จับแล้ว พ่อเมาทำร้ายลูก 6 ขวบ นาน 3 ปี หลังป้าสุดทน พาหลานร้องปวีณาช่วย

ด.ญ. 6 ขวบ ถูกพ่อมีประวัติติดยาเพิ่งออกคุกทำร้ายทุบตีประจำ นาน 3 ปี ไม่ได้ดั่งใจใช้ท่อพีวีซีฟาดตามตัวเด็กเป็นรอยแดง ใช้ฝักบัวอาบน้ำตีศีรษะแตก กัดตามแขนขาเป็นรอย ป้าสุดทนพาหลานหนีออกจากบ้าน ขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณา


เมื่อวันที่ 1 ต.ค.66 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมด้วย นางสาวเอ อายุ 35 ปี ป้าของ ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 6 ขวบ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ธนาพันธ์ ผดุงการ ผู้กำกับการ สน.ลาดพร้าว เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กับ นายป๊อก (นามสมมติ) อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นพ่อของ ด.ญ.บี ใน พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 (กระทำทารุณกรรมเด็ก) พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 และมาตรา 295 ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ


หลังผู้เป็นพ่อของเด็กหญิงคนดังกล่าว ก่อเหตุทุบตีลูกสาว มานาน 3 ปี ล่าสุดใช้ท่อพีวีซีฟาดตามตัว เอาฝักบัวอาบน้ำตีจนศีรษะแตก และกัดตามแขนขาเป็นรอย ก่อนป้าของเด็กผู้เสียหาย พาหนีออกจากบ้าน แล้วติดต่อขอความช่วยเหลือจากทางมูลนิธิปวีณา


สืบเนื่องจากวันที่ 29 ก.ย.66 พลเมืองดีร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาฯ แจ้งว่า ขอความช่วยเหลือ ด.ญ.บี อายุ 6 ขวบ ซึ่งอาศัยอยู่กับพ่อที่มีประวัติเสพยาเสพติด และเพิ่งออกจากเรือนจำได้ 2 ปี ทำร้ายร่างกายเป็นประจำ ส่วนแม่เด็กหญิงเสียชีวิตไปไม่นาน


ล่าสุดวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา พ่อซึ่งเป็นลูกจ้างขับรถบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เลิกงานกลับมาบ้านตอนตี 2 ในสภาพเมามาย ได้ปลุกลูกสาววัย 6 ขวบ ให้ตื่นไปอาบน้ำ แต่เด็กงัวเงียเนื่องจากง่วงนอน ลากเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ แต่ก็มีการใช้น้ำฉีดและใช้ฝักบัวทุบตีที่หน้าผากจนเป็นแผลฉีก


พลเมืองดียังเล่าอีกว่า นอกจากนี้ที่ผ่านมาพ่อจะเมากลับมาบ้านเป็นประจำ และจะหาเรื่องด่าทอลูกสาว เมื่อไม่ได้ดั่งใจก็จะใช้ท่อพีวีซีฟาดตามตัวเด็กจนเป็นแนวรอยแดง และกัดตามแขนขาเป็นรอยทั่วตัว ซึ่งยังปรากฏให้เห็นเด่นชัด ใครเห็นเข้าห้ามปรามช่วยเหลือแต่พ่อก็ไม่ฟัง แถมยังดุด่าโวยวาย พลเมืองดีสงสารเกรงว่าเด็กจะเป็นอันตราย จึงร้องขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือด้วย  


หลังรับเรื่อง นางปวีณาได้ให้รถมูลนิธิปวีณาฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ไปรับเด็กหลังพลเมืองพาเด็กหนีออกมา ก่อนจะนำส่งบ้านพักเด็กกรุงเทพฯ เพื่อเข้ารับการคุ้มครองทันที พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ พาเด็กเข้าแจ้งความดำเนินคดีและให้เด็กเข้าตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล


นางสาวเอ ป้าของเด็กหญิง 6 ขวบ ระบุว่า พฤติการณ์ของพ่อรายนี้ยังพบว่ามีพฤติการณ์ในการก่อเหตุทำร้ายร่างกายลูกสาวบ่อยครั้งเมื่อไม่พอใจ โดยมักจะใช้ท่อพีวีซีฝ้าตามร่างกาย และยังมีการกัดแขนของเด็กจนเป็นรอยทั่วตัว ซึ่งไม่มีใครสามารถช่วยเหลือได้เพราะเมื่อเข้าไปช่วยจะถูกดุด่าโวยวาย


ส่วนตัวตนเองก็เคยถูกน้องชายทำร้ายร่างกายมาก่อน สมัยที่ยังไม่มีลูกสาว แต่ต่อมาเมื่อพ้นโทษกลับมาและน้องชายมีลูกสาว ก็หันไปก่อความรุนแรงกับลูกสาวแทนคนในครอบครัว โดยปกติน้องชายหากไม่เมายาเสพติดหรือเมาสุราก็เป็นคนอีกบุคลิกหนึ่ง แต่เมื่อเมาแล้วมักจะมีพฤติการณ์ใช้ความรุนแรงกับคนรอบตัว โดยเฉพาะคนในครอบครัว ส่วนแม่ของเด็กเสียชีวิตเมื่อประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว สาเหตุก็มาจากการเสพยาเสพติดเช่นเดียวกัน


