โรงเรียนปิดรับบริจาคเงินช่วยศพนักเรียน แจงจะไม่มอบเงินให้ญาติ ตัดปัญหาปมแย่งศพ

ความคืบหน้า คดีชายวัย 41 ปี ใช้มีดทำร้ายภรรยาและบุตร เสียชีวิต 3 ราย ที่ จ.สมุทรปราการ สาเหตุมาจากภรรยาผู้ก่อเหตุ ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงินไปถึง 1.7 ล้านบาท โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา ญาติผู้เสียชีวิตเข้าแจ้งความ โดยอ้างว่า ญาติผู้ก่อเหตุไม่ทำตามข้อตกลง เรื่องสถานที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศล

ขณะที่ความคืบหน้าของคดี รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งให้ตำรวจเร่งรวบรวมข้อมูล เพื่อติดตามจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ด้านโรงเรียนบางแก้วประชาสรรค์ ที่เข้าช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิต ได้ปิดรับบริจาคแล้ว หลังมียอดเงินเข้าบัญชีสูงถึง 2,000,000 บาท โดยทางโรงเรียนจะชี้แจงเรื่องเงินบริจาคหลังเสร็จพิธีฌาปนกิจ ส่วนเรื่องเงินจะไม่ให้ญาติทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อตัดปัญหา อาจจะนำไปทำบุญกับโรงพยาบาล หรืออื่นๆ ตามวัตถุประสงค์ที่สมควร โดยจะมีการแถลงจากทางโรงเรียนอีกครั้ง

ขณะที่ช่วงสายวันนี้ นางนิภาลัย อายุ 41 ปี พร้อมเพื่อนร่วมงานผู้ตาย 7 คน เดินทางเข้าแสดงความบริสุทธ์กับเจ้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว ว่าพวกตนเป็นเพียงเพื่อนร่วมงานที่ให้ยืมเงินเท่านั้น ไม่ใช่กลุ่มเงินกู้นอกระบบ โดยนางนิภาลัย บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา ผู้ตายได้ส่งข้อความมาขอยืมเงิน แจ้งว่าติดปัญหาเรื่องบ้าน ขอยืมเงิน 3 แสน แต่ตนให้ยืมไปแค่ 1 แสนบาท ส่วนคนอื่น 1-2 แสน สูงสุดคือพี่ที่ทำงานอีกคนที่โดนยืมไป 9 แสนบาท รวมทั้งหมด 1,390,000 บาท ส่วนตนไม่ได้ทำสัญญาเงินกู้ ที่ให้ยืมเพราะรู้จักกันมานานเป็น 10 ปี หลังจากที่ให้ยืมไปแล้ว ทางผู้ตายก็โทรมาพูดคุยเรื่องที่ถูกแอปฯโกงไป ตนมีทวงถามไปว่า จะใช้เงินคืนอย่างไร ทางผู้ตายก็ร้องไห้ขอโทษ