มติเอกฉันท์ ป.ป.ช.ชี้มูลผิดอาญา 'รัชฎา' เรียกรับสินบนโยกย้ายจนท.

สำนักข่าวอิศรา เผยแพร่ข่าวผลการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติวันนี้ โดยระบุว่า ที่ประชุม คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ ชี้มูลความผิดนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรณีเรียกรับสินบนโยกย้ายตำแหน่งหน้าที่ในหน่วยงาน และอ้างอิงด้วยว่า คดีนี้มีผู้ถูกกล่าวอีก 7 คน คณะกรรการ ป.ป.ช.มีความเห็นให้ผู้บังคับบัญชา ดำเนินการทางวินัยต่อ 7 คนนี้ด้วย ส่วนผู้ร่วมทำความผิดอื่นๆ อีก 9 คน คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้กันไว้เป็นพยาน



จากรายงานที่สำนักข่าวอิศราเผยแพร่ ผลการประชุมของคณะกรรมการชุดใหญ่ ของ ป.ป.ช. วันนี้ อ้างอิงว่ามีการพิจารณาคดี ที่มีผู้ถูกกล่าวหา 8 คน คือนายรัชฎา สุริยกุล

ณ อยุธยา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 /นายรัฐนันท์ คิรินทร์จิรเดช หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่ายอดโดม ผู้ถุกกล่าวหาที่ 2 /นายปรียะพงษ์ นามโส หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3/นายจิณณะ สามสี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 /นายรังสรรค์ ปัตถะเมฆ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูสระดอกบัว ผู้ถูกกล่าวหากที่ 5 /นายนาวิน ละคร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 นายวีระชัย กำลังงาม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 และนายนายประมวล รัตนวัน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8



ข้อกล่าวหาต่อ นายรัชฎา กับพวกคือกระทำผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ ต่อตำแหน่ง ด้วยการเรียกรับเงินจากหัวหน้าหน่วยงานในสังกัด ลักษณะจะมีการโยกย้ายแต่งตั้งหัวหน้า หน่วยงาน หากไม่จ่ายเงินจะถูกโยกย้ายออกจากตำแหน่ง และมีพฤติการณ์เก็บเงินรายเดือนจากหมวดงบประมาณ โดยคิดตามอัตราส่วนจากหน่วยงาน ที่ได้รับการจัดสรรงบ ประมาณ โดยหลักฐาน คือการบุกจับนายรัชฎา เมื่อ 27 ธันวาคม ปีที่แล้ว พร้อมเงินของกลาง 98,000 บาท



คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งประชุมวันนี้ มีมติชี้มูลความผิดทางอาญา ต่อนายรัชฎา ในความผิดอาญามาตรา 149,157 และความผิดตามพระราชบัญญัติ ป.ป.ช.มาตรา 172 และ 173 และมีมูลความผิดทางอาญา มาตรา 128 ประกอบมาตรา 169 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 /รวมถึงมีมูลผิดวินัยร้ายแรง



ส่วนผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ถึง 8 ถูกชี้มูลความผิดกฎหมายอาญามาตรา 144,149 ประกอบมาตรา 86 และมีมูลความผิดอาญามาตรา 176 ของพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่า ด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 รวมถึงมีมูลความผิดวินัยร้ายแรง และฐานกระทำการหาผลประโยชน์ที่อาจทำให้เสียความเที่ยงธรรม

โดย ป.ป.ช. มีมติ ส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาของผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ถึง 8 ให้ดำเนินการทางวินัย พร้อมทั้งริบเงินของกลาง 98,000 บาท



รายงานข่าวของสำนักข่าวอิศรา ที่เปิดเผยเรื่องนี้ในวันนี้ยังระบุว่า ในการไต่สวนคดี ยังพบบุคคลอื่น ที่มีส่วนร่วมกระทำผิดอีก 9 ราย ซึ่งตำแหน่งขณะไต่สวน คือผู้อำนวยการ ส่วนอุทยานแห่งชาติ,ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า,หัวหน้าวนอุทยาน,หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า แต่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติให้กันบุคคล เหล่านี้ไว้เป็นพยาน ซึ่งหากพิจารณาจากตำแหน่งบุคคล ทั้ง 9 ที่พบเพิ่มนั้น สอดคล้องกับชื่อบุคคลที่ปรากฎอยู่ในซองเงินในลิ้นชักและกระเป๋า ในโต๊ะทำงานนายรัชฎา ซึ่งรวมเงินในซองเหล่านี้แล้วประมาณ 4 ล้านกว่าบาท

สำหรับนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ที่เป็นผู้นำซองเงินไปให้นายรัชฎา ลักษณะเป็นการล่อซื้อเพื่อให้ ป.ป.ช และตำรวจ ปปป. บุกจับนั้น สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ป.ป.ช.พิจารณาว่ายังรับฟังไม่ได้ว่ามีส่วนร่วมกระทำผิด จึงไม่กันไว้เป็นพยาน



สำหรับการชี้มูลความผิด ที่เป็นการประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช. นั้น ถือเป็นแนวทางพิจารณาปกติตามขั้นตอนชี้มูลของ ป.ป.ช.ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 8 คน จะไปพิสูจน์ข้อกล่าวหา หรือยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองในชั้นศาล