อาชญากรรม

“ชัยวัฒน์” เดินหน้าอุทธรณ์ ความผิด ม.157 ยืนยันความบริสุทธิ์ ด้านภรรยาบิลลี่ ลั่นไม่มีอะไรจะพูด

โดย paranee_s

28 ก.ย. 2566

144 views

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยาน กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ภายหลังประกันตัว สู้คดีในชั้นอุทธรณ์ กรณีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง สั่งจำคุก 3 ปี ไม่รอลงอาญา ในความผิด ม.157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีการควบคุมตัวนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แล้วไม่นำตัวส่งพนักงานสอบสวน ส่วนข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว, ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง และซ่อนเร้น อำพรางศพ ศาลยกฟ้องฟ้องทั้งหมด


นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณศาลที่เมตตาให้ประกันตัวสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ โดยศาลให้วางเงินประกันตัว จำนวน 8 แสนบาท และมีเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ


สำหรับคำพิพากษาวันนี้ ถือว่าศาลใช้การไต่สวน การดูสำนวน ตามหลักวิทยาศาสตร์ทั้งหมด ในเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับบิลลี่ ทั้งเรื่องการอุ้มหาย การฆ่า ซึ่งในข้อเท็จจริงยืนยันมาตลอดว่าตนเองไม่เกี่ยวข้อง ส่วนการลงโทษ 3 ปี ไม่รอลงอาญา เป็นความผิด มาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่นำตัวบิลลี่ไปส่งพนักงานสอบสวน ซึ่งเรื่องนี้ตนเองก็จะยื่นอุทธรณ์ต่อไป เพราะความผิด มาตรา 157 ถือเป็นเรื่องทั่วไป ที่ข้าราชการที่ทำงานจะถูกดำเนินคดี 157 เพราะอยู่กับชุมชนและต้องทำให้เจ้าหน้าที่อยู่กับชุมชนได้ โดยไม่ทะเลาะกัน ที่ผ่านมาตนเองไม่เคยจับกุมชาวบ้านโป่งลึก-บางกลอยเลย


กรณีที่ศาลตัดสินในวันนี้ เป็นกรณีตัวอย่าง เพราะน้ำผึ้งก็เป็นสิ่งเจ้าหน้าที่ต้องจับกุม ละเว้นไม่ได้ ตามกฎหมายเก่า แต่ปัจจุบันกฎหมายใหม่มีการแก้ไขในส่วนนี้แล้ว ในปี 2562 ให้สิทธิ์ทำกินแก่ราษฎร และราษฎรสามารถหาเก็บของป่าทดแทนได้ในเขตอุทยาน


วันนี้กฎหมายใหม่ออกมาทำให้เจ้าหน้าที่อยู่กับชุมชนได้ เชื่อว่าทุกวันนี้ชาวโป่งลึก-บางกลอยอยู่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ได้อย่างสบายใจ แต่ที่ผ่านมากฎหมายเก่า เป็นเรื่องที่เคร่งครัด เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องดำเนินการละเว้นไม่ได้ สิ่งที่ตัวเองถูกตัดสิน ม.157 วันนี้ก็เป็นตัวอย่างให้เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าคนอื่น ๆ ว่ากฎหมายไม่อนุญาตให้ใช้ดุลยพินิจปล่อยผู้ต้องหาเองได้ แต่ก็หวังว่าในชั้นอุทธรณ์ศาลจะเมตตา ให้ตนเองมีที่ยืนในสังคม ให้ได้ทำงานต่อ เพราะประโยชน์ที่เกิดจากการทำงาน เป็นการรักษาทรัพยากรธรรมชาติเพื่อคนทั้งประเทศ


