ผบช.ภ.7 ชี้ กำนันไม่ได้มีอิทธิพล เป็นแค่คนทำธุรกิจ ขี้เมา-ไม่กลัวกฎหมาย

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 เดินทางมาประชุมความคืบหน้าคดี โดยให้ข้อมูลก่อนการประชุมว่า เบื้องต้นศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย คือ นายปวีณา หรือ “กำนันนก” และ นายธนัญชัย หรือ หน่อง คนร้ายที่ก่อเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว โดยวันนี้มีการค้นเป้าหมาย 4 จุด เพื่อติดตามผู้ต้องหา มาสอบสาเหตุที่แท้จริงว่ามูลเหตุเกิดจากอะไร ส่วนกระแสข่าวที่บอกว่าตอนนี้มีการฆาตกรรมวิสามัญ และมีผู้ต้องหาติดต่อมอบตัวไม่เป็นความจริงซึ่งชุดสืบสวนทำคดีอยู่ระหว่างการไล่ล่าตัวผู้ก่อเหตุ


ส่วนตัวมองว่าการก่อเหตุครั้งนี้ คนร้ายเหิมเกริมไม่เกรงกลัวกฎหมาย เพราะรู้ว่าคนที่ตัวเองยิงคือตำรวจก็ยังก่อเหตุ ส่วนการสืบสวนหาตัวคนร้ายตอนนี้คืบหน้าไปมากแต่ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานซึ่งวันนี้ช่วง 17:00 น. พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็จะมาประชุมและสรุปผลการติดตามคดี ยืนยันว่าสำหรับคดีนี้จะเร่งรัดให้จบคดีเร็วที่สุดเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน และสร้างความเป็นธรรมให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต


พร้อมฝากพี่น้องประชาชน ถ้าพบเห็นผู้ก่อเหตุให้แจ้งเบาะแสเข้ามาที่ตำรวจ ส่วนใครให้ที่ซ่อนเร้นหลบหนีกับผู้ต้องหา ก็จะถูกดำเนินคดีด้วย


สำหรับตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ ตอนนี้ก็อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล ถ้าบุคคลในที่เกิดเหตุถ้ามีส่วนร่วมก็จะดำเนินคดีด้วย ซึ่งเบื้องต้นพนักงานสอบสวนก็ได้เรียกคนที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบปากคำแล้วโดยบางส่วนก็ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับตำรวจแต่ขอยังไม่เปิดเผยรายละเอียดในสำนวน


สำหรับกระแสข่าวที่ว่ากำนันนกเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จากการตรวจสอบพบว่าไม่ใช่ผู้มีอิทธิพลเป็นเพียงกำนันที่ทำธุรกิจ เรียกได้ว่าเป็นพวกดาวรุ่งที่ไม่เกรงกลัวกฎหมาย เมื่อดื่มสุราแล้วชอบเหิมเกริมไม่ได้มีอะไรซับซ้อน


ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 บอกเพิ่มเติมว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดขณะนี้คือการสั่งยกระดับกวาดล้างอาวุธปืน ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการจับกุมผู้กระทำความผิดครอบครองอาวุธปืน โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดนครปฐมก็มีการจับกุมผู้กระทำความผิดจำนวนมาก แต่กรณีนี้ มีการใช้อาวุธปืนอยู่ในบ้านผู้ก่อเหตุ ไม่ได้อยู่ในสถานที่บริการ หรือที่สาธารณะซึ่งเบื้องต้นก็พบว่าผู้ที่ใช้อาวุธปืนก่อเหตุมีประวัติอาชญากรรมหลายคดี