ผบ.ตร. สั่งสอบข้อเท็จจริง ตำรวจนั่งในรถถูกนายกฯ สั่งให้ดับเครื่อง จ่อปรับแผนดูแลVVIP

จากกรณีที่โลกออนไลน์ มีการแชร์คลิปของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ขณะลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจบริเวณสันเขื่อน ทางเข้าหมู่บ้านป่าสักงาม และสะพานเชื่อมใจ ซึ่งอยู่ภายในโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ต.ลวงเหนือ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ในช่วงเช้าวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยกลายประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ ตอนที่ นายเศรษฐา กำลังเดินผ่านรถตำรวจ ได้มีการหยุดและเรียกตำรวจที่นั่งอยู่ในรถให้ลงมา ก่อนพูดคุยกัน

ซึ่งต่อมา นายเศรษฐา ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ไม่ได้ดุนายตำรวจท่านนั้น เพียงแต่บอกว่าให้ดับเครื่องรถยนต์

ขณะเดียวกันได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า "ขอกราบเรียนท่านนายกฯ ใหม่ด้วยนะคะ ว่าหน้าที่ของพลขับรถนำ ต้องเตรียมพร้อมนำรถออกได้ตลอดเวลา ถ้าท่านนายกฯ กลัวเปลืองงบ แนะนำให้ยกเลิกรถนำขบวนไปเลย หรือเอาเงินส่วนตัวท่าน มาจ่ายค่าน้ำมันเองจะได้ไม่ต้องเบิกงบให้เปลือง ในกรณีที่ท่านอยากจะตักเตือนจริงๆ หรือต้องการแสดงความคิดเห็นจริงๆ ให้คุยกับหัวหน้าชุด VVIP นะคะ ไม่ใช่ไปพูดต่อหน้าสื่อมวลชนกับประชาชน มันดูไม่มีวุฒิภาวะ ดังคำกล่าวที่ว่า "ไม่รู้ให้ถาม" ไม่ใช่ ไม่รู้ "แต่ตำหนิ" หน้าที่ของตำรวจที่อยู่รถนำ ไม่ใช่จะลากใครมาขับก็ได้นะคะ ฝึกมา อบรมมาอย่างดี ที่สำคัญงานอารักขา บุคคลธรรมดา กับ VVIP มันค่อนข้างแตกต่างกัน เขามีหัวหน้าชุด ให้เขาคุยกันเอง อย่าไปแทรกแซงภารกิจเขา หน้าที่ท่านคืออะไรก็ทำไปค่ะ ส่วนหน้าที่ของทีม VVIP คือการรักษาชีวิตของท่านให้ปลอดภัย ส่งท่านถึงบ้าน รายงานว่าท่านเข้าบ้านแล้ว ถึงจบภารกิจ โปรดทำความเข้าใจใหม่ด้วยนะคะ"


ล่าสุด พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า เบื้องต้นต้องไปตรวจสอบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีข้อเท็จจริงอย่างไร และต้องไปดูแผนการทำงาน หากมีข้อผิดพลาดจะต้องปรับแผน ปรับยุทธวิถีในการดูแลบุคคลสำคัญ ตามหลักแล้วการดูแลบุคคลสำคัญนั้น จะมีขั้นตอนระบุไว้อยู่แล้ว แต่ต้องย้อนกลับไปดูว่าขั้นตอนดังกล่าวเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งหากไม่เหมาะสม ก็จะปรับขั้นตอนต่อไป