สังคม

รวบแล้ว! เสี่ยลวงเด็กหญิง 13 ปี ไปทำงานบ้าน ก่อนพาเข้าโรงแรมพยายามขืนใจ

โดย parichat_p

24 ส.ค. 2566

141 views

ตำรวจสำรองตามรวบตัวเสี่ยเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์หื่น ก่อเหตุล่อลวงเด็กหญิงวัย 13 ปี เข้าโรงแรมพยายามข่มขืนกระทำชำเรา เจ้าตัวยกมือไหว้ขอโทษสังคม รับสารภาพลงมือก่อเหตุจริง



ความคืบหน้า กรณี ครอบครัวของเด็กนักเรียนหญิงอายุ 13 ปี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิวินวิน หลังเด็กหญิงวัย 13 ปี ถูกเสี่ยเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ทำทีเป็นคนใจบุญ ออกอุบาย เข้าหาผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อให้หาเด็กที่ครอบครัวมีฐานะยากจน ชักชวนไปทำงานพิเศษ


โดยอ้างว่าจะให้ไปทำความสะอาดบ้าน พร้อมให้ค่าแรงวันละ 350 บาท แต่กลับล่อลวงเด็กหญิงรายดังกล่าวเข้าโรงแรมพร้อมพยายามข่มขืนกระทำชำเรา แต่เด็กหญิง ไม่ยินยอมจนสามารถเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ดังกล่าวมาได้ ก่อนที่เสี่ยหื่นจะพาเด็กกลับมาส่งที่โรงเรียนพร้อมให้เงิน 350 บาทและกำชับไม่ให้นำเรื่องราวนี้ไปเล่าให้ใครฟัง ซึ่งหลังจากครอบครัวของเด็กทราบเรื่องจึงได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับทางมูลนิธิวินวินพร้อมเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรสำรอง เพื่อให้ดำเนินคดีกับเสี่ยหื่นรายดังกล่าวนั้น



ล่าสุด วันนี้ 24 สิงหาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรสำรอง ได้ขอศาลจังหวัดกาญจนบุรีอนุมัติหมายจับ นายชาญพิชญ์ อายุ 67 ปี เสี่ยเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ในความผิดฐานพรากเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีไปเสียจากบิดามารดา เรียบร้อยแล้ว ก่อนจะนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรสำรอง ไปควบคุมตัวผู้ก่อเหตุที่บ้านพักในพื้นที่อำเภอท่าม่วงนำมาสอบสวนดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรสำรอง


โดยทันทีที่ผู้ก่อเหตุถูกควบคุมตัวมาถึงสถานีตำรวจและพบกับสื่อมวลชนที่เฝ้ารอทำข่าว ผู้ก่อเหตุได้ยกมือไหว้ขอโทษ แต่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆกับสื่อมวลชนก่อนจะเข้าไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนทันที เบื้องต้น ผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่าได้ลงมือก่อเหตุจริง แต่ยังไม่ได้ล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงคนดังกล่าวแต่อย่างใด เบื้องต้น พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ในความผิดฐาน พรากเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีไปเสียจากบิดา มารดา



ด้านพันตำรวจเอกอนันต์ไพศาล แดงดอนไพร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสำรองกล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสอบปากคำครอบครัวของเด็กหญิงผู้เสียหาย รวมถึงพยานบุคคลรายอื่นๆเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังได้ดำเนินการตรวจสอบภาพวีดีโอจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะภาพวีดีโอจากกล้องวงจรปิดขณะที่ผู้ก่อเหตุขับรถยนต์เก๋งพาเด็กหญิงผู้เสียหายเข้าไปภายในโรงแรม ซึ่งถือเป็นหลักฐานสำคัญที่ทำให้ศาลอนุมัติหมายจับ และทางตำรวจมั่นใจว่าพยานหลักฐานที่มีทั้งหมดจะสามารถดำเนินคดีเอาผิดกับผู้ก่อเหตุได้อย่างแน่นอน



อย่างไรก็ตาม ทางผู้ก่อเหตุ ได้ออกมากล่าวคำขอโทษกับทางเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิวินวิน ที่ลงมาให้ความช่วยเหลือกับครอบครัวของเด็กหญิงผู้เสียหาย โดยยอมรับสารภาพว่าได้ลงมือก่อเหตุจริง และยืนยันว่าลงมือก่อเหตุครั้งนี้เป็นครั้งแรก ไม่เคยกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันนี้มาก่อน ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะขอไปให้การในชั้นศาลต่อไป

คุณอาจสนใจ