กสทช. ครั้งที่ 13/2566 ก่อให้เกิดความแตกแยกในหมู่พนักงาน กสทช. เกิดการกระด้างกระเดื่องต่อผู้บังคับบัญชา พร้อมทั้งประกาศว่า ประธาน กสทช. ยังไม่ได้มีคำสั่งยกเลิกหรือเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งนายไตรรัตน์ และยังไม่มีคำสั่งแต่งตั้งนายภูมิศิษฐ์ ให้รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.แทน


โดยนายไตรรัตน์ยังเป็นรักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่และมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับเลขาธิการ กสทช.ทุกประการ ซึ่งในระหว่างนั้น นายไตรรัตน์ได้ลงนามคำสั่งต่าง ๆ ในฐานะรักษาการเลขาธิการ กสทช.อยู่เช่นเดิม รวมถึงลงนามยกเลิกคำสั่งให้มีการสอบสวนตนเองอีกด้วย


นอกจากนี้ ประธาน กสทช. จะไม่ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งนายภูมิศิษฐ์ ตามมติที่ประชุม กสทช. ครั้งที่ 13/2566 แล้ว ยังตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในการปฏิบัติหน้าที่ของนายภูมิศิษฐ์ เพียงผู้เดียว ทั้งที่เป็นการดำเนินการตามมติที่ประชุม กสทช. ซึ่งเห็นว่าเข้าข่ายจงใจกลั่นแกล้งก่อให้เกิดความเสียหายต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ


ดังนั้น การกระทำประธาน กสทช. จึงเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยเป็นการประพฤติมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายต่อตำแหน่งหน้าที่การงานของนายภูมิศิษฐ์ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/zDFw3dNsFKU

คุณอาจสนใจ