ชาวมูโนะหลังโกดังพลุระเบิดตกงานกว่า 500 คน ขอบคุณยังมีคนใจบุญเดินแจกเงิน

สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับโกดังเก็บดอกไม้ไฟ ม.1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ระเบิด เมื่อวันที่ 29 ก.ค.66 ที่ผ่านมา จนสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือน ทรัพย์สิน รวมไปถึงมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากนั้น



ล่าสุดจากการติดตามผลเกี่ยวเนื่องกับเหตุโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด พบว่า มีชาวบ้านอีกเป็นจำนวนมากที่เช่าบ้านเปิดจำหน่ายสินค้านานับปการ อาทิ รองเท้า เสื้อผ้า ร้านชำและอาหารตามสั่ง ที่ทรัพย์ภายในบ้านเช่าได้รับความเสียหาย ซึ่งทางราชการได้เยียวยาไปแล้วในเบื้องต้น ซึ่งข้อเท็จจริงได้รับการเยียวยาไม่ถึงร้อยละ 30 ของสินค้าหรือทรัพย์สินของแต่ละคน โดยส่วนใหญ่ได้พยายามเลือกสินค้าที่มีอยู่ในบ้านเช่าที่ไม่ได้รับความเสียหายมาวางจำหน่ายในราคาถูก เพื่อให้ได้เงินมาใช้จ่ายหรือประทังชีวิตในเบื้องต้น ก็พบว่าไม่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภค เงินที่ได้จากการเยียวยาก็ค่อยๆหมดไป จนกลายสภาพเป็นผู้ว่างงานหรือไม่มีรายได้ในแต่ละวันเพียงบาทเดียว



และจากการติดตามผลกระทบของชาวบ้านที่ตลาดมูโนะ ล่าสุดพบว่า มีชาวบ้านตกงานหรือไม่มีงานทำจากการรวบรวมข้อมูลของสำนักงานแรงงาน จ.นราธิวาส จากยอดชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 2,146 คน มีจำนวนทั้งสิ้น 501 คน โดยแยกเป็น 1. อยู่ในระหว่างดิ้นรนหางานทำ 154 คน 2.ลงทะเบียนสมัครงาน 48 คน 3.มีความต้องการฝึกงานด้านอาชีพต่างๆ 189 คน และ 4. ได้ลงทะเบียนเพื่อต้องการฝึกอาชีพหลังจากเหตุการณ์โกดังพลุระเบิดคลี่คลาย จะได้มีอาชีพติดตัว จำนวน110 คน ซึ่งใน 105 คน ไม่รวมไปถึงชาวบ้านที่ไปเช้าร้านจำหน่ายสินค้าในตลาดมูโนะอีก 200 คน ที่ปัจจุบันอยู่ในสภาวะตกงานเหมือนกับชาวบ้าน 105 คน ที่ได้แจ้งความจำนงต่อสำนักงานแรงงาน จ.นราธิวาส




ด้านนายซัมรี ซึ่งเป็นผู้เช่าร้านจำหน่ายเสื้อผ้าชุดนักเรียน กล่าวว่า ผมไม่ใช่ว่าจะเรียกร้องอะไรมากเหรอ แต่ต้องการชดเชยข้าวของที่อยู่ด้านในอย่างน้อยครึ่งก็ยังดี แต่ว่า ณ ตอนนี้พึ่งได้ประมาณ 2 หมื่นกว่าบาทแค่นี้มันไม่เพียงพอ เพราะว่าทรัพย์สินที่อยู่ในร้านเกือบ 2 แสนที่เราไปแจ้งความตอนนี้ไปแจ้งความหมดแล้ว นี้ถ้าได้ไป 2 หมื่นกว่ามันไม่คุ้ม แต่ไม่รู้ว่าทางรัฐเขาเยียวยากันแบบไหนเราไม่รู้ หลังจากทรัพย์สินเสียหายตอนนี้ไม่มีอาชีพไม่มีรายได้เข้าครอบครัว ลูกก็เรียนอยู่นั่นแหละความลำบาก ทราบว่าเป็นผู้เช่ามีอยู่กว่า 200 หลังคาเรือน ร้านผมเละเลยขนาดของในร้านมาโละก็ขายไม่ออก ได้ลดราคาก็ขายได้ไม่ถึงครึ่งไม่มีใครซื้อมีทั้งเสื้อผ้าเด็ก กระเป๋านักเรียน รองเท้า เต็มร้านตั้งแต่เด็กเล็กถึงผู้ใหญ่ ก็ขอให้ทางรัฐเร่งช่วยเยียวยาให้หน่อยเพราะว่าชาวบ้านมูโนะลำบากกันทุกคนน่ะตอนนี้



