อาชญากรรม

DSI บุกค้นโรงงานชำแหละหมู ของ สส. คนหนึ่ง จ.ราชบุรี ปมหมูเถื่อน

โดย kanyapak_w

26 ก.ย. 2566

2.4K views

กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ร่วมกับกรมปศุสัตว์ และ ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. พร้อมด้วยนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ร่วมกันตรวจค้น โรงงานชำแหละเนื้อหมูแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอปากท่อจังหวัดราชบุรี ซึ่งโรงงานดังกล่าวปรากฏข้อมูลว่ามีความเกี่ยวข้องกับคดี หมูเถื่อนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และโรงงานดังกล่าวเป็นของ สส. คนหนึ่งราชบุรี





ซึ่งการเข้าตรวจสอบในวันนี้เนื่องมาจากเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษพบความผิดปกติในการนำเข้าและมีการจัดจำหน่ายเนื้อหมู ของบริษัทดังกล่าวที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2564 ถึงปี 2565







โดยจากข้อมูลในปี 2564 พบว่าบริษัทดังกล่าวมีการนำเข้าหมูแบบมีชีวิตจำนวน 178,890 ตัว เมื่อมีการชำแหละแล้วเนื้อหมู ที่ได้น้ำหนักรวมกว่า 17,889,000 กิโลกรัม รวมซากหมูนำเข้า อีก 559,079 กิโลกรัม รวมซากทั้งหมด ทั้งหมูมีชีวิตที่ชำแหละแล้ว และซากหมูนำเข้า 18,448,079 กิโลกรัม แต่กลับมีซากสุกรนำออกจากบริษัทฯ ทั้งหมด 26,169,539 กิโลกรัม จึงมีส่วนต่างจำนวน 7,721,460 กิโลกรัม







ส่วนในปี 2565 บริษัทดังกล่าว นำหมูมีชีวิตเข้า 97,017 ตัว เมื่อชำแหละแล้ว ซากหมูที่ได้ 9,701,700 กิโลกรัม ซากหมูนำเข้า 1,016,481 กิโลกรัม รวมซากหมูทั้งหมด ทั้งมีชีวิตชำแหละแล้ว และซากหมูนำเข้ารวมเป็นจำนวน 10,718,181 กิโลกรัม แต่กลับมีซากสุกรนำออกจากบริษัทฯ ทั้งหมด 11,624,431 กิโลกรัม จึงมีส่วนต่าง จำนวน 906,250 กิโลกรัม







เมื่อแยกตามชนิดเป็นซากหมูนำเข้า จะพบว่า มีส่วนต่าง ในปี 2564 จำนวน 559,079 กิโลกรัม และปี 2565 จำนวน 1,016,481 กิโลกรัม







เมื่อรวมเหตุต้องสงสัยที่ บริษัทฯ จะต้องชี้แจง ต่อพนักงานสอบสวนเป็นสุกรมีชีวิตชำแหละแล้ว ในปี 2564 และ 2565 จำนวน 8,627,710 กิโลกรัม กับ ซากสุกรนำเข้า รวมทั้งปี 2564 และ 2565 จำนวน 1,575,560 กิโลกรัม รวมทั้งสิ้น จำนวน 10,203,270 กิโลกรัม







นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่าน DSI ,กรมปศุสัตว์ และบก.ปคบ. ตรวจค้นบริษัท ฯ ตำบลทุ่งหลวง อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี หลังพบความผิดปกติในปี 2565 มีหมูมีชีวิตเข้า 99,702 ตัว เมื่อชำแระแล้วได้ซากหมู จำนวน 9,970,200 กิโลกรัม ซากหมูเข้า 3,820,434.39 กิโลกรัม รวมซากทั้งหมด ทั้งหมูมีชีวิตชำแหละแล้ว และซากหมูนำเข้า 13,790,634 กิโลกรัม แต่มีซากหมูนำออกจาก บริษัทฯ ทั้งหมด 19,314,844.60 กิโลกรัม จึงมีส่วนเกิน จำนวน 5,524,210 กิโลกรัม







ซึ่งในการตรวจค้นในวันนี้ พันตำรวจตรี ณฐพล  ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม  หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน









