ประชาชนเดือดร้อนหนัก ขอรัฐบาลใหม่ เร่งแก้ปัญหาปากท้อง

เปิดเผยกันออกมาแล้ว สำหรับนโยบายรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 11 ก.ย. นี้ ชัดเจนว่าระยะสั้นจะเร่งกระตุ้นใช้จ่าย



ทีมข่าวได้สอบถามความเห็นประชาชนถึงความคาดหวังต่อการทำงานของรัฐบาลชุดใหม่ พบว่า ส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้องการให้โอกาสรัฐบาลได้ทำงาน เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ซบเซามาหลายปี สวนทางกับราคาสินค้าและค่าครองชีพที่พุ่งสูง โดยคาดหวังว่า 3 เดือน จะเห็นความเปลี่ยนแปลง เพราะตั้งแต่หลังการเลือกตั้งและระหว่างรอการจัดตั้งรัฐบาล เศรษฐกิจหยุดชะงัก ยอดขายตกลงอย่างมาก



โดยนโยบายที่อยากให้ทำเร่งด่วน คือ ปัญหาปากท้องและการเข้ามาคุมต้นทุนราคาสินค้าที่่จำเป็น เช่น ไข่ไก่ ที่ราคาแพงมาก รวมถึงราคาน้ำมัน ก๊าซหุงต้ม ที่เป็นต้นทุนสำคัญของราคาสินค้า ที่จะส่งผลต่อราคาสินค้า ส่งผลกระทบต่อประชาชน อยากให้ปรับลดลงให้สอดคล้องกับรายได้ของประชาชนที่ลดลงอย่างมาก ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยนโยบายที่ชื่นชอบและอยากให้ทำตามที่มีหาเสียงไว้ คือ แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพราะจะเป็นการเพิ่มเงินในกระเป๋าให้ประชาชน แต่ก็ 50-50 ว่า จะทำได้หรือไม่ เพราะยังไม่เห็นที่มาที่ไปของเงินที่จะนำมาใช้ในนโยบายนี้



หากไปดูค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ที่กระทรวงพาณิชย์ ไปสำรวจและสรุปออกมา พบว่า ในเดือนสิงหาคมครัวเรือนไทยมีภาระค่าใช้จ่ายสูงขึ้น 0.55% ขึ้นมาอยู่ที่ 18,229 บาท เพิ่มจากเดือนกรกฎาคม ที่อยู่ที่ 18,130 บาท หรือ เพิ่มขึ้นเกือบ 100 บาท ค่าใช้จ่ายหลักๆ ที่เพิ่มขึ้น คือ ค่าโดยสารสาธารณะ ค่าน้ำมัน ค่าเช่าบ้าน ไฟฟ้า และก๊าซหุงต้ม

https://youtu.be/1m7CHY-BCBo