อาชญากรรม

"โรม" มอง "ต่อศักดิ์" นั่ง ผบ.ตร. ไม่พลิกโผ จี้ "เศรษฐา"ตอบกระทู้ในสภาพรุ่งนี้

โดย gamonthip_s

27 ก.ย. 2566

45 views

วันนี้ 27 ก.ย. 2566 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการแต่งตั้งพล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ว่า ชื่อของพล.ต.อต่อศักดิ์เป็นชื่อที่ล่องลอยมานานแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ตนไม่ได้แปลกใจอะไร และเป็นที่คาดหมายของคนในสังคม แต่แน่นอนจะเป็นคำถามไปสู่นายกรัฐมนตรี เพราะไม่ว่าใครจะเป็นผบ.ตร.นายกรัฐมนตรี ก็ต้องตอบคำถามในการตัดสินใจ ว่ากระบวนการแบบไหนที่ใช้ในการเลือก บุคคลที่มีความเหมาะสมที่จะเป็น ผบ.ตร. ซึ่งถ้าหากไม่มีคำตอบที่ชัดเจน นายกรัฐมนตรีคงต้องแบกรับกับความผิดหวัง ของพี่น้องประชาชน ของพี่น้องตำรวจต่อไป



ดังนั้น กฎเกณฑ์ที่ดีจึงไม่ใช่แค่ว่าเลือกใคร แต่เพราะเหตุใดถึงต้องเลือกคนนั้น ซึ่งตนคิดว่าสิ่งนี้ตนไม่เห็นผ่านผบ.ตร.คนนี้เลย



ทั้งนี้ ชื่อพล.ต.อ.ต่อศักดิ์เป็นผบ. ตร. ถือว่าไม่ผิดคาด ทุกคนก็คิดอยู่แล้วว่าต้องประมาณนี้ แต่งคำถามสำคัญคือการเลือกจากอะไร นายกรัฐมนตรีต้องตอบสำคัญถามสังคมให้ได้ ตามกฎหมายไม่ได้เรียงตามอาวุโสอยู่แล้ว และการเลือกก็ให้อำนาจนายกเป็นคนเลือก และโยนชื่อเข้าไปที่ก.ตร. ซึ่งไม่ว่าอย่างไรนายกฯ ก็ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะนายกเป็นคนเลือกก่อน ซึ่งถ้าผมเข้าใจไม่ผิดไม่มีการเสนอชื่อมากกว่า 1 คน และไม่มีการแข่งขันกัน คำถามคือเมื่อเลือกไปแล้วไม่ว่าชื่อไหนก็แล้วแต่ ตนก็เชื่อว่ามีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ปัญหาคือการเสนอชื่อใครก็แล้วแต่นายกฯคิดจากอะไร นี่คือสิ่งที่ตนคิดว่ามีความสำคัญ นายกรัฐมนตรีจะต้องมีหลักเกณฑ์ไหม ในการที่จะเลือกบุคคลต่างๆ ไม่เช่นนั้นจะมีข้อที่จะทำลายความเชื่อมั่น ของตำรวจ



"เรื่องของอาวุโสแม้ในกฎหมายจะไม่ได้เขียนไว้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นที่คาดหวัง ของตำรวจจำนวนไม่น้อยหรือตำรวจที่มีความเชื่อว่า ควรจะเลือกจากหลักอาวุโส แต่ปัญหาคือเมื่อกฎหมายไม่ได้กำหนดแล้วนายกไม่ได้เอาหลักนั้นก็ควรจะมีคำตอบกับทุกฝ่าย ว่าอะไรคือหลักเกณฑ์เพื่อให้มั่นใจ ว่าจะไม่มีตั๋วช้าง จะไม่มีเรื่องของเส้นสาย เกิดขึ้นในวงการตำรวจ" นายรังสิมันต์กล่าว



ส่วนเรื่องนี้จะเป็นตั๋วช้างหรือไม่ตนคงต้องได้ถามนายกรัฐมนตรี ว่าสุดท้ายการเลือกผบ.ตร.เลือกอย่างไรเป็นตั๋วหรือไม่เป็นตั๋ว



ส่วนที่นายกรัฐมนตรีเลือกวิธีการงดออกเสียงในการลงมติเพื่อแต่งตั้งผบ.ตร.นั้น ตนพูดยากว่าเป็นเรื่องปกติหรือไม่ เพราะตนเข้าใจว่านี่คือการเลือกผบ. ตร. คนแรกตามพรบ.ฉบับปัจจุบัน ถ้านายกงดออกเสียงก็คงเป็นสิทธิ์ แต่อาจจะมีคำอธิบายว่านายกได้เลือกไปแล้ว หมายถึงจิ้มเลือกว่าจะเอาชื่อใครแล้วโยนไปที่ก.ตร. ซึ่งการงดออกเสียงไม่ใช่เรื่องน่าเกลียดหรือผิดอะไร แต่อย่ามาบอกปฏิเสธว่าตนเอง ไม่เกี่ยวเป็นการตัดสินใจของ ก.ตร.ไม่ได้ ฉะนั้น ถึงที่สุดการเลือกที่จะให้ใคร เป็นผู้ที่ถูกพิจารณาโดย ก.ตร. เป็นอำนาจนายกรัฐมนตรี