ระบุว่าในเบื้องต้นจากการตรวจสอบยังไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย แต่ในเบื้องต้นยังไม่สามารถมีการชี้แจงในเรื่องของตัวเลขที่ไม่สอดคล้องกันได้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษจึงได้มีการนัดหมายให้ทางบริษัทดำเนินการรวบรวมหลักฐานชี้แจงและเข้าให้ปากคำกับทางกรมสอบสวนคดีพิเศษอีกครั้งในวันที่ 20 ตุลาคมนี้







โดยเบื้องต้นมีการระบุเพียงว่าตัวเลขที่คลาดเคลื่อน อาจจะมีการคลาดเคลื่อนมาจากตัวเลขของสต๊อกเก่าเมื่อปี 2562 ซึ่งไม่ตรงกับตัวเลขที่กรมปศุสัตว์มีการจัดส่งมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงเป็นสาเหตุให้ต้องมีการเข้าตรวจสอบในวันนี้







ด้านนายอัจฉริยะ ระบุว่า การเข้าตรวจสอบในวันนี้ แม้ว่าทางบริษัทจะมีความเกี่ยวข้องกับพรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญเนื่องจากขณะนี้ฟ้าเปลี่ยนสีรัฐบาลต้องการความโปร่งใสจึงเป็นเหตุให้ต้องมีการตรวจสอบเมื่อพบว่าตัวเลขที่มีการสำแดงนั้นแตกต่างกัน







โดยสาเหตุหลักๆ มาจากการที่ตัวเลขของกรมปศุสัตว์ มีการส่งมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษไม่ตรงกับข้อมูลของทางบริษัทจึงเป็นเหตุให้ต้องเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งในส่วนของบริษัทอีกบริษัทหนึ่งที่มีการตรวจสอบก่อนหน้านี้เมื่อประมาณวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมาซึ่งในกรณีของบริษัทดังกล่าวมีตัวเลขที่ไม่ตรงกันกับการสำแดงประมาณ 9,000,000 กิโลกรัม ซึ่งในเบื้องต้นก็ไม่สามารถชี้แจงในรอบการนัดหมายได้ขณะนี้ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอการชี้แจงอีกครั้ง







การดำเนินการตรวจสอบบริษัทที่มีการสำแดงการนำเข้าเนื้อสุกรหรือเนื้อหมูไม่ถูกต้องถือเป็นเรื่องสำคัญเนื่องจากว่าการนำเข้าลักษณะแบบนี้อาจจะมีการแฝงด้วยลักษณะสิ่งของผิดกฎหมายต่างๆ เช่นยาเสพติดที่มีการพบข้อมูลก่อนหน้านี้ว่าชุด นรข. สามารถจับกุมยาบ้ากว่า 100,000,000 เม็ดและยาไอซ์รวมถึงอย่างอื่นจากในพื้นที่จังหวัดหนองคายได้ซึ่งเป็นการนำเข้าลักษณะเช่นเดียวกัน ดังนั้นการตรวจสอบในครั้งนี้ถือเป็น เรื่องที่สำคัญต้องตรวจสอบ











แต่การตรวจสอบในวันนี้ไม่ได้หมายความว่าทางบริษัทแห่งนี้จะเป็นฝ่ายผิดหรือถูกต้องรอการชี้แจงอีกครั้งจากทางตัวแทนบริษัทส่วนตัวรู้สึกเชื่อมั่นกับการทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษชุดนี้เนื่องจากมีความรวดเร็วและมีความรอบคอบในการทำงานซึ่งมีการตรวจสอบจำนวนตู้กว่า 161 ตู้ด้วยความรวดเร็วซึ่งแตกต่างจากการทำงานของชุดก่อนซึ่งการตรวจตู้หนึ่งตู้ใช้เวลานานกว่าหนึ่งเดือน นอกจากนี้คณะทำงานชุดปัจจุบันยังพบว่ามีตู้ขนสินค้าที่เข้าข่าย การกระทำ ลักษณะแบบนี้ อีกกว่า 3000 ตู้











คุณอาจสนใจ

Related News