เลือกตั้งและการเมือง

เกาะติดภารกิจนายกฯ ในสหรัฐฯ ประกาศพร้อมเดินตามฉันทามติอาเซียน หนุนสร้างสันติภาพ

โดย panwilai_c

22 ก.ย. 2566

41 views

การเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA ครั้งที่ 78 ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้พบกับเลขาธิการสหประชาชาติ หรือ UN ในวันที่ 21 กันยายน ซึ่งเป็นวันสันติภาพสากล โดยเลขาธิการ UN ชื่นชมไทยที่ให้ความสำคัญกับเป้าหมายการพัฒาที่ยั่งยืน และฝากดูแลสถานการณ์ในเมียนมา ซึ่งนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไทยพร้อมเดินตามฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียนและสนับสนุนการสร้างสันติภาพในเมียนมา รวมถึงสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรี มาเลเซีย ยืนยันว่าจะร่วมผลักดันเรื่องนี้



การหารือทวิภาคีระหว่างนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายอันโตนิอู กุแตเรช เลขาธิการสหประชาชาติ หรือ UN ที่สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า เป็นการพบกันที่มีความหมาย เนื่องจากเลขาธิการสหประชาชาติ ให้โอกาสนายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งได้รับตำแหน่งใหม่ สะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับไทย ซึ่งมีสำนักงานระดับภูมิภาคตั้งอยู่ในไทย และเลขาธิการสหประชาชาติ ผูกพันกับไทย ทั้งการเป็นชาวโปรตุเกส ที่มีสถานทูตในไทยเป็นประเทศแรกๆ และการทำงานด้านผู้ลี้ภัย ที่เคยไปประเทศไทย รวมถึงความสนใจเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน

โดยเฉพาะสถานการณ์ในเมียนมา ที่มีชายแดนกับไทย และไทยได้ดูแลผู้ลี้ภัยเมียนมาจำนวนมาก เลขาธิการ UN จึงฝากไทยดูแล ซึ่งนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไทยให้ความสำคัญ และเป็นหน้าที่ที่ของไทย ที่จะยึดหลักฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งภายใน แต่สนับสนุนให้มีการพูดคุยสันติสุข และอำนวยความสะดวกในการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมไม่ให้กระทบสิทธิมนุษยชน



เลขาธิการสหประชาชาติยังชื่นชมที่ไทยให้ความสำคัญกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งข้อเสนอการออกหุ้นกู้สีเขียว และแนวคิดเศรษฐกิจสีเขียว Green Financial ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติและทำให้ไทยเป็นหนึ่งใน 34 ประเทศ ที่ได้กล่าวถ้อยแถลงเรื่องนี้ต่อที่ประชุม UNGA จากผู้เสนอ 150 ประเทศ ซึ่งการพบกันในวันสันติภาพสากล 21 กันยายน ยิ่งเป็นสิ่งนายกรัฐมนตรี ตอกย้ำว่าไทยสนับสนุนสันติภาพโลก อย่างที่เลขาธิการ UN ได้ใช้เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นหลักยึดของประชาคมโลก



นายกรัฐมนตรียังได้ขอให้เลขาธิการสหประชาติ ไม่ย้ายสำนักงานของ UN ที่ตั้งอยู่ในไทย และขอให้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของไทยที่ทำงานกับ UN จำนวนมากแต่ยังเป็นระดับทั่วไปและระดับกลาง อยากเห็นคนไทยเติบโตในระดับสูงของ UN ด้วย ซึ่งเลขาธิการสหประชาชาติก็ยินดี



นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้หารือทวิภาคี กับดาโต๊ะ ซรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งนอกจากการกระชับความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและความร่วมมือทางการค้าแล้ว นายกรัฐมนตรีมาเลเซียยังคงเดินหน้าสนับสนุนสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้



และถือเป็นครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรี ได้พบกับคนไทยในสหรัฐฯอเมริกา โดยมีภาคเอกชนจากไทย เช่น นายศุภชัย เจียรวนนท์ รองประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ นางสาว นฤฒิล จิวางกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซิตี้แบงค์ และนายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารไทยพาณิชย์ ที่มาร่วมพบปะภาคเอกชนสหรัฐฯ โดยนายกรัฐมนตรีย้ำกับคนไทยในสหรัฐ แม้รัฐบาลนี้จะมีคนชอบไม่ชอบ แต่มาอย่างถูกต้อง และพร้อมพิสูจน์การทำงาน โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ ที่มุ่งมั่นจะให้เติบโตมากขึ้น จากนโยบายของรัฐบาล เช่นดิจิตัล วอลเลต และการเปิดเจรจาการค้าเสรีหรือ FTA ที่นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมผลักดันและคาดว่าจะเห็นความคืบหน้าภายในวันที่ 13 พ.ย.ที่จะเดินทางมาประชุมเอเปค ที่นครซานฟานซิสโก ของสหรัฐฯ



นายกรัฐมนตรียังได้พบกับทีมไทยแลนด์ในสหรัฐฯนำโดยนายธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูต ณ.กรุงวอชิงตัน และนายสุริยะ จินดาวงษ์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนพิเศษถาวรประจำสหประชาชาติ ที่เน้นขอทำกงานเชิงรุกผลักดันซอฟพาวเวอร์ของไทย และสินค้าเกษตรของไทยด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรียังได้พบกับเอกชนรายใหญ่ทั้งไมโครซอฟท์ กูเกิ้ล เอสเต ลาวเดอร์ ที่เชื่อมั่นว่าจะขยายการลงทุนมายังไทยได้



สาระสำคัญในการประชุม UNGA ครั้งนี้ ประเทศไทยโดยนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไทยยังได้ประกาศลงสมัครสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ วาระ 2025-2027 The UN Human Rights Council หรือ HRC ซึ่งมีการเปิดตัวกับเอกอัครราชทูตและผู้แทนระดับสูงกว่า 100 ประเทศ ที่สำนักงานคณะผู้แทนถาวรประจำองค์การสหประชาติ โดยประกาศถึงความมุ่งมั่นของไทยในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและค่านิยมประชาธิปไตย และสนับสนุนการทำงานของ hrc ในบริบทโลกที่เปลี่ยนไป และไทยพร้อมทำงานร่วมกับทุกประเทศ และทุกภาคส่วนเพื่อความก้าวหน้าด้านสิทธิมนุายชนที่จะเป็นประโยชน์กับทุกคน

คุณอาจสนใจ

Related News