ผอ.โรงเรียนหวั่นกระทบจิตใจเด็ก ปัดปิดข่าวเพราะกลัวเสียชื่อเสียง ปมสาว 16 ถูก 4 ทรชนหลอกรุมโทรม

จากกรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้โพสต์รูปภาพ และข้อความระบุว่า "พม.จว.นครราชสีมาทราบเรื่องนี้หรือยัง สื่อสังคมข่าวช่วยตามประเด็นให้ด้วย นครราชสีมา อำเภอห้วยแถลง (มีเอกสารใบแจ้งความใบตรวจร่างกาย สภาพจิตใจ)

อัพเดทครับ วันนี้น้องคิดสั้นกรีดแขนตัวเอง บ่นไม่อยากอยู่แล้ว น้องบอกน้องเหนื่อย น้องไปเรียนวันนี้ ครูกับ ผอ.พูดไม่อยากให้น้องร้องสื่อ กลัวเสียชื่อเสียงโรงเรียน น้องกลับบ้านมาเครียดมากๆ น้องร้องไห้ไม่หยุด ถูกกดดันหลายทาง ตอนนี้ตัวน้องและแม่เครียดมากๆ ทางผู้ต้องหาน่าจะแจ้งทางโรงเรียนว่าน้องจะร้องสื่อ ผอ.กับครูเลยเรียกน้องเข้าห้องปกครองไปคุย

คดี 4 ผู้ต้องหาอายุ 20-27 โทรมเด็กหญิงอายุ 16 ปี เหตุเกิดตั้งแต่ 28 เมษายน ผู้ต้องหารับสารภาพหมด ตำรวจไม่จับบอกว่าไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จนถึงทุกวันนี้ ยังตั้งวงดื่มเหล้าน้ำท่อมกัน เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น (ผู้ต้องหาอยู่ละแวกบ้านน้องผู้เสียหาย) แถมญาติและพ่อแม่ฝั่งผู้ต้องหา คุกคามจนน้องผู้เสียหายเข้าโรงบาลไปเป็นเดือนๆ ออกโรงบาลมา ยังมายั่วยุพูดจาถากถาง แถมขู่จ้างทนายฟ้องกลับ เพราะทำให้อับอาย พี่สาวหนึ่งในผู้ต้องหา พูดลั่นต่อหน้าผู้ใหญ่บ้าน นักข่าวสำนักไหนก็เอามาเลยไม่กลัว แถมชี้หน้าด่าน้องผู้เสียหายว่า นักข่าวมา น้องคงไม่อายหรอก น้องหน้าด้าน

แถมใช้ให้คนเอาเรื่องที่น้องโดนไปปล่อยข่าวที่โรงเรียนอีก นี่แค่เรื่องคร่าวๆ นะครับ เพราะเรื่องเกิดตั้งแต่เมษา ตำรวจไม่ควบคุมตัว จึงทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย ทุกวันนี้แม่กับน้องผู้เสียหายได้ย้ายบ้านหนีแทนแล้วนะครับโปรดพิจารณา"

วันนี้ (30 ส.ค. 66) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหนองปรือ ตำบลหลุ่งประดู่ จังหวัดนครราชสีมา พบกับเด็กหญิงผู้เสียหาย และครอบครัว ซึ่งจากการสอบถามเด็กหญิง อายุ 16 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ในคืนวันเกิดเหตุ 1 ในกลุ่มผู้ต้องหาได้โทรศัพท์ชักชวนให้ตนไปนั่งเล่นด้วยกันที่บ้านของกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งตนได้ปฏิเสธไป แต่กลุ่มผู้ต้องหาหลอกลวงว่าแฟนหนุ่มของตนก็อยู่ที่นั่น ซึ่งก่อนหน้านี้ตนมีปัญหาทะเลาะกันกับแฟนหนุ่ม ตนจึงหลงเชื่อ และออกไปหากลุ่มผู้ต้องหา

เมื่อไปถึงตนได้พบกับกลุ่มผู้ต้องหารวมกันทั้งหมด 4 คน แต่ไม่พบตัวแฟนหนุ่มของตน จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาก็ชักชวนให้ตนนั่งดื่มสุรา ตนจึงดื่มไปเล็กน้อย ก่อนที่ตนจะถูกกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดล่อลวงล่วงละเมิดทางเพศ

