อาชญากรรม

ตร.ตรวจสอบจุดทิ้งศพลูก 2 คน คดีพ่ออำมหิตฆ่าลูก ขุดเจอกระดูกปริศนา

โดย paweena_c

21 ก.ย. 2566

71 views

ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบจุดทิ้งศพลูก 2 คน คดีพ่ออำมหิตฆ่าลูก เจอกระดูกปริศนา ส่งตรวจพิสูจน์ ก่อนนำไปตรวจดีเอ็นเอ

จากกรณีคดีของเอ็ม ชายวัย 46 ปี ฆ่าลูกตัวเองถึง 5 คน ในช่วงเวลา 10 ปี และยังทำร้ายร่างกายลูกจนบาดเจ็บสาหัสอีก 2 คนนั้น วานนี้ (20 ก.ย. 2566) หลังจากรับสารภาพว่าลงมือจริง ตำรวจลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดที่ทิ้งศพลูก 2 คนแล้วก็เจอกระดูกปริศนา

ตามคำให้การของนางสาวเจษฎา ภรรยาคนที่ 2 ของนายเอ็ม กล่าวว่า เธอมีลูกกับนายเอ็ม 5 คน คนโตเป็นลูกสาวอายุ 12 ปี ที่ลงมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านว่าเธอและน้องสาววัย 4 ขวบโดนพ่อทำร้ายร่างกายจนเป็นแผลไปทั้งตัว ส่วนลูกชายอีก 4 คน โดนฆ่าตายตั้งแต่อายุไม่ถึง 1 ขวบ และนำศพไปกระจายทิ้งตามจุดต่างๆ 4 แห่ง

ศพแรกเป็นลูกชายวัย 10 เดือน ถูกพบเป็นศพวันที่ 10 ตุลาคม 2556 บริเวณริมถนนกำแพงเพชร 3 ด้านข้างลำคลองฝั่งสวนรถไฟ ถูกใส่ไว้ในกระเป๋าสีดำ เป็นศพทารกผู้ชาย สันนิษฐานว่าอายุประมาณ 10 เดือน ผลการชันสูตรพลิกศพพบว่าศีรษะได้รับการกระทบกระเทือน แต่ไม่ได้เป็นสาเหตุให้ที่ทำให้ถึงแก่ความตาย สาเหตุที่ทำให้ถึงแก่ความตายนั่นก็คือ ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว นอกจากนี้ยังพบว่าศพเด็กมีบาดแผลช้ำบริเวณริมฝีปากล่าง สมองคั่งเลือดบวมน้ำ ปอดทั้ง 2 ข้างคั่งเลือดบวมน้ำ หัวใจ ตับ ม้าม ไต คั่งเลือด

นางสาวเจษฎา กล่าวว่า ลูกชายคนนี้เสียชีวิตที่อะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ระหว่างซอยพหลโยธิน 50 และพหลโยธิน 52 แล้วเธอก็นั่งรถตู้นำศพไปทิ้งที่หลังสวนจตุจักร พื้นที่ สน.บางซื่อ

ศพที่ 2 เป็นลูกชายวัย 1 เดือน มีคนมาพบศพวันที่ 12 พฤศจิกายน 2557 บริเวณด้านหน้าโครงการจตุจักรกรีน ถนนกำแพงเพชร 3 ปัจจุบันเป็นบริเวณปากทางเข้าสวนจากภูผาสู่มหานที อยู่ห่างจากจุดทิ้งศพปี 2556 ประมาณ 1 กิโลเมตร สภาพศพที่พบเป็นทารกอายุ 1-2 เดือน สวมชุดทารกแรกเกิดสีขาว สวมถุงมือสีชมพู ห่อด้วยผ้าห่มสีฟ้า มีกระสอบปุ๋ยสีชมพูตัดปากถุงห่อไว้อีกชั้น ตามร่างกายไม่พบบาดแผล แต่หอหมุนได้รอบ ลักษณะคล้ายคอหัก

