สังคม

ป.ป.ช.ชี้มูล 'สมยศ-เนตร-สายประสิทธิ์' คดีเปลี่ยนความเร็วรถ 'บอส อยู่วิทยา' ขับรถชน ด.ต.วิเชียร

โดย nattachat_c

7 ก.ย. 2566

3.9K views

วานนี้ (6 ก.ย. 66) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ป.ป.ช. ได้มีมติ ชี้มูลความผิดผู้เกี่ยวข้องในคดีการกลับคำสั่ง ไม่ฟ้องนายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ในข้อหาขับรถยนต์ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิต เมื่อปี 2555 โดยมีขบวนการช่วยเหลือ ในการเปลี่ยนพยานหลักฐานด้านความเร็วของรถยนต์ อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งคาดว่า จะสามารถแถลงรายละเอียดต่าง ๆ ต่อสื่อมวลชนได้ ในสัปดาห์หน้า


ทั้งนี้ เบื้องต้น มติ ป.ป.ช.ที่ชี้มูลออกมาแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ


กลุ่มแรก มูลความผิดวินัยร้ายแรง และให้ดำเนินคดีอาญา 5 คน ได้แก่

1. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง (สมัยเป็น กมธ.กฎหมายฯ สนช.)

2. เนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด

3. ชัยณรงค์ แสงทองอร่าม อดีตอัยการอาวุโส

4.พิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง ปัจจุบันเป็น นายก อบจ.เชียงใหม่

5.รศ.สายประสิทธิ เกิดนิยม นักวิชาการ ที่มาศึกษาเกี่ยวกับเรื่องความเร็วรถบอส

6.พนักงานสอบสวน กลุ่มนี้จะส่งให้ผู้บังคับบัญชาเอาผิดทางวินัย และ ส่งอัยการดำเนินคดีอาญาต่อไป


กลุ่มที่ 2 ป.ป.ช.เห็นควรส่งผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัย

1. ธานี อ่อนละเอียด สว. และอดีตเลขานุการ กมธ.กฎหมายฯ สนช.

2. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. ปัจจุบันเป็น รมว.ศึกษาธิการ


เห็นควรส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชา หรือผู้มีอำนาจแต่งตั้ง หรือถอดถอน ดำเนินการทางวินัยไปตามหน้าที่และอำนาจ เนื่องจากเรื่องที่มีการกล่าวหา มิใช่เป็นความผิดร้ายแรง (กรณีของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ผู้บังคับบัญชาคือ ผบ.ตร.)


กลุ่มที่ 3 คือ ให้กันไว้เป็นพยาน

พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก อดีตผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ

-------------
วานนี้ (6 ก.ย. 66) พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ หรือ สารวัตรเพียว อดีต สส.ก้าวไกล ซึ่งเป็นอดีตนักวิทยาศาสตร์ (สบ.1) กลุ่มงานตรวจทางเคมีฟิสิกส์ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ


ซึ่งไปร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุในวันเกิดเหตุ และร่วมเก็บหลักฐานต่าง ๆ กล่าวว่า ดีใจที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดในคดีนี้ ทำให้มีความหวังว่าจะสามารถพลิกคดีได้


ทั้งในส่วนการเอาผิดกับนายบอส ในคดีขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ที่มีอายุความ 15 ปี และยังไม่หมดอายุความ (คดีเกิด 3 ก.ย. 55)


และกรณีที่มีการกระทำเป็นขบวนการ เพื่อเปลี่ยนความเร็วลด ถึงแม้ว่าจะล่าช้าไป  เนื่องจากตอนนี้ บางคนเกษียณอายุราชการไปแล้ว ไม่สามารถเอาผิดทางวินัยได้แล้ว


พ.ต.ต.ชวลิต ยังแสดงความเห็นด้วยที่ ป.ป.ช.มีมติให้กันผู้เกี่ยวข้องที่ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้เป็นพยานด้วย

-------------

ส่วน พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งเป็นผู้ตรวจความเร็วรถเฟอรารี่ของบอส ในครั้งแรก และต่อมามีการเปลี่ยนความเร็วรถบอสจาก 177 กม./ชม. เหลือ 79.23 กม/ชม. (หลังจากถูกเรียกไปพบสอบถามและพูดคุยกับผู้บังคับบัญชาและนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เชื่อกันว่าโดนบีบให้เปลี่ยนความเร็ว)


ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญอย่างหนึ่ง ที่อัยการสั่งไม่ฟ้องคดีบอสขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต


วันนี้ ผู้สื่อข่าวของเราพยายามโทรไปขอสัมภาษณ์เหมือนกัน แต่เจ้าตัวบอกไม่สามารถให้สัมภาษณ์ได้ เพราะการให้สัมภาษณ์จะต้องขออนุญาตจากผู้บังคับบัญชาด้วย


ด้านนายโกศลวัฒน์ อินทุจรรยง รองโฆษกอัยการสูงสุด กล่าวว่า ถ้ามีพยานหลักฐานใหม่สามารถยื่นฟ้องใหม่ได้ ในอายุความที่ยังเหลืออยู่ แต่จะไม่เกี่ยวกับพยานหลักฐานเดิมที่มีการสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว

-------------



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/b0GLizawT-c





คุณอาจสนใจ