อาชญากรรม

"ทนายพัช" เผยมีการสั่งฟ้อง "แอม" แค่คดี "ก้อย" สงสัยทำไมไม่ส่งสำนวนอีก 14 คดีมาพร้อมกัน

โดย paranee_s

5 ก.ย. 2566

263 views

วันนี้ (5 ก.ย.) ศาลอาญาถนนรัชดาภิเษก มีคำสั่งคดี ยกฟ้อง คดีที่ "แอม ไซยาไนด์" ยื่นฟ้อง "ระพี" ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา โดยก่อนเข้าฟังคำสั่ง นางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือ ทนายกุ้ง เปิดเผยว่าวันนี้ศาลได้นัดฟังคำสั่งว่าจะประทับรับฟ้องคดีนี้หรือไม่ โดยก่อนหน้านี้ได้มีการไต่สวนไปแล้ว 2 นัด โดยนางสรารัตน์ ได้ฟ้องนายรพี ในข้อหามินประมาทโดยการโฆษณา กรณีที่ไปให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง โดยใช้คำพูดว่า “โกหกเจ้าหน้าที่จนหัวปั่นและหลอกตำรวจ” ซึ่งเป็นการพูดตามข้อเท็จจริง ซึ่งในวันนี้นายระพีไม่ได้มาร่วมฟังคำสั่งเนื่องจากติดภารกิจอยู่ต่างจังหวัด


ด้านนางสาว ธันย์นิชา หรือ ทนายพัช ทนายความของ นางสรารัตน์ เปิดเผยก่อนเข้าห้องพิจารณาว่า หากคดีนี้ศาลมีคำสั่งว่าคดีไม่มีมูลตนก็จะอุทธรณ์ต่อไป แต่ถ้าศาลเห็นว่าคดีมีมูลและมีคำสั่งรับฟ้อง กรณีที่นายระพีไม่มาฟังคำสั่ง ตนเองก็จะส่งหมายศาลไปยังภูมิลำเนา


อย่างไรก็ตาม มีความมั่นใจในพยานหลักฐานที่จะเอาผิดกับนายรพีได้ ซึ่งนายระพีก็ยอมรับเองว่าบุคคลที่อยู่ในคลิปนั้นเป็นตนเองจริง ในชั้นนี้อยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาว่ามีองค์ประกอบความผิดหรือไม่ ส่วนการกระทำดังกล่าวจะเป็นความผิดหรือไม่นั้น ก็จะเป็นอีกชั้นหนึ่ง คือศาลต้องรับฟ้องก่อนเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาคดีต่อไป


และภายหลังฟังคำสั่งศาล นางสาวอำนวยพร หรือ ทนายกุ้ง ทนายจำเลย เปิดเผยว่า ศาลได้มีคำสั่งยกฟ้อง โดยให้เหตุผลว่านายรพีได้รับมอบอำนาจจากญาติผู้เสียหาย ซึ่งการให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโทรทัศน์นั้นเป็นไปตามข้อเท็จจริงจากการสืบสวนของตำรวจ ซึ่งได้รับรายงานจากตำรวจชุดคลี่คลายคดี เป็นการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รัฐด้วย จึงเป็นการให้สัมภาษณ์โดยสุจริต ซึ่งฝ่ายโจทก์มีสิทธิ์ที่จะยื่นอุทธรณ์ภายใน 1 เดือน หรืออาจจะขยายได้ครั้งละ 1 เดือน ซึ่งนายระพีเองก็รู้สึกดีใจที่ได้รับความยุติธรรมจากศาลในครั้งนี้


ทางด้าน น.ส. ธันย์นิชา หรือ ทนายพัช” ทนายความ “แอม ไซยาไนด์” กล่าวว่า วันนี้ ศาลมีคำสั่งยกฟ้อง จำเลย แต่ก็จะใช้สิทธิ์อุทธรณ์คดีต่อศาล เนื่องจากตนเองได้หลักฐานสำคัญ คือ หนังสือรับมอบอำนาจจากมารดาของ น.ส.ก้อย ที่ นายรพี อ้างว่า ได้รับมอบหนังสือดังกล่าวมา ลงลายมือชื่อในเอกสาร คือวันที่ 14 เม.ย.2566 แต่เมื่อตรวจสอบสำเนาบัตร ประชาชน ของมารดา น.ส.ก้อย ปรากฏว่า บัตรประชาชน ออกให้ ในวันที่ 1 พ.ค.2566 เท่ากับว่า ก่อนหน้านี้ มีการทำเอกสารอันเป็นเท็จ ตนเองจึงได้ ยื่นคำคัดค้าน ต่อศาล ผ่านระบบCIOS ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ และศาลได้รับคำคัดค้านไว้แล้ว


หลังจากนี้ จะดำเนินคดีกับนายระพีและบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เกี่ยวกับการทำเอกสารอันเป็นเท็จ ส่วนพยานหลักฐานนี้ จะมีผลต่อการยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล


นอกจากนี้ ทนายพัช ยังกล่าวถึง สำนวนคดีการเสียชีวิตของเหยื่อ รวม 14 คดี และพยายามฆ่าอีก 1 คดี รวมเป็น 15 คดี ขณะนี้พบว่ามีการสั่งฟ้อง และส่งสำนวนให้อัยการเพียงคดีของก้อย คดีเดียวเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีก 14 คดี ไม่ทราบว่า เหตุใดจึงไม่ส่งสำนวนมาพร้อมกัน ทั้งที่ คำพิพากษาศาลฎีกา ก่อนหน้านี้ ระบุว่า เหตุลงโทษคดีแต่ละคดี สามารถนำไปนับโทษต่อกันได้ ส่วนตัวมองว่า การแถลงข่าวปิดคดีของตำรวจ ระบุชัดว่า มีการส่งสำนวนคดีให้อัยการ ไปทั้งหมดแล้ว จึงทำให้ตนเอง มีความสงสัย และเตรียมพิจารณา ดำเนินคดี กับ พนักงานสอบสวน ที่ออกมาให้ข่าวในทำนองนี้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