วันนี้ตนเองขอยืนยันความบริสุทธิ์ ว่าที่ผ่านมาไม่เคยคิดทำร้ายใคร และไม่เคยจับกุมกลุ่มชาติพันธุ์แม้แต่คนเดียว สิ่งที่อยากจะบอกคือ ในวันที่ตนเอง ครอบครัวและน้องๆ ถูกกล่าวหา แทบจะไม่มีที่ยืนในสังคม ข้อกล่าวหาที่กล่าวหามานั้น ส่วนตัวตนเองก็รับไม่ได้ วันนี้พิสูจน์แล้วว่า พวกตนไม่ได้กระทำตามที่ถูกกล่าวหา แต่เรายอมรับความผิด ม.157 ที่ไม่ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน


ทั้งนี้ตนเองและเจ้าหน้าที่ไม่ได้ พูดคุยกับครอบครัวบิลลี่ เพราะเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม ขนาดไม่ได้คุย เจ้าหน้าที่ยังถูกกล่าวหาว่าไปคุกคาม แต่ในความเป็นจริงทุกวันนี้เจ้าหน้าที่และครอบครัว ถูกคุกคามเสียมากกว่า


เบื้องต้นการตัดสินวันนี้ ไม่กระทบกับการทำงาน เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการสู้คดีชั้นอุทธรณ์ และตนเองได้โทรแจ้งผลคำพิพากษาของศาลให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชทราบแล้ว


ด้านนางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผอ.มูลนิธิผสานวัฒนธรรม พร้อมด้วย นางพิณนภา พฤกษาพรรณ หรือมึนอ ภรรยาของบิลลี่ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยนางสาวพรเพ็ญ ระบุหลังฟังคำพิพากษา คำฟ้องทั้งหมดมี 5 ประเด็น แต่ศาลลงโทษเพียงจำเลยที่ 1 ข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ความผิด ม.157 เพียงข้อหาเดียว กรณีควบคุมตัวนายบิลลี่ พอละจี แล้วไม่นำตัวส่งพนักงานสอบสวนตามกฎหมายกำหนด โดยให้จำคุก 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา


ส่วนข้อหาอื่นๆ ยกฟ้อง เช่นเดียวกับจำเลยที่ 2,3 และ4 ศาลยกฟ้องทุกข้อหา หลังจากนี้ต่อไปทีมกฎหมายจะต้องคุยกัน และศึกษาคำพิพากษาอย่างละเอียด เพราะปัจจุบันยังถือว่าบิลลี่เป็นบุคคลที่ถูกทำให้สูญหายเจ้าหน้าที่รัฐ ดังนั้นวันนี้กลับไปอยู่ที่เดิม คือบิลลี่ถูกทำให้สูญหาย ความรับผิดชอบยังมีอยู่โดยรัฐ เพราะเจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้พบและจับกุมบิลลี่เป็นคนสุดท้าย


ดังนั้นจึงอยากฝากไปถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอำนาจ ให้เข้ามาจัดการเจ้าหน้าที่รัฐด้วยกันเองที่ทำให้บุคคลสูญหาย แม้ศาลจะบอกว่าเป็นความผิดเล็กน้อย ในเรื่องละเว้นปฏิบัติหน้าที่ แต่ส่งผลมหาศาลต่อครอบครัวของบิลลี่ ส่วนข้อหาอื่นๆ ที่ยกฟ้อง ทางทนายคิดว่าคงจะต้องอุทธรณ์ เพราะเป็นกระทบจิตใจ เนื่องจากวันหนึ่งบอกว่าบิลลี่หาย ต่อมาบอกว่าบิลลี่ และวันนี้มาบอกว่าไม่ใช่บิลลี่ เป็นเรื่องที่ต้องบันทึกไว้ ว่าไม่มีใครรับผิดชอบ ซึ่งส่งผลทำให้ชาวบ้านหวาดกลัว เพราะเจ้าหน้าที่รัฐก็ยังทำงานในพื้นที่


ด้านมึนอ ภรรยาของบิลลี่ กล่าวว่าไม่มีอะไรจะพูด แต่อยากรู้ข้อเท็จจริงว่าบิลลี่หายไปไหน เพราะตั้งแต่ปี 57 ถึงวันนี้ยังไม่มีคำตอบเลย ไม่รู้จะเอาอะไรไปเชื่อได้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