ส่วนจะมีเรื่องการเตะตัดขาเพื่อแย่งชิงตำแหน่ง ตามกระแสข่าวหรือไม่นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าบรรยากาศการเลือกผบ.ตร.รอบนี้ ค่อนข้างตึงเครียด ไม่ว่าจะกรณีกำนันนก ซึ่งตนเชื่อว่าแรกเริ่มคงไม่เกี่ยวอะไรกับผบ.ตร. แต่พอมีการต้องเลือกผบ.ตร. ก็อาจจะมีความเป็นไปได้ว่า อาจจะสาวไปถึงตำรวจ ที่เกี่ยวข้องในระดับสูง และในส่วนของคดีการพนันออนไลน์ ที่เกี่ยวข้องกับตำรวจ ที่อาจจะสาวไปถึงตำรวจระดับสูง ก็เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ใกล้ๆกับการเลือกผบ.ตร. ดังนั้นจึงทำให้เป็นที่รู้สึกได้อยู่แล้วว่าการเลือกผบ.ตร.ครั้งนี้ค่อนข้างรุนแรง และมีวิธีการที่ไม่ใช่แค่พิจารณาจากโปรไฟล์แล้ว แต่อาจจะรวมไปถึงการใช้วิธีการที่เรียกว่าเตะตัดขากันก็ได้ แต่อย่างไรก็ตามเตะตัดขาสำเร็จหรือไม่สำเร็จ ให้สังคมลองพิจารณา แต่ก็ต้องบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้โผอะไร เป็นเรื่องที่รับรู้รับทราบอยู่แล้ว



นายรังสิมันต์ ยังยืนยันว่าในวันพรุ่งนี้ตนจะตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาเรื่องปัญหาในองค์กรตำรวจ และการแต่งตั้ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ซึ่งตนหวังว่านายกรัฐมนตรีจะมาตอบ ตนได้ข่าวว่า นายกรัฐมนตรีต้องเดินทางแต่องค์กรตำรวจ ซึ่งมีผู้ใต้บังคับบัญชานายกรัฐมนตรี 200,000 กว่าคนมีหน้าที่รักษาความปลอดภัยรักษา ความมั่นคงและในขณะที่ตำรวจร้อนเป็นไฟ คดีกำนันนกตำรวจตาย 2 คนและคดีเว็บพนันที่มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งค่อนข้างชัดเจนว่าวันนี้รูปธรรมขององค์กรตำรวจมีความเกี่ยวข้องที่เชื่อมโยงกับธุรกิจที่ผิดกฎหมายรวมไปถึงมีความขัดแย้งในการแย่งชิงผบ.ตร. ดังนั้นจนคิดว่าถ้ามองจากสาระสำคัญในเรื่องของความขัดแย้งความเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ผิดกฎหมายของตำรวจ เรื่องตำรวจเป็นเรื่องใหญ่ที่นายกรัฐมนตรีเพิกเฉยไม่ได้เด็ดขาดและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้การตอบคำถามโดยมีแผนเป็นรูปธรรม มีรูปแบบวิธีการที่จะแก้ปัญหาตำรวจอย่างรวดเร็ว มีความจำเป็นอย่างมากที่ผู้ที่เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างนายเศรษฐาต้องดำเนินการและการตอบคำถามต่อสภาไม่ใช่การตอบคำถามตนแต่เป็นการตอบคำถามสังคมตอบคำถามประชาชน



ดังนั้น ตนจึงคิดว่าเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีจะให้คนอื่นทำแทนไม่ได้ เป็น เรื่องที่อยู่ใต้นายกฯ โดยตรง ในขณะที่เรื่องบางเรื่องเข้าใจว่าเป็นเรื่องจำเป็นเช่นกันแต่มีคนสามารถทำแทนได้ตนจึงอยากให้นายกรัฐมนตรีให้ความสัมพันธ์เรื่องตำรวจ โดยการมาตอบคำถามที่สภาในวันพรุ่งนี้



"กระทู้ถามสดด้วยวาจาในเรื่องนี้ แม้นายกรัฐมนตรีจะไม่เดินทางมาตอบคำถามในสภา แต่ตนมองว่าการเดินทางของนายกรัฐมนตรีที่ต้องเดินทางไปกัมพูชานั้นตนเห็นว่ารัฐมนตรีพลังงานก็สามารถเดินทางไปแทนได้เพราะการเดินทางไปประเทศกัมพูชานั้นเกี่ยวข้องกับพลังงาน มีผู้ที่มีดังนั้นมีผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องที่ตนเชื่อว่าน่าจะทำแทนได้แต่ คำถามคือตำรวจจะให้ใครทำแทนนี่คือสิ่งที่นายกรัฐมนตรีอย่างนายเศรษฐา ทวีสิน ที่เป็นมือใหม่ที่ตัวเองชอบพูดเสมอ ต้องเข้าใจว่าไม่มีคนอื่นแทนได้ในเรื่องงานตำรวจ" รังสิมันต์กล่าว



ทั้งนี้ เมื่อมีการแต่งตั้งพลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ เป็นผบ.ตร. จึงต้องยิ่งตั้งคำถามตั้งกระทู้ต่อคนที่เป็นนายกรัฐมนตรี ว่าสุดท้ายการเลือกผบ. ตร เลือกจากอะไร นายกรัฐมนตรีเตรียมคำตอบมาจากบ้านเลยก็ได้ว่ามีหลักเกณฑ์ วิธีคิดอย่างไร

คุณอาจสนใจ

Related News