แม่ร้อง ฝากลูกวัย 3 เดือนกับเนอสเซอรี่ ไม่ถึง 1 วันลูกเสียชีวิต ครูอ้างว่าลูกสำลักนม

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 21 สิงหาคม 2566 ที่สำนักงานทนายรณณรงค์ ถนนแจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นส.สุปราณี พรมจำปา อายุ 34 ปี เดินทางร้องเรียนกับทนายรณณรงค์ให้ช่วยเหลือเพื่อหาความจริงว่า เด็กหญิง อายุ 3 เดือนซึ่งเป็นลูกสาว เสียชีวิตเกิดจากสาเหตุอะไร


สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 ก.ค.66 ได้พาลูกวัย 3 เดือน ไปฝากครูที่เนอสเซอรีเลี้ยงไว้เป็นวันแรก เมื่อเวลา 07.00 น. ในระหว่างวันมีการแชตคุยกับครูตลอดผ่านทางไลน์ ว่าน้องทำอะไรบ้าง หลังจากนั้นช่วงเย็นเวลา 16.43 นาที ครูโทรมาแจ้งว่าน้องสำลักนมหยุดหายใจ ให้คุณแม่รีบมา


ในระหว่างนั้นครูได้พาน้องไปคลินิกแล้ว ซึ่งเป็นคลินิกทั่วไป หลังรับแจ้งจากครูประมาณ 10 นาทีคุณแม่ไปถึง เห็นเจ้าหน้าที่ช่วยปั๊มหัวใจน้อง เห็นน้องขาม่วง ไม่มีชีพจรจากนั้นประมาณ 6 โมงเย็น เจ้าหน้าที่คลินิก โทรแจ้ง 1669 ให้ไปรับลูกส่งที่รพ.สินแพทย์ ศรีนครินทร์ เมื่อถึงรพ.ช่วยปั๊มหัวใจ หลังจากนั้นคุณหมออกมาแจ้งคุณแม่ว่าน้องไม่อยู่กับเราแล้ว ซึ่งในช่วงเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ท้องจนคลอดน้องไม่เคยมีอาการใดๆ และป่วยใดๆ น้องแข็งแรงมาก ตลอดระยะเวลาที่ 3 เดือนที่คุณแม่เลี้ยงมาเองตลอด สาเหตุที่ต้องไปฝากเลี้ยงที่เนอซ์เซอรี เพราะ ยายร่างกายด้านซ้ายอ่อนแรง ตาเป็นผู้ป่วยติดเตียง ช่วงลาคลอดเลี้ยงเองได้ 98 วัน ที่กรุงเทพ


นส.สุปราณี อายุ 34 ปี กล่าวว่า วันนี้เดินทางเข้าร้องทนายรณณรงค์ ให้ช่วยเรื่องคดีลูกพอดีตนเอาลูกไปฝากเลี้ยงที่เนอซ์เซอรีที่กรุงเทพ เพียงวันเดียว จากนั้นครูได้แจ้งมาว่าน้องสำลักนมและขาดอากาศหายใจ ในช่วงเช้าระหว่างที่เอาลูกไปฝากทางครูมีการแชตคุยกับตนตลอด และช่วงเย็นครูได้แจ้งมาว่าลูกสำลักนม ซึ่งก่อนที่จะไปฝากลูกไม่มีอาการป่วย เพราะตนเลี้ยงลูกเองตลอดในช่วงที่ลาคลอด 3 เดือน ลูกเป็นเด็กแข็งแรงปกติ


หลังจากตนได้รับแจ้งจากครูตนได้เดินทางไปที่คลินิกและได้สอบถามครู ซึ่งครูเล่าว่าลูกกินนมแล้วครูได้อุ้มลูกพาดบ่าเพื่อให้เรอ หลังจากนั้นกำลังจะเอาน้องไปนอน ลูกได้อาเจียนนมออกมา ครูจึงได้เอาลูกพาดบ่าอีกที จากนั้นเอาลูกลงมาก็พบว่าลูกปากเป็นสีม่วงแล้ว ครูได้ปั๊มหัวใจช่วยประมาณ 10 นาที ผายปอด พอเห็นว่าอาการไม่ดีจึงได้พาลูกไปคลินิก เมื่อตนไปถึงคลินิกเห็นแพทย์และพยาบาลกำลังปั๊มหัวใจลูกอยู่


ต่อมาก็มีรถจากทาง รพ.มารับตัวลูกไป หลังจากลูกเสียชีวิตไปแล้ว ทางเนอซ์เซอรีได้แชตมาแสดงความเสียใจ และจะชดใช้เยียวยาให้เต็มที่ ส่วนทางด้านพี่สาวตนได้นำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปโพสต์ในโซเชียล ทำให้ทางเนอซ์เซอรีติดต่อมาว่าเห็นโพสต์แล้วไม่สบายใจ เปิดมา 14 ปีไม่เคยมีเหตุการณ์ เป็นคราวซวยที่รับเงินค่าดูแลเด็ก 6,200 บาทมา


ทำให้ตนรู้สึกเสียใจกับการตอบโต้ของเนอซ์เซอรีมาแบบนี้ ตนไม่คิดว่าเขาจะตอบโต้ในลักษณะนี้ ตนจึงได้คุยกับทางครอบครัวและลงมติว่าจะยังไม่ทำการฌาปนกิจลูก ให้เก็บศพน้องไว้ก่อนเพื่อรอผลชันสูตรที่ชัดเจนครั้ง และให้ดำเนินคดีกับทางครูก่อนถึงจะเผาศพลูก ซึ่งตอนนี้ฝากร่างลูกไว้ที่ รพ.อุดรธานี


ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร กล่าวว่า อย่างแรกตามธรรมชาติของเด็กเล็ก ถ้าจะเสียชีวิตอาจเกิดจากการมีขวดนมคาไว้ที่ในปากจนเด็กขยับตัวไม่ได้ อย่างแรกในทางกฎหมายต้องดูว่าเด็กเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ หรือเป็นเหตุสุดวิสัยเด็กเสียชีวิตเอง


ส่วนอุบัติเหตุเป็นเหตุประมาทเลินเล่อปล่อยปละละเลยทำให้เด็กสำลักนม และไม่สนใจดูแลจนเด็กหมดลมหายใจ ซึ่งต้องรอผลทางการแพทย์ หลังจากนั้นจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาทางครูและทางเนอซ์เซอรีต้องชดใช้เยียวยา และเด็กที่อายุ 3 เดือนปกติเนอซ์เซอรีที่ถูกกฏหมายจะไม่รับดูแล เรื่องนี้ทางพม.ต้องเข้ามาตรวจสอบด้วย