เลือกตั้งและการเมือง

รมว.ศึกษาธิการ มอบนโยบายข้าราชการ แนะนโยบายแก้หนี้ครู นำ"เศรษฐกิจพอเพียง" มาปรับใช้

โดย paranee_s

14 ก.ย. 2566

962 views

พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยและนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมประชุมกับผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อมอบนโยบายการศึกษา และแนวทางการขับเคลื่อนนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” หลังการเข้ารับตำแหน่ง


พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า สิ่งที่ตนเองจะมุ่งเน้นในการทำงาน คือ “เรียนดี มีความสุข” เพราะส่วนตัวเชื่อว่าเด็กที่มีความสุข จะส่งผลให้การเรียนดี ส่วนการเรียนนั้นจะใช้แนวทาง 2 เรื่อง คือ การเรียนสู่ความเป็นเลิศ และ การเรียนสู่ความมั่นคงในชีวิต การจะเรียนดี มีความสุข ได้นั้น กระทรวงศึกษาธิการจะมุ่งเน้น 2 ด้าน


ด้านแรกเป็นเรื่องเกี่ยวกับ การลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา ด้วยการปรับวิธีประเมินวิทยฐานะครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยการเน้นเด็กเป็นศูนย์กลาง ซึ่งอาจจะวัดผลงานการผลการเรียนของเด็กนักเรียน เช่นเด็กเรียนแล้วอ่านหนังสือได้หรือไม่ หรือดูจากผลงานว่าเด็กสามารถสอบเข้าสถานศึกษาได้มากน้อยเพียงใด


เรื่องครูคืนถิ่น ได้มอบหมายให้ข้าราชการประจำไปดูระเบียบว่า จะมีแนวทางใดที่ครูสามารถย้ายกลับภูมิลำเนาได้ง่ายขึ้น แต่โรงเรียนเดิมต้องไม่ขาดแคลนครู เพราะบางครั้งครูถูกย้ายไปอยู่สถานที่ไกลบ้าน ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา ดังนั้นกระทรวงศึกษาธิการ อยากช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและอยากให้ครูมีกำลังใจในการทำงานที่จะสอนเด็ก และเชื่อว่าเมื่อครูกลับไปอยู่บ้านตนเองก็อยากพัฒนาบ้านตนเองให้ดี


เรื่องการแก้หนี้สินครู คิดว่าเป็นเรื่องหลักที่ต้องทำ เนื่องจากในช่วงที่เป็นตำรวจตนเองก็เป็นประธานคณะกรรมการแก้หนี้ตำรวจมาแล้ว และสามารถแก้ไขปัญหาได้ในระดับหนึ่ง เชื่อว่าประสบการณ์ที่มีจะสามารถนำมาใช้ได้ แต่การแก้หนี้ครูจะยากกว่าตำรวจเล็กน้อย เพราะครูมีมากกว่าตำรวจ ครูมี 4 แสนกว่าคน ตำรวจมี 2 แสนคน อาจจะต้องใช้เวลามากกว่า การแก้หนี้ อาจจะใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ครูเข้าใจมากขึ้น และมีนโยบายที่แก้ไขหนี้สินครู


เรื่องการจัดหาอุปกรณ์การเรียนการสอน คือการจัดหาแท็บเล็ตให้คุณครูและนักเรียน แต่ต้องดูในกรอบงบประมาณว่ามีมากน้อยเพียงใด ขณะนี้ยังไม่มีกรอบเวลา แต่ให้ผู้บริหารกระทรวงฯไปทำแอ็กชันแพลนมาก่อน จึงจะกำหนดกรอบเวลาได้


สำหรับด้านที่ 2 ในส่วนของการลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง กระทรวงศึกษาธิการจะพัฒนาแพลตฟอร์ม ที่เอาหลักสูตรต่างๆ ใส่เข้าไป อาจจะเอาจากโรงเรียนดังๆ หรือครูที่มีชื่อเสียงใส่เข้าไป เพื่อให้เด็กมีโอกาสกลับมาทบทวน หรือผู้ที่ด้อยโอกาสมีโอกาสได้เข้าเรียน จะทำให้ทุกคนสามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลาที่มีเวลาว่าง


ขณะเดียวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา ได้มอบหมายให้ผู้บริหารกระทรวงฯ ไปศึกษาเพิ่มเติมเรื่องการเปิดโอกาสให้เรียนฟรี ทำอย่างไรที่จะทำให้มีการเรียนฟรีมากกว่า 12 ปี ที่ทำอยู่ในปัจจุบัน


จากนี้ไปกระทรวงศึกษาธิการ จะมีระบบ โค้ชชิ่ง (Coaching) พัฒนา AI วิเคราะห์เด็กแต่ละคนว่าเด็กชอบอะไร อยากเป็นอะไร ช่วยวางเป้าหมายในชีวิตให้เด็ก และจะเพิ่มบุคลากรแนะแนว ช่วยวิเคราะห์ว่าเด็กอยากเป็นอะไร โยมี AI วิเคราะห์เบื้องต้น แล้วใช้บุคลากรเข้ามาช่วยอีกด้านหนึ่ง


ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเพิ่มเติม ความเห็นรัฐมนตรีฯในประเด็นการออกเงินเดือนของข้าราชการ จากเดือนละครั้งเป็นเดือนละ 2 ครั้ง ตามนโยบายรัฐบาลนั้น ในเรื่องนี้รัฐมนตรีมองว่า เหรียญมี 2 ด้าน เป็นเรื่องนานาจิตตัง แต่ส่วนตัวคิดว่าจ่ายเงินเดือน 2 รอบดีกว่ารอบเดียว เพราะบางคนกลางเดือนไม่มีเงินต้องไปหากู้ยืมเงินคนอื่นมาใช้ ต้องเสียดอกเบี้ยร้อยละ 5 ร้อยละ 10


นอกจากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เน้นย้ำว่า การทำงานของตนเองจากนี้ไป การลงพื้นที่ตรวจสถานศึกษา ตรวจโรงเรียน จะไม่แจ้งล่วงหน้า เพราะอยากเห็นสภาพความเป็นจริงของโรงเรียน จะเดินทางไปตรวจแบบเงียบๆ โดยไม่มีรถนำ พร้อมฝากไปถึงข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ สิ่งที่รับไม่ได้คือเรื่องการทุจริต ถ้าพบกระทำผิด ตนเองจะไม่เห็นหัวใจ หากใครทำผิดนอกจากลงโทษทางวินัยแล้ว ตนเองจะประจารณ์คนที่ทุจริตให้สังคมรับรู้ด้วย


สุดท้ายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ย้ำว่า จากนี้จะพัฒนา 1 อำเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพให้เป็นโรงเรียนต้นแบบ และโรงเรียนอื่นๆ ที่เป็นเครือข่ายสามารถเข้าไปใช้ทรัพยากรของโรงเรียนของโรงเรียนคุณได้ด้วย

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