สังคม

แม่ค้าโร่แจ้งตำรวจ กู้เงินออนไลน์ 5 หมื่น แต่ถูกขูดรีดดอกเบี้ย ทำหนี้พุ่งทั้งต้นทั้งดอกกว่า 2.6 ล้าน

โดย nutda_t

5 ก.ย. 2566

2.4K views

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.นครพนม มีแม่ค้าสาว อายุ 26 ปี ร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม พร้อมเตือนภัยสังคม หลังหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อแก๊งเงินกู้นอกระบบ ในรูปแบบออนไลน์ เนื่องจากตกงาน หวังหาเงินมาลงทุนค้าขาย จึงเห็นมีการเปิดให้กู้ผ่านระบบออนไลน์ แอปพลิเคชันไลน์ จึงเข้าไปทักแชตสอบถามรายละเอียด ก่อนแจ้งข้อมูลเอกสารบัตรประจำตัวประชาชน รวมถึงที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ พร้อมได้รับอนุมัติวงเงินกู้งวดแรก จำนวน 30,000 บาท แต่ถูกหักดอกเบี้ยล้วงหน้า 10,000 บาท รับเงินจริงแค่ 20,000 บาท เงื่อนไขส่งคืนเต็ม 30,000 บาท ในเวลา 7 วัน แต่งวดแรกหาเงินส่งคืนทัน


ต่อมางวดที่สอง จึงได้รับอนุมัติวงเงินกู้เพิ่ม เป็นเงิน 50,000 บาท หักดอกเบี้ยล่วงหน้าเหมือนเดิม รับเงินจริงจำนวน 32,000 บาท กำหนดจ่ายเงินคืนภายใน 7 วัน จากนั้นเกิดปัญหาสภาพคล่อง นำเงินไปค้าขาย ไม่สามารถส่งคืนได้ตามกำหนด จึงตัดสินใจไปกู้ผ่านระบบออนไลน์เจ้าอื่นเพื่อนำเงินมาหมุนเวียนในรอบ 2-3 เดือน ไม่ทราบมาก่อนว่าหากเลยกำหนดชำระจะถูกเรียกทั้งดอกเบี้ย รวมถึงค่าปรับล่าช้าอีกหลาย 10 เท่า จนกระทั่งเกิดปัญหาทับถม ทั้งต้นทั้งดอกจากการกู้ออนไลน์ รวม 18 เจ้า เป็นหนี้ทั้งต้นทั้งดอก รวม 2.6 ล้านบาท ถูกติดตามให้ชำระต้นรวมดอกวันละประมาณ 1.5 แสนบาท ทำให้ถูกคุกคามข่มขู่ทุกรูปแบบ พร้อมโพสต์ประจาน เชื่อว่ามีการทำเป็นขบวนการ จึงเกรงจะเกิดอันตรายกับตนเองและครอบครัว เบื้องต้นได้เข้าแจ้งความเป็นหลักฐานกับพนักงานสอบสวน สภ.ปลาปาก เพื่อดำเนินคดีในส่วนที่มีความผิดเกี่ยวกับการทวงหนี้


แม่ค้าผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ไม่มีเจตนาจะเบี้ยวหนี้ แต่เริ่มแรกต้องการนำเงินมาลงทุนค้าขาย เพราะตกงาน จึงทดลองกู้ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ที่มีการโฆษณาชวนเชื่อ ไม่คิดว่าจะได้จริง จึงทำการกู้รอบแรก และมีการชำระคืน จนได้วงเงินเพิ่ม อีกเท่าตัว จากนั้นมีข้อพิรุธว่ามีนายทุนเงินกู้นอกระบบออนไลน์อีกจำนวนมาก เข้ามาทักแชตผ่านไลน์ ชักชวนให้กู้ยืม ส่วนใหญ่จะเป็นไลน์อวตาร ไม่มีตัวตน จึงหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ มารู้ทีหลังว่าเป็นนายทุนคนเดียวกัน แต่ทำงานเป็นทีม


แม่ค้าผู้เสียหาย เล่าอีกว่า ยอมรับหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อเพราะคิดง่าย ปัจจุบันเป็นหนี้ทบต้นดอก และรวมค่าปรับล่าช้า รวม 2.6 ล้านบาท ถูกข่มขู่ให้ผ่อนชำระวันละ ประมาณ 1.5 แสนบาท ทั้งที่รับเงินจริงแค่ 4-5 แสนบาท สุดท้ายไม่มีความสามารถที่จะจ่ายไหว ทำให้ถูกข่มขู่คุกคามจะทำร้ายทุกรูปแบบ จึงต้องออกมาขอความช่วยเหลือจากทางภาครัฐหน่วยงานตำรวจ และสะท้อนปัญหาผ่านสื่อ เตือนภัยสังคม และเรียกร้องให้ปราบปรามขบวนการปล่อยเงินกู้ออนไลน์อย่างจริงจัง โดยพร้อมที่จะชดใช้หนี้ตามกฎหมาย เป็นยอดเงินตามจริงที่รับเงินมา แต่หากถูกข่มขู่คุกคาม ทวงหนี้ผิดกฎหมายจะต้องดำเนินคดีเช่นกัน ปัจจุบันยังมีการโทรมาข่มขู่คุกคามทุกวัน และยืนยันคำเดียวจะให้ชำระหนี้คืนทั้งหมด ไม่ให้ผ่อนชำระ ไม่มีส่วนลด

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