ด้านนายสหรัฐ ชาวตลาดมูโนะ กล่าวว่า รัฐเขามีเงื่อนไขถ้าเป็นบ้านเช่าเขาไม่เยียวยา ผมมีอยู่ 10 กว่าห้อง ตอนนี้ได้การบริจาคของหน่วยงานเอกชน ที่มาให้กระเบื้องมาให้หลังคา มีทหารและจิตอาสามาช่วยซ่อมแซมให้จริงๆ บ้านเช่ามันเป็นบ้านหลังหนึ่งเหมือนกัน มีนให้เยียวยาบ้านก็ได้ คนไม่เยียวยาแต่บ้านให้เสร็จเนี่ยมันเป็นการขอบริจาดในภาครัฐ ซึ่งเขาบอกว่ามันไม่เข้าเงื่อนไขในการเยียวยาเราก็ไม่เข้าใจ แต่ถ้าไม่เข้าเงื่อนไขเราก็ไม่เข้าใจ ถ้าไม่เข้าเงื่อนไขคุณทำไมไม่เอาเงินที่เขาบริจาคมาทำ เราไม่ต้องการอะไรมากกว่าความเป็นจริงแต่ให้มันกลับมาใกล้สภาพความเป็นจริง



นอกจากนี้ในส่วนของการเคลียร์หรือปรับพื้นที่จุดศูนย์กลางของที่ตั้งโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด ล่าสุด เจ้าหน้าที่หน่วยพัฒนาเคลื่อนที่ 41 ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่องในการใช้รถแบคโฮตักเศษซากหินและซากปรักหักพังนำไปทิ้ง ล่าสุดการเคลียร์หรือปรับพื้นที่แล้วเสร็จไป ประมาณร้อยละ 80 เหลืออีกร้อยละ 20 สามารถที่จะส่งมอบงานให้กับเจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดินและผังเมือง เข้าไปทำการวางผังเพื่อทำการก่อสร้างบ้านให้กับชาวบ้านได้ทันที



แต่ถึงอย่างไรก็ตามในส่วนของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด ซึ่งมีจำนวนทั้ง 88 หลังคาเรือน ปัจจุบันทางสำนักงานพัฒนาสังคม จ.นราธิวาส ได้ช่วยเหลือค่าเช่าตามหลักเกณฑ์ของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน จำนวน 85 หลังคาเรือน ส่วนอีก 3 หลังคาเรือนอยู่ในระหว่างการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ ซึ่งล่าสุดพบว่า ส่วนใหญ่จะกระจายแยกย้ายกันไปเช่าบ้านในพื้นที่หมู่บ้านต่างๆ ของ ต.มูโนะ และได้ไปอาศัยเช่าอยู่เป็นกลุ่มก้อน จำนวนกว่า 20 ครัวเรือน ที่บริเวณตลาดนัดมูโนะหลังใหม่ ซึ่งทางเจ้าของได้ช่วยเหลือคิดค่าเช่าเพียงเดือนละ 1,500 บาท ทั้งที่ทางราชการให้ค่าเช่าเดือนละ 3,000 บาทต่อครัวเรือน โดยเจ้าของบ้านคิดว่าในเวลา 6 เดือน ที่ทางค่าออกค่าเช่าบ้านให้นั้น ไม่สามารถก่อสร้างบ้านหลังใหม่ให้ทัน จึงขยายเวลาให้เป็น 1 ปี ทที่ทางราชการไม่ต้องมีการพิจารณามาจ่ายค่าเช่าบ้านที่ต้องยืดระยะเวลาอีก 6 เดือนรวมเป็น 1 ปี




ในส่วนของผู้มีจิตศรัทธาต่อชาวตลาดมูโนะ ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ยังมีอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด นายสิทธิโชติ ดือราแม ที่ปรึกษาชุมชนท่องเที่ยวตลาดมูโนะ ได้ร่วมกับผู้ใจบุญนำเงินจำนวนหนึ่ง เดินแจกจ่ายให้กับชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งอย่างน้อยสามารถนำเงินไปใช้จ่ายในส่วนที่จำเป็นในการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะทราบดีว่าเงินที่ทางราชการให้การเยียวยาในเบื้องต้น มีไม่เพียงพอที่จะนำมาใช้จ่ายแบบรายวัน