ทางด้านแม่ของเด็กหญิงผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุ ตนได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางกลุ่มผู้ต้องหาก็ได้ส่งคนมาเจรจาขอไกล่เกลี่ย โดยจะขอชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 4 แสนบาท ก่อนจะต่อรองเหลือจำนวน 3 แสนบาท พร้อมขอผ่อนชำระเป็นรายเดือน โดยทางกลุ่มผู้ต้องหาได้โอนเงินมาให้แล้วจำนวนหนึ่ง แต่ตนจะไม่ยอมรับเงิน และจะนำเงินไปคืนให้ เพราะทางญาติของกลุ่มผู้ต้องหาได้พูดจาดูถูกพวกตนว่าขายลูกสาวกิน ตนยืนยันว่าจะไม่ขอรับเงิน และจะไม่ยอมความอย่างเด็ดขาด โดยจะขอดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาให้ถึงที่สุด

ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่องค์กรช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติ หรือ NRO ได้พาเด็กหญิงผู้เสียหาย พร้อมด้วยแม่ของเด็ก เดินทางไปที่ สภ.ห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา โดยได้เข้าพบกับ พ.ต.อ.สิทธิพล ทิมสูงเนิน ผู้กำกับการ สภ.ห้วยแถลง ที่ห้องทำงานเพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดี

พ.ต.อ.สิทธิพล ทิมสูงเนิน ผู้กำกับการ สภ.ห้วยแถลง เปิดเผยความคืบหน้าของคดีทราบว่า หลังจากเกิดเรื่องขึ้น ทางครอบครัวของเด็กหญิงผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยทางตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน และได้แจ้งดำเนินคดีข้อกล่าวหากับ 4 ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ โดยทางพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนคดีส่งเรื่องอัยการพิจารณาไปแล้วตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของอัยการ ส่วนกลุ่มผู้ต้องหาทราบว่าขณะนี้ได้มีการประกันตัวออกไปสู้คดี

อย่างไรก็ตามการที่มีข่าวว่าครอบครัวของกลุ่มผู้ต้องหาได้มีการพูดจาเสียดสีหรือข่มขู่ครอบครัวของเด็กหญิงผู้เสียหายนั้น ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปพูดคุยกับครอบครัวของกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งหากทางครอบครัวของกลุ่มผู้ต้องหายังไม่หยุดพฤติกรรมดังกล่าว ทางตำรวจก็จะพิจารณาทำเรื่องขอถอนประกันตัวผู้ต้องหาต่อไป

ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เด็กหญิงผู้เสียหายเรียนอยู่ เพื่อสอบถามกรณีที่มีข่าวว่า ทางโรงเรียนไม่อยากให้ครอบครัวเด็กหญิงเป็นข่าวดัง เพราะกลัวเสียชื่อเสียงของโรงเรียนนั้น ทาง ผอ.โรงเรียนชี้แจงว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทางโรงเรียนไม่ได้กลัวเสียชื่อเสียงแต่อย่างใด แต่ทางโรงเรียนไม่อยากให้เป็นข่าวดังแพร่หลาย โดยเฉพาะการออกสื่อต่างๆ เพราะกังวลว่าข่าวที่ออกไปจะส่งผลกระทบกับตัวของเด็กหญิงผู้เสียหายเอง

ทั้งกับกลุ่มเพื่อนในโรงเรียน และสังคมภายนอก ซึ่งหลังเกิดเรื่องขึ้น ทางโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจ และให้ความสนับสนุนช่วยเหลือครอบครัวของเด็กทุกอย่าง โดยได้สอบถามความคืบหน้ากับทางครอบครัวเด็กเรื่อยมา ทั้งนี้ ทางโรงเรียนอยากให้กระบวนการทางกฎหมายลงโทษกลุ่มผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด ยืนยันว่าทางโรงเรียนพร้อมให้ความช่วยเหลือเด็กหญิงผู้เสียหาย และครอบครัวของเด็กอย่างดีที่สุด