งานยักษ์! หลายหน่วยงานร่วมตรวจสอบ 'กำนันนก' ฮั้วประมูล จ่อยึดทรัพย์ถ้าทำผิดจริง

วานนี้ (14 ก.ย. 66) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. ผู้บัญชาการกองบังคับการปราบปราม สั่งการให้ ....

• พ.ต.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย
• พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป.
• พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.5.บก.ป.
• ตำรวจ บก.ป. (กองบังคับการปราบปราม)
• ตำรวจ บก. ปอศ. (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ)
• ตำรวจ บก.ปอท. (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโลยี)
• ตำรวจ บก.ปปป. (กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ)

เข้าตรวจค้นบริษัทบัญชีและบ้านพนักงานทำบัญชี รวม 3 แห่ง ใน อ.เมืองนครปฐม

สำหรับการตรวจค้นครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ก. (กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง) พบข้อพิรุธการทำธุรกรรมเรื่อง บัญชีรายรับ-รายจ่าย // การส่งงบดุล // ภาษีบริษัท ของนายประวีณ จันทร์คล้าย (กำนันนก) จนพบเบาะแสว่ามีการจ้างให้บริษัทบัญชี และพนักงานบัญชี อีก 2 คน ใน อ.เมืองนครปฐม เป็นผู้จัดทำรายการบัญชีดังกล่าวให้ จึงมีการขอหมายศาลเข้าตรวจค้นเพื่อตรวจหาหลักฐานดังกล่าว

ซึ่งมีข้อมูลเบื้องต้นว่า รับทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี โดยตำรวจได้เข้าตรวจยึดเอกสาร คอมพิวเตอร์ ก่อนจะควบคุมตัวพนักงานบัญชี 2 คน ไปตรวจค้นบ้าน เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม

พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เผยว่า บริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทที่มีการรับทำบัญชีให้กับ บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด เกี่ยวกับการเสียภาษี ให้บริษัทของกำนันนก มานานกว่า 20 ปี ตั้งแต่รุ่นพ่อ

เบื้องต้น อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ และจะมีการนำเอกสารบางส่วน ไปตรวจสอบเพิ่มเติมตามกระบวนการ

ซึ่งยังตอบไม่ได้ว่า มีความผิดปกติ หรือผิดกฎหมายหรือไม่ โดยเอกสารส่วนใหญ่ที่มีการทำบัญชีมากว่า 20 ปี ย้อนหลัง ทางบริษัทได้ส่งคืนให้กับเจ้าของไปแล้ว จึงเหลือแค่เพียงเอกสารบัญชีภายในปีนี้ ตั้งแต่ เดือนมกราคม-กรกฎาคม ซึ่งทางเจ้าของให้ความร่วมมือดี

----------

วานนี้ (14 ก.ย. 66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปที่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน พระราม 6 เพื่อเข้าพบกับ นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อหารือเรื่องการฮั้วประมูลโครงการที่เกี่ยวข้องกับกำนันนก

โดยได้ประสานกับ กรมสรรพกร และกรมบัญชีกลาง เพราะการจะประเมินว่า จะเกี่ยวข้องกับการฮั้วประมูลหรือไม่นั้น ต้องขอความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ จะให้ตำรวจดำเนินการอยู่ฝ่ายเดียวนั้นเป็นไปไม่ได้ ซึ่งการเดินทางมา สตง. เพื่อมาดูข้อมูลการประมูลงานโครงการของรัฐทั้งหมด

เมื่อถามว่า เอกสารของกลางที่ไปตรวจยึดมาได้เมื่อวานนี้ มีตรงไหนให้ความสำคัญบ้าง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยว่า ในส่วนของเอกสาร ยังไม่ได้อ่านในรายละเอียด จึงมาส่งมอบให้หน่วยที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบลงลึกในรายละเอียด และหน่วยงานต่างๆ จะทำงาน ดังนี้

• ตำรวจ ทำหน้าที่ของการสืบสวนสอบสวน
• ป.ป.ช. (คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) ดำเนินการตรวจสอบในเรื่องของเงินที่ผิดกฏหมาย
• ปปง. (สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน.) ดำเนินการตรวจสอบในเรื่องของเงินที่ผิดกฏหมาย/
• สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ต้องไปดูรายละเอียดเกี่ยวกับการประมูล
• จึงต้องมีการบูรณาการร่วมกัน
  

จากนั้น พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ เปิดเผยเพิ่มเติมหลังพบผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน นานกว่า 15 นาที ว่า

ตอนนี้ ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้สั่งงานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ภาค 7 แล้ว ทั้งนี้ จะมีการตั้งคณะทำงานร่วมกันในวันอังคารที่ (19 ก.ย. 66) จะถึงนี้

แต่ระหว่างนี้ จะมีการดูเอกสาร เพื่อที่ในวันอังคาร จะสามารถแบ่งงานได้ชัดเจน ทั้งในส่วนการฮั้วประมูล // หลีกเลี่ยงภาษี // เส้นทางการเงินที่ไม่ถูกกฎหมาย จะดูจากข้อมูลทั้งหมดของกรมบัญชีกลาง

เบื่องต้น พบมีทั้งหมด 1,500 กว่าโครงการ ต้องกลับไปดูว่า งานทุกอย่างที่ได้มานั้นถูกต้องไหม การที่มีหลายหน่วยเข้ามาช่วยตรวจสอบ จะทำให้เกิดความเป็นธรรม และชัดเจน หากมีแค่หน่วยเดียว จะทำให้มีความไว้เนื้อเชื่อใจน้อย

ยืนยันว่า ต้องตรวจสอบว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐ เข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ หากพบว่ามีการฮั้วประมูล และเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง จะไปในส่วนงานของ ป.ป.ช.