สำหรับหลานสาวคนนี้ ตนเองเลี้ยงดูมาตั้งแต่เกิดจนมาเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่น้องชายพ้นโทษก็กลับมาอยู่ที่บ้านก็เริ่มมีการใช้ความรุนแรงกับหลานสาวมาโดยตลอด จึงอยากให้ทางตำรวจดำเนินการทางคดีกับน้องชายให้ถึงที่สุด และอยากให้ช่วยเหลือพาเด็กไปพักบ้านพักเด็กก่อนเป็นการชั่วคราว เมื่อตนเองสามารถทำใจได้แล้วก็จะขอกลับไปรับหลานมาเลี้ยงตามเดิม เพราะมีความผูกพันเลี้ยงดูกันมาตั้งแต่เกิด


ป้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า แม่ของเด็กก่อนที่จะเสียชีวิต เคยคบหากับชายอื่นมาก่อน จนตั้งครรภ์เด็กคนนี้ ก่อนจะมาคบหากับนายป๊อก (นามสมมติ) น้องชายของตน ซึ่งทางครอบครัวก็รู้ว่านายป๊อก ไม่ใช่พ่อของเด็ก แต่ยินดีรับเด็กหญิงคนดังกล่าวเป็นลูก พร้อมเลี้ยงดูจนถึงทุกวันนี้


ด้าน พ.ต.อ.ธนาพันธ์ ผดุงการ ผู้กำกับการ สน.ลาดพร้าว ระบุว่า เบื้องต้นตรวจสอบประวัติของพ่อรายนี้พบว่ามีคดีเก่าเกี่ยวกับยาเสพติดที่ สน.โชคชัย และ สน.ลาดพร้าว ซึ่งมีทั้งเสพและจำหน่าย คดีล่าสุดติดคุกเมื่อต้นปี 2560 และผลโทษออกมาเมื่อปี 2562 โดยจากนี้จะต้องมีการเชิญตัวมาทำการสอบปากคำ เนื่องจากคดีนี้ยังไม่สามารถดำเนินการออกหมายจับได้ โดยหากตัวพ่อมาพบพนักงานสอบสวนก็จะมีการขอหมายขังอีกครั้ง


ขณะที่ทีมข่าวลงพื้นที่ไปบริเวณหน้าบ้านของพ่อรายนี้ พบว่าตัวของพ่อยังคงปิดบ้านขังตัวเองและมารดา ซึ่งมีศักดิ์เป็นย่าของเด็กอยู่ภายในบ้าน โดยไม่มีการออกมาให้ข้อมูลใด ๆ กับทางสื่อมวลชน


ชาวบ้านในซอย ระบุว่า ส่วนตัวเคยได้ยินเสียงว่ามีการทำร้ายร่างกายกันภายในบ้านดังกล่าว แต่ก็ไม่เคยเห็นเหตุการณ์ ส่วนตัวผู้ก่อเหตุก็เห็นว่าหากอยู่ในอาการปกติก็เป็นคนนิสัยดีปกติ แต่ถ้ามึนเมาก็โวยวายบ้าง


ต่อมาตำรวจฝ่ายสืบสวนของ สน.ลาดพร้าว ลงพื้นที่มายังบ้านของพ่อเด็ก โดยมีการระบุเพียงสั้น ๆ ว่า จะขอพูดคุยกับทางตัวพ่อเด็กก่อน ใช้เวลาไม่นานประมาณ 5 นาที ก็มีการถอยรถฝ่ายสืบสวนเข้าไปดำเนินการรับตัวนายป๊อก เพื่อไปยัง สน. ลาดพร้าว ในทันที


นายเรืองศักดิ์ กลับเนียม พนักงานเจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็ก จากบ้านพักเด็กและครอบครัว ระบุว่า หลังจากที่รับตัวเด็กมา พบว่าเด็กมีการปรับตัวได้ดี เด็กปลอดภัยดี ขั้นตอนต่อจากนี้จะต้องมีการรอสอบสหวิชาชีพ และส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกายตามขั้นตอน


โดยทางบ้านพักเด็กฯ จะรับดูแลเด็กเอาไว้เป็นการชั่วคราวก่อน และเมื่อมีการตรวจสอบความพร้อมในการเลี้ยงดูจากทางครอบครัวของเด็กอีกครั้ง พบว่าสามารถรับเด็กกลับไปดูแลได้ บ้านพักเด็กและครอบครัวส่งมอบตัวเด็กกลับไปอยู่ในความดูแลของทางครอบครัวอีกครั้ง

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/x3Jggxygr5Y