สังคม

จ่อแจ้งข้อหาเพิ่ม ตร.ให้การเท็จ เว้น 6 ตร.ช่วย 'สว.ศิว' ด้าน 'ผกก.พญาไท' ยันสั่งลูกน้องช่วย

โดย panwilai_c

16 ก.ย. 2566

94 views

ชุดทำงานคดียิงสารวัตรทางหลวงเสียชีวิต เร่งตรวจสอบวงจรปิดเพิ่ม จ่อออกหมายจับตำรวจและพลเรือนที่อยู่ในวันเกิดเหตุ ขณะที่ผู้กำกับการ สน.พญาไท ยันสั่งลูกน้องให้ช่วยเหลือสารวัตรศิวตั้งแต่ถูกยิง แต่ตามไปโรงพยาบาลช้าเพราะหลงทาง ย้ำเห็นวินาทีหน่องลงมือสังหาร



โดยความเคลื่อนไหวที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้มีการเรียกตำรวจที่อยุ่ในเหตุการณ์ยิงสารวัตรศิว ที่บ้านกำนันนกมาสอบปากคำอย่างต่อเนื่อง



ประกอบด้วย พันตำรวจเอกกฤษฎาพร จงอักษร ผู้กำกับการสน.พญาไท / ดาบตำรวจชนาณัฐ วุฑฒยากร สังกัดตำรวจทางหลวง ซึ่งเป็นคนขับรถของ พันตำรวจเอกวชิรา ยาวไทยสงค์ หรือ ผู้กำกับเบิ้ม / และดาบตำรวจสราวุธ เชียงทอง สังกัดตำรวจทางหลวง



พลตำรวจตรีนำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ในฐานะพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดี บอกว่าจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมของแต่ละคนที่อยู่ในงานว่าใครทำอะไรบ้าง เพื่อพิจารณาแจ้งข้อหาทั้งตำรวจและพลเรือน ส่วนใครจะถูกแจ้งข้อหาบ้างอยู่ระหว่างตรวจสอบ



มีรายงานข่าวระบุว่า มีตำรวจ 6 นายที่อยู่ในงานวันเกิดเหตุอาจจะไม่ต้องถูกดำเนินคดี เพราะมีภาพจากกล้องวงจรปิดยืนยันชัดเจนว่า ได้เข้าช่วยเหลือสารวัตรศิว และ พันตำรวจโทวศิน พันปี ส่งโรงพยาบาล ประกอบด้วย



พันตำรวจตรีณรงค์ พิทักษ์ฉนวน สารวัตรอำนวยการ กองกำกับการ 2 ตำรวจทางหลวง / ดาบตำรวจชนาณัฐ วุฑฒยากร สังกัดตำรวจทางหลวง / ดาบตำรวจสราวุธ เชียงทอง ซึ่งเป็นคนขับรถของผู้กำกับเบิ้ม / จ่าสิบตำรวจทศพล แซ่อึ้ง สังกัดตำรวจทางหลวง / จ่าสิบตำรวจเมทิศกร พันธ์สีจันทร์ สังกัดตำรวจทางหลวง / และพันตำรวจโทภทร วรญาวิสุทธิ์ สารวัตรสืบสวนสภ.สระยายโสม จังหวัดสุพรรณบุรี



ส่วนร้อยตำรวจเอกจตุรวิทย์ ชวาลเกียรติธนา รองสารวัตรป้องกันปราบปราม.สภ.เมืองนครปฐม จากภาพวงจรปิดพบว่า ได้ให้การช่วยเหลือ พันตำรวจโทวศิน แต่หลังจากนั้นได้กลับไปช่วยเหลือกำนันนกหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ โดยเป็นผู้ขับรถจักรยานยนต์นำหน้ารถของกำนันนก แล้วมาจอดปิดทางบริเวณทางกลับรถเพื่อเคลียร์ทางให้กำนันนกหลบหนี



ต่อมาพันตำรวจเอกกฤษฎาพร ได้ออกมาจากห้องสอบสวนและเปิดใจกับนักข่าวว่า ไม่เครียดและไม่กังวลหลังบิ๊กโจ๊กบอกจะแจ้งข้อหากับตำรวจที่อยู่ในงานเพิ่มเพราะตนให้รายละเอียดไปหมดแล้ว และยืนยันว่าหลังเกิดเหตุ ตนได้ขับรถตามประกบท้ายรถที่พาสารวัตรศิว และพันตำรวจโทวศิ ไปส่งโรงพยาบาลจริง แต่ว่าลูกน้องขับรถไปหลงตรงบริเวณแยกปั๊มน้ำมันพีที ทำให้เสียเวลาไปประมาณ 8 นาที จึงตามไปถึงช้า ซึ่งชุดสืบสวนมีภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณที่ตนหลงทางแล้ว



ส่วนกรณีที่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่มีการเปิดเผยออกมาไม่มีภาพตนนั้น ความจริงแล้วมีภาพตนอยุ่อีกมุมหนึ่งที่จะเห็นว่าตนสั่งการให้ลูกน้องไปช่วยสารวัตรศิว



ส่วนช่วงวินาทีที่นายหน่องลั่นไกสังหารสารวัตรศิวนั้น ตนนั่งอยู่ที่โต๊ะและเห็นนายหน่องเดินมา จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นนัดแรกซึ่งคิดว่าเป็นการยิงขึ้นฟ้า และจากนั้นได้ยินเสียงปืนรัวตามมาอีกรวม 7 นัด



เป็นการยิงชุดแรก 5 นัดและชุดที่สองอีก 2 นัด โดยช่วงนัดที่ 6 และ นัดที่ 7 ตนเห็นช่วงที่นายหน่องกำลังยิงโดยใช้ปืนกล็อก และสารวัตรศิวซึ่งถูกยิงกำลังจะตกจากเก้าอี้



โดยดาบตำรวจชนาณัฐ บอกกับตนว่านาย ๆ พี่ศิวถูกยิง ทั้งนี้ตนไม่เห็นว่าใครเป็นคนสั่งให้นายหน่องยิง ส่วนตำรวจที่อยู่ในงานต่างก็ตกใจ โดยที่ปืนของตนไม่ได้พกติดตัวไว้เพราะอยู่ในรถ และในวันเกิดเหตุสารวัตรศิวและกำนันนกได้มการดวลเหล้ากันจริง ทั้งนี้หลังให้สัมภาษณ์นักข่าวได้ถามว่าจะขู่ยิงนักข่าวหรือไม่ ซึ่งพันตำรวจเอกกฤษฎาพรบอกว่าไม่แล้ว กลัวแล้ว



ขณะที่ ดาบตำรวจสราวุธ ซึ่งถูกเรียกมาสอบปากคำในวันนี้ได้ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับนักข่าวโดยบอกว่ายังไม่พร้อมให้ข้อมูล



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/1gSD1q_CEak

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