เลือกตั้งและการเมือง

โฆษกศาล แจงการนับโทษ 'ทักษิณ' 3 คดี ด้านรพ.ตร.ยันดูแลใกล้ชิดตามสิทธิ์

โดย panwilai_c

23 ส.ค. 2566

203 views

การกลับมารับโทษของ นายทักษิณ ชินวัตร ยังมีประเด็นให้พูดต่อเนื่อง ล่าสุดมีคำชี้เเจงจากโฆษกศาล อธิบายเรื่องข้อสงสัยการนับโทษ 3 คดี ของศาลฎีกา เเผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมือง



วันนี้นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม ได้อธิบายข้อกฎหมายกรณีมีข่าวเกี่ยวกับคดีที่ นายทักษิณ ชินวัตร กลับมาประเทศไทยเพื่อรับโทษตามคำพิพากษาของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งมีหลายคดี และมีข้อสงสัยเกี่ยวกับวิธีการนับโทษต่อในแต่ละคดีนั้น



โดยบอกว่าคดีศาลฎีกาออกหมายจำคุกคดีถึงที่สุดไปเมื่อ วันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา มี 3 คดี คือ คดีหมายเลขแดงที่ อม. 4/2551 คดีเกี่ยวกับธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออก หรือเอ็กซิมแบงค์ ลงโทษจำคุก 3 ปี คดีหมายเลขแดงที่ อม. 10/2552 หรือคดีหวยบนดิน ลงโทษจำคุก 2 ปี และคดีหมายเลขแดงที่ อม. 5/2551 หรือคดีหุ้นชินคอร์ป ลงโทษจำคุก 5 ปี



ซึ่งทั้ง 3 คดี ศาลมีคำพิพากษาให้นับโทษในคดี ที่รับโทษ 5 ปี ต่อเฉพาะจากโทษในคดีรับโทษ 3 ปี และ 2 ปี ในกรณีนี้ การรับโทษในสองคดีแรก จึงต้องนับระยะเวลาไปพร้อม ๆ กัน เมื่อรับโทษในสองคดีแรกครบ ซึ่งมีกำหนดระยะเวลา 3 ปีครบแล้ว จึงนับโทษในคดีที่สามต่อไป ทำให้มีการนับซ้อนกัน 2 คดี ทำให้เหลือจำคุก 8 ปี คือคดีที่ 2 ปี และ 3 ปี จำคุก 3 และต่อด้วยคดีจำคุก 5 ปี



ในเรื่องการนับโทษต่อนี้ ตามปกติศาลจะกำหนดไว้ในคำพิพากษา ให้นับโทษต่อก็ต่อเมื่อโจทก์ มีคำขอให้นับโทษต่อมาในคดีด้วย และการนับโทษต่อจะต้องไม่เกินไปกว่าที่โจทก์ขอเข้ามาในคดี เนื่องจากเป็นการกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของจำเลย



รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่าไม่มีการส่งนายทักษิณ ชินวัตร ไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน และหากพ้นจากวิกฤตแล้ว แพทย์โรงพยาบาลตำรวจก็จะส่งตัวกลับเรือนจำ อย่างไรก็ตาม แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจเปิดเผยว่าอดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านายทักษิณอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพราะมีหลายอาการรุมเร้า และหากแพทย์ ไม่สามารถรักษาได้จนต้องส่งต่อไปรักษาที่อื่น ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของกรมราชทัณฑ์



พลตำรวจโทโสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกเคลื่อนย้ายจากเรือนจำ กรมราชทัณฑ์ มารักษาด่วนที่โรงพยาบาลตำรวจเมื่อคืนนี้ โดยระบุว่านายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก กระทันหัน ค่าออกซิเจนต่ำ และค่าความดันโลหิตสูงมาก จนทีมแพทย์ราชทัณฑ์ ลงความเห็นให้ส่งตัวด่วนมาที่โรงพยาบาลตำรวจ



พลตำรวจโทโสภณรัชต์ระบุว่าขณะนำตัวมาเมื่อคืนนี้ นายทักษิณ มีความดันโลหิตสูงถึง 170 มิลลิเมตรปรอท แพทย์รักษาด้วยการให้น้ำเกลือ และระดมทีมแพทย์ ตั้งเป็นคณะ รักษา รวม 6 ท่าน มีหมอเชี่ยวชาญด้านหัวใจ ปอด และภาวะติดเชื้อของอาการโควิด-19 อยู่ในทีมดังกล่าว โดยอาการดีขึ้น แต่ยังใส่สายออกซิเจน สามารถสื่อสารได้แต่ ยังมีอาการเหนื่อยหอบ แพทย์สั่งงดเยี่ยมทุกกรณี และหากท้ายสุดแพทย์ไม่สามารถรักษาได้ ก็ต้องส่งต่อที่อื่น หรือถ้าญาติต้องการย้ายตัวผู้ป่วยไปโรงพยาบาลเอกชน ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจกรมราชทัณฑ์



ห้องพักที่นายทักษิณรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 ของหอผู้ป่วยพิเศษระดับสูง อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา ซึ่งนายแพทย์ใหญ่ระบุว่าไม่ใช่ห้องพิเศษ เพราะดัดแปลงจาก ห้องที่รักษาผู้ป่วยโควิดไม่มีแอร์ แต่ต้องใช้พัดลม 2 ตัวระบายอากาศแทน และระบุว่าห้องพักของนายทักษิณไม่ได้อยู่ฝั่งที่มองเห็นทัศนียภาพภายนอก เนื่องจากฝั่งดังกล่าวติดกระจก อากาศร้อน ขณะเดียวกัน นายทักษิณไม่ได้ใส่เครื่องพันธนาการ เพราะเข้าเงื่อนไขว่าอายุ 70 ปีขึ้นไป หรือมีอาการหนัก ไม่ต้องใส่เครื่องพันธนาการ เพราะจะทำให้การรักษายุ่งยาก



ล่าสุด นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเผย นายทักษิณจะยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ และไม่มีการย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งอื่น และจะรักษาตัวให้พ้นวิกฤต จนกว่าแพทย์โรงพยาบาลตำรวจจะอนุญาตให้กลับไปรักษาตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และกรอบเวลารักษาตัว ก็จะเป็นอำนาจของแพทย์ที่จะประเมินและมีความเห็น

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