ราชทัณฑ์แจง 'ทักษิณ' สูงอายุ-ป่วย 4 โรค เป็นกลุ่มเปราะบาง ต้องแยกขังเดี่ยว

หลังคุมตัวนายทักษิณ มาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครแล้ว กรมราชทัณฑ์ ได้เปิดเเถลงชี้เเจงว่านายทักษิณ เป็นผู้ต้องขังแบบพิเศษ ผลตรวจสุขภาพพบป่วย 4 โรคเรื้อรัง เข้าข่ายเป็นกลุ่มเปราะบาง ต้องแยกขังเดี่ยวในสถานพยาบาล และหากต้องพบแพทย์เฉพาะทาง อาจต้องส่งตัวเข้าโรงพยาบาลของรัฐ



กรมราชทัณฑ์ร่วมกันแถลงข่าวหลังจากรับตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้มีสถานะเป็นผู้ต้องขังในคดีการเมือง มีโทษจำคุกรวม 8 ปี โดยมี นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม / นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ / นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ / นายนัสที ทองปลาด ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และนายแพทย์วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ร่วมเเถลง



นายอายุตม์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้จัดสถานที่เพื่อรองรับกรณีมีญาติมาเยี่ยม เนื่องจากผู้ต้องขังมีญาติ เพื่อน และองค์กรต่าง ๆ ที่ให้การสนับสนุน และมีความประสงค์ที่จะเดินทางเข้ามาเยี่ยมจำนวนมาก โดยที่ทุกคนสามารถมาลงทะเบียนขอเยี่ยมได้ ตามระเบียบของเรือนจำ และเนื่องจากนายทักษิณ มีอายุ 74 ปี ถือเป็นกลุ่มเปราะบาง ซึ่งถือว่าอยู่ในกลุ่มผู้ต้องขังสูงอายุ ที่ต้องเฝ้าระวังทั้งเรื่องสุขภาพร่างกาย และอนามัย ขณะนี้ได้แยกตัวผู้ต้องขังไปอยู่ในสถานพยาบาล ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพียงคนเดียวก่อน เพื่อไม่ให้ปะปนกับผู้ต้องขังคนอื่น



นายแพทย์วัฒน์ชัย บอกว่า ญาติของนายทักษิณ ได้นำประวัติการรักษา รวมถึงการตรวจเบื้องต้นของแพทย์ พบว่ากำลังรักษาอยู่ 4 โรค โดยโรคที่เป็นประเด็น และต้องเฝ้าระวัง มีประวัติโรคประจำตัว



1. โรคหัวใจ มีประวัติกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ทานยาละลายลิ่มเลือดอยู่



2. ปัญหาปอดอักเสบรุนแรง จากติดเชื้อโควิด ทำให้ภาวะปอดอักเสบเรื้อรัง ที่แม้ว่าจะหายแล้วแต่ยังมีผังผืดในปอด ทำให้เหนื่อยง่าย



ซึ่งทั้งสองโรคนี้ ต้องเฝ้าระวัง และต้องได้รับการดูแลโดยบุคลากรทางการแพทย์



3. ความดันโลหิตสูง ซึ่งอยู่ระหว่างการควบคุม และรับประทานยา



4. ภาวะเสื่อมตามอายุ ซึ่งพบว่ามีภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม ในหลายระดับ การตรวจเอ็มอาร์ไอ พบว่ามีการกดทับเส้นประสาท ส่งผลให้มีอาการปวดเรื้อรัง มีอาการการเดิน ทรงตัว ที่ผิดปกติ



โดยเบื้องต้นได้เตรียมแพทย์ของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไว้แล้ว แต่หากโรคใดไม่มีแพทย์เฉพาะทางก็จำเป็นต้องส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลที่มีแพทย์เฉพาะทางของโรคนั้น



ซึ่งตามระเบียบของราชทัณฑ์ การส่งตัวผู้ต้องขังออกไปรักษาภายนอก จะต้องคำนึงถึงความปลอดภัย หรือการหลบหนีจากการคุมขังด้วย ฉะนั้นจึงต้องใช้โรงพยาบาลของรัฐเป็นหลัก อันดับแรกคือ โรงพยาบาลตำรวจ หรือโรงพยาบาลเฉพาะทางในสังกัดของกระทรวงสาธารณสุข หลังจากนี้ ยังต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อโรคจากระบบทางเดินหายใจ ซึ่งทางเรือนจำมีห้องกักโรคไว้แล้ว รวมทั้งเฝ้าระวังโรคติดต่อจากต่างประเทศ เพราะผู้ต้องขังเดินทางไปหลายประเทศ



ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยหลังจากเข้าไปพบกับผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ยืนยันว่า การเข้าไปในเรือนจำวันนี้ ไปในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และรับรายงานจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่าไม่ได้เข้าไปพบตัวนายทักษิณ



ส่วนการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ ผู้ต้องขังต้องยื่นเรื่องผ่านพัสดีเรือนจำ ก่อนจะส่งไปกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ก่อนส่งให้นายกรัฐมนตรี และสำนักองคมนตรี ซึ่งจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับพระบรมราชวินิจฉัย ซึ่งผู้ต้องขังสามารถยื่นเรื่องได้ทันทีที่ได้รับโทษจำคุก



นายวิษณุ ยืนยันว่า กระบวนการนี้ไม่มีการช่วยเหลือ หรืออำนวยความสะดวกให้กับนายทักษิณ เพราะที่ผ่านมาก็มีผู้ต้องขังยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ ตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรือนจำ ซึ่งก็มีจำนวนมาก แต่หากการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษเร็วไป ก็อาจจะมีผลเสียเรื่องการพรรณาเหตุผล ในการขอพระราชทานอภัยโทษ