ผลชันสูตรพบว่า มีแผลถลอกข้างลำตัวด้านซ้าย พบรอยช้ำใต้หนังศีรษะบริเวณส่วนบนด้านขวาและด้านหน้าขวา กระโหลกศีรษะด้านขวาบนแตกร้าว พบเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นนอก กดเนื้อสมองส่วนใหญ่ด้านขวาส่วนบน ปอดทั้ง 2 ข้างคั่งเลือดบวมน้ำ ตับเสื่อมสภาพหลังตาย สาเหตุการตาย คือ กระโหลกศีรษะแตก เลือกออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นนอกจากการถูกของแข็งไม่มีคมกระแทก

นางสาวเจษฎา กล่าวว่า ศพของลูกชายคนนี้ก็เสียชีวิตที่อะพาร์ตเมนต์ ไม่ทราบชื่อหลังตลาดสี่มุมเมือง เธอก็นั่งรถตู้นำศพไปทิ้งที่หลังสวนจตุจักร เหมือนกับศพลูกชายคนแรก ซึ่งศพนี้เคยเป็นข่าวด้วยว่ามีคนนำศพทารกใส่ถุงกระสอบมาทิ้ง

ศพลูกชายคนที่ 3 เสียชีวิตในอีก 2 ปีถัดมา ในวัยเพียง 2 เดือน ถูกฆ่าในปี 2559 ศพนี้เสียชีวิตที่อะพาร์ตเมนต์เดียวกับลูกคนแรก เธอนั่งรถมอเตอร์ไซค์ไปทิ้งบริเวณที่รกร้างถนนพหลโยธินขาเข้า ใกล้ปั๊มเอสโซ่ พื้นที่ สน.สายไหม

และในปี 2561 ลูกชายคนที่ 4 ก็โดนสามีทำร้ายจนตายขณะอายุได้ 5 เดือน ซึ่งตอนนั้นก็พักอยู่ที่อะพาร์ตเมนต์ระหว่างซอยพหลโยธิน 50 และพหลโยธิน 52 เธอนั่งรถจักรยานยนต์ นำไปทิ้งที่เดียวกับศพลูกชายคนที่ 3 ซึ่งศพที่ 1 และ 2 ตำรวจได้เก็บดีเอ็นเอ และชันสูตรศพไว้แล้ว จึงไม่มีปัญหา แต่ศพลูกชายคนที่ 3 และ 4 ที่ทิ้งไว้หลังศาลพระภูมิย่านสายไหมยังไม่พบ และสภาพพื้นที่ได้เปลี่ยนไปมาก มีการสร้างปั๊มน้ำมัน และถมที่ยกดินให้สูงขึ้น ซึ่งเมื่อก่อนเป็นป่ารก มีคลอง แต่ยังมีศาลพระภูมิอยู่ ทำให้นางสาวเจษฎาจำได้

เมื่อวานนี้ (20 ก.ย. 2566) ตำรวจต้องใช้รถแบคโฮขุดหน้าดิน เพื่อหาพยานหลักฐาน และก็พบจริงๆ ตอน 19.00 น. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจพบถุงพลาสติกเปื้อนดิน ภายในถุงมีกระดูกยาว 13 เซนติเมตร 1 ชิ้น และขนาดประมาณ 6 เซนติเมตร 1 ชิ้น หลังจากนี้จะนำไปตรวจพิสูจน์ว่าเป็นกระดูกสัตว์หรือกระดูกคน หากเป็นกระดูกคนจะนำไปตรวจดีเอ็นเอ เพื่อเปรียบเทียบกับตัวนายเอ็มและนางสาวเจษฎาต่อไป คาดว่าผลการตรวจดีเอ็นเอ น่ารู้ผลพรุ่งนี้ (22 ก.ย. 2566)


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/UWe4eoO0mGQ

คุณอาจสนใจ

Related News