เมื่อถามว่า การที่มีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เข้าไปเกี่ยวข้อง ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ยากขึ้นหรือไม่

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ตอนนี้ ยังไม่มีใครติดต่อมาขอสักคน และผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินไม่มีความกังวลอะไร เพราะได้เตรียมตัวไว้แล้ว ทุกวันนี้ ไม่จำเป็นตรวจเฉพาะเอกสาร แต่สามารถเข้าไปดูข้อมูลในระบบได้

ก่อนกล่าวทิ้งท้ายว่า ที่ผ่านมาบริษัทของกำนันนก ยังไม่เคยพบว่า ถูกร้องเรียนเรื่องฮั้วประมูลมาก่อน เพราะไม่มีใครกล้าร้องเรียน แต่ถ้าตรวจสอบ จะมีข้อมูลทั้งหมด ผู้ที่ถูกยิงรถ ยิงบ้าน คงจะเข้ามาให้ข้อมูล

เมื่อถามว่า จากข้อมูลของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พบข้อมูลว่า โครงการของกำนันนกที่ชนะประมูล มีโครงการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติรวมอยู่ด้วย

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ เผยว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ แต่หากอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะทำบริษัทไหนก็ตาม จะประมูลงานไหนก็ตาม หากเป็นการหัวประมูลเป็นการเลี่ยงภาษี ก็ถือว่าผิดทั้งหมด ต้องใช้มาตรฐานเดียวกัน เลี่ยงปฏิบัติไม่ได้

----------
วานนี้ (14 ก.ย. 66) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กระทรวงมหาดไทยได้ทำหนังสือที่ นฐ 0023.5/ว907 ถึงสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นอำเภอ ทุกอำเภอ // สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม // สำนักงานเทศบาลนครนครปฐม // สำนักงานเทศบาลเมือง ทุกแห่ง ความว่า

ด้วยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้ประสานให้สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จังหวัดนครปฐม สำรวจและรายงานโครงการจัดซื้อจัดจ้าง ที่นายประวีณ จันทร์คล้าย (กำนันนก) เป็นคู่สัญญา ตั้งแต่ ปีงบประมาณ 2554 - 2566 ที่เบิกจ่ายเงินจากเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ และงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเอง ภายในวันที่ 14 กันยายน 2566 เพื่อให้การรายงานกรณีดังกล่าว เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงขอให้รวบรวมข้อมูลดังกล่าว (ตามแบบรายงาน) ให้สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดนครปฐม ภายในวันที่ 14 กันยายน 2566 เวลา 16.30 น.

จึงเรียนมาเพื่อดำเนินการ สำหรับสำนักงานการส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นอำเภอ ให้แจ้งเทศบาลตำบล และองค์การบริหารส่วนตำบล ในพื้นที่ดำเนินการต่อไป

-----------------
ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ได้เผยอีกว่า ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ 

• ปปง. (สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน)
• ป.ป.ท. (สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ)
• ป.ป.ช. (คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ)
• กรมบัญชีกลาง
• สรรพากร

เพื่อให้สืบสวน สอบสวน ในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้

• ตรวจสอบเส้นทางการเงิน
• การฮั้วประมูลโครงการต่าง ๆ
• ตรวจสอบการเสียภาษี
• ตรวจสอบการทุจริตในภาครัฐ
• ตรวจสอบการประมูลเสนอราคาโครงการก่อสร้างกว่า 1,500 โครงการ

ต้องถูกตรวจสอบทั้งหมด ว่า เข้าข่ายกระทำความผิดสมคบกันฮั้วประมูลหรือไม่ 

ตอนนี้เรื่องสำคัญคือ

• การตรวจเรื่องเส้นทางการเงินทั้งหมดว่า เงินที่เข้ามานั้นถูกต้องหรือไม่
• การประมูลโครงการทั้งหมด 1,500 โครงการ เป็นการประมูลที่ถูกต้องหรือไม่
• มีการเสียภาษีหรือไม่

ซึ่งวันนี้ ทุกส่วนตั้งทีมร่วมกัน แบ่งหน้าที่กัน ว่าใครทำอะไร ตรวจสอบเรื่องไหน     

แต่เรื่องการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ส่วนนี้ ป.ป.ง.จะเป็นคนดำเนินการ ถ้ามีความผิด ก็ต้องนำไปสู่ความผิดฐานฟอกเงิน และยึดทรัพย์ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องทำตามมา

และส่วนที่ 2 ต้องไล่เรื่องส่วยสติกเกอร์ว่า มีการประกอบกิจการน้ำหนักเกินหรือไม่

-----------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/V_WVknvdaJo