‘อดีตพระ’ สึกเดือนเดียวเมาเละเทะ ได้เงิน 3 แสน ใช้เกลี้ยง ฉุนพี่ไม่ยอมให้ไปขอเงินพระมาดื่มเหล้า

ญาติระอา! ชายวัย 56 “อดีตพระ” บวชมา 8 พรรษา ตัดสินใจสึกออกมาใช้ชีวิตฆราวาสเพียงเดือนเดียว เงิน 3 แสนเกลี้ยง พี่สาวระอาชอบสังสรรค์ เมาแล้วขับประสบอุบัติเหตุเสียเงินจนหมดตัว ล่าสุดข่มขู่พี่สาวจะเอารถยนต์ไปขอเงินพระที่วัดมาดื่มเหล้าต่อ

เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. วันนี้ (18 สิงหาคม 2566) เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองสิงห์บุรี รับแจ้งเหตุเมาสุราอาละวาด เหตุเกิดบริเวณพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสิงห์บุรี จึงได้เข้าไปตรวจสอบและระงับเหตุ เมื่อเดินทางไปถึงยังจุดที่ได้รับแจ้ง ก็พบกับชายหญิงโต้เถียงกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน โดยฝ่ายหญิงคือนางสนาม อุทัยรัตน์ อายุ 58 ปี ส่วนฝ่ายชายคือนายประทีป เส็งเกลี้ยง อายุ 56 ปี เป็นพี่น้องกัน


สำหรับสาเหตุและที่มาของการทะเลาะวิวาทกันในครั้งนี้ก็คือ นายประทีป ผู้เป็นน้องชายต้องการที่จะมาเอารถยนต์ของตนเอง แต่นางสนาม พี่สาว ที่เก็บกุญแจรถไว้ ไม่ยอมให้นายประทีปนำรถไป จึงเกิดวิวาทะถกเถียงกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าระงับเหตุ นายประทีปจะแจ้งความดำเนินคดีกับพี่สาวในข้อหายักยอกทรัพย์ เพราะรถยนต์เป็นของตนเอง

ทางด้านนางสนาม พี่สาวเปิดเผยว่า นายประทีป น้องชายของตนนั้น ก่อนหน้านี้บวชเป็นพระสงฆ์อยู่ที่วัดโพธิ์เก้าต้น อำเภอค่ายบางระจัน สิงห์บุรี โดยในระหว่างที่บวชเป็นพระ ก็ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จนเป็นที่เคารพนับถือของญาติโยมและเป็นที่รักใคร่ของเจ้าอาวาส กระทั่งต่อมาเมื่อสองเดือนก่อนจะเข้าพรรษา จู่ๆ นายประทีปลาสิขาออกมา ทั้งที่บวชมานานถึง 8 พรรษาแล้ว ทำเอาญาติพี่น้องรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก



เมื่อสึกออกมาแล้วมีสมบัติเป็นรถยนต์คันดังกล่าวซึ่งซื้อไว้ เมื่อครั้งเป็นพระสงฆ์และเงินสดติดตัวอีก 3 แสนบาท แต่นายประทีปใช้เวลาเพียงหนึ่งเดือนในการเที่ยวเตร่ สังสรรค์กับเพื่อนฝูง เมามายเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนผู้อื่นมาหลายครั้ง จนเงินสามแสนหมดเกลี้ยง ปัจจุบันนายประทีปก็พักอาศัยอยู่กับตน



โดยตนแบ่งเงินให้ใช้วันละ 100 บาท และเก็บกุญแจรถไว้ ไม่ให้นำรถไปใช้ เพราะนายประทีปอยู่ระหว่างถูกคุมประพฤติเนื่องจากเหตุเมาแล้วขับ มีคำสั่งห้ามขับรถยนต์ โดยก่อนเกิดเหตุนายประทีปมีอาการเมา มาขอกุญแจรถจะขับไปขอเงินเพื่อนที่บวชเป็นพระมาด้วยกัน แต่ตนไม่ให้ เพราะเกรงจะไปประสบอุบัติเหตุทำให้ตนเสียเงินอีก จึงเกิดปากเสียงกัน จนต้องเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยเหลือ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ว่ากล่าวตักเตือนและแนะนำให้แยกย้ายกันไป พร้อมกำชับนายประทีปให้ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลที่ห้ามขับรถยนต์ ก่อนที่นานประทีปจะยินยอมและเดินหนีหายไป หลังจากนั้นนางสนามก็ได้นำรถยนต์ของนายประทีปไปจอดซ่อนไว้ในสถานที่ที่ปลอดภัย เกรงว่านายประทีปจะย้อนกลับมา ข่มขู่เอากุญแจรถยนต์ออกไปได้อีก