เลือกตั้งและการเมือง

ไฮไลต์สภา! ก่อนโหวตนายกฯ 'ชลน่าน' ซัด จับมือ 'ก้าวไกล' คือความผิดพลาด

โดย panwilai_c

22 ส.ค. 2566

170 views

หนึ่งในประเด็นซึ่งเป็นที่สนใจมาก ในระหว่างการประชุมรัฐสภา เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ก็คือการอภิปรายทั่วไปก่อนการลงคะแนน ซึ่งนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้า พรรคเพื่อไทย ตอบโต้พรรคก้าวไกลในสภาว่า ถ้าไม่ใช่เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่มีทางที่พรรคเพื่อไทย จะจับมือกับพรรคก้าวไกลเพื่อจัดตั้งรัฐบาล และยังระบุว่าถ้ากลไก รัฐธรรมนูญเป็นปกติ ก็สามารถแย่งจัดตั้งรัฐบาลได้ ส่วนอีกประเด็นที่ดุเดือดไม่แพ้กัน ก็คือการตอบโต้ระหว่างประธานรัฐสภา ที่ถูกสส.พรรคก้าวไกล ประท้วงในสภาว่า ทำหน้าที่ ไม่เป็นกลาง



ในระหว่างการอภิปรายก่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นอภิปราย ในประเด็นต่อเนื่องจากการประชุม เมื่อ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ได้เสนอให้ที่ประชุมพิจารณาทบทวนมติการเสนอ ชื่อบุคคลที่สมควร ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีซ้ำ แต่เมื่อ 4 สิงหาคมนั้น ประธานเลื่อนประชุม เพื่อรอฟัง การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญก่อน และต่อมาศาลมีมติไม่รับคำร้องดังกล่าวของผู้ตรวจการแผ่นดิน



ช่วงหนึ่งนายรังสิมันต์ กล่าวว่ากรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ถือว่าเป็นการกระทำตาม ขั้นตอนที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ไม่ใช่กรณีที่ต้องปฏิบัติ ตามข้อบังคับ การประชุมของรัฐสภา และที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องดังกล่าว แต่ก็เป็นเหตุผลเพราะผู้ร้องไม่ได้ อยู่ในเกณฑ์ที่จะยื่นคำร้องได้ ไม่ใช่ยกคำร้องจากการพิจารณา เนื้อหาสาระแต่อย่างใด แสดงให้เห็นว่า ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ ยังมีความเห็นแย้งกับการตีความ ที่รัฐสภาได้เคยมีมติไปแล้ว



ระหว่างนั้นนายวันมูหะมัดนอร์ เตือนนายรังสิมันต์ให้รีบสรุปประเด็นเพราะใช้เวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมง แต่นายรังสิมันต์ แย้งว่าใช้เวลาไปเพียง 13 นาที และขอให้ประธาน แก้ไข คำพูดที่ว่าอภิปรายไปแล้วครึ่งชั่วโมงทำให้ประธานพูดแก้ไข และกล่าวขอโทษ พร้อมกับวินิจฉัยไม่รับญัตติด่วนด้วยวาจาที่นายรังสิมันต์เสนอมา ทำให้สส.พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นประท้วง โดยนายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล ประท้วงว่า ประธานรัฐสภาทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง และรู้เห็นเป็นใจกับเสียงข้างมากของวุฒิสภา และพรรคขั้ว รัฐบาลเก่า ขณะที่นายวันมูหะมัดนอร์ ก็โต้แย้งว่าไม่เคยรู้เห็นเป็นใจกับเสียงข้างมาก และคำกล่าวหานั้นรุนแรง จึงขอให้นายธีรัจน์ชัย ถอนคำพูดดังกล่าว



หลังจากนั้น นายรังสิมนต์ ได้ขอถอนญัตติด่วนด้วยวาจาดังกล่าว เพื่อให้เข้าสู่วาระเลือกนายกรัฐมนตรี จากนั้นนายแพทย์ชลน่าน ได้เสนอชื่อนายเศรษฐา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณา กระทั่งีการอภิปรายจากสมาชิกอย่างหลากหลาย จนสุดท้ายนายแพทย์ชลน่าน ได้ขอบคุณสมาชิกที่ให้ความสนใจเรื่องมาตรฐานจริยธรรมคุณธรรม ของนายเศรษฐา



ช่วงหนึ่งนายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่าถ้าไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพื่อไทยไม่มีทางจับมือกับก้าวไกล ถ้ากลไกการเมืองและรัฐธรรมนูญเป็นปกติ เพื่อไทยจะรอและชิงจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่สภาพรัฐธรรมนูญแบบนี้บังคับให้ไม่จับมือไม่ได้ แต่ก็ถือว่าคิดผิด เพราะยิ่งจับมือยิ่งตั้งรัฐบาลไม่ได้



ขณะที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยหลังการประชุมรัฐสภา ต่อกรณีที่นายแพทย์ชลน่าน พาดพิงพรรคก้าวไกล ในที่ประชุมรัฐสภา ว่าตัดสินใจผิดพลาดที่จับมือกับพรรคก้าวไกล โดยนายวิโรจน์ระบุว่าไม่คิดมาก เพราะมีวุฒิภาวะ และความเป็นผู้ใหญ่พอ แต่รู้สึกเสียใจและสะดุ้งมากกว่า คือ นโยบายการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ไม่ใช่ฉบับร่างของประชาชน เหมือนที่ระบุในช่วงแรก แต่กลายเป็นเพียงการหาเสียงเท่านั้น

คุณอาจสนใจ

Related News