สังคม

รวบขบวนการลักลอบขนเกล็ดตัวลิ่น 1.4 ตัน ซุกซ่อนมากับรถบรรทุกปุ๋ย ล็อตใหญ่สุดในรอบ 10 ปี

โดย paranee_s

17 ส.ค. 2566

151 views

พันตำรวจเอก อริยพล สินสอน รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และตัวแทนจากกองบังคับการตำรวจทางหลวง ร่วมกันจับกุมขบวนการลักลอบขนเกล็ดตัวลิ่นข้ามชาติ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คนคือนายธนากร อายุ 34 ปีและนายรุ่งอายุ 50 ปี พร้อมของกลางเกล็ดตัวลิ่นน้ำหนักของกลางรวมกว่า 1,400 กิโลกรัมมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท พร้อมรถบรรทุก 6 ล้อทะเบียนหมวดจังหวัดสงขลา ที่ใช้ในการขนส่ง


หลังพบว่า ในโลกออนไลน์มีการลักลอบค้าสัตว์ป่าโดยผิดกฎหมายเพิ่มมากขึ้น โดยมีรูปแบบการกระทำความผิดเป็นขบวนการตำรวจสอบสวนกลางจึงได้ออกสืบสวนหาข่าวร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามการค้าสัตว์ป่าโดยผิดกฎหมาย กระทั่งทราบว่าจะมีการลักลอบค้าเกล็ดตัวลิ้นหรือตัวนิ่มจากพื้นที่ภาคใต้ไปยังชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อส่งต่อไปยังประเทศที่ 3


กระทั่งเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมาตำรวจบก.ปทส. สืบสวนว่าจะมีการใช้รถบรรทุกลำเลียงผ่านพื้นที่ภาคกลางไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือจึงได้ประสานไปยังตำรวจทางหลวงให้เข้าสกัดจับกุมในช่วงตอนประมาณ 20.30 น. บริเวณทางหลวงหมายเลข 2046 ช่วงกิโลเมตรที่ 50 - 51 ตำบลสมสะอาด อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ พบรถต้องสงสัยผ่านเข้ามาในพื้นที่ โดยมีลักษณะเป็นรถนำ และรถบรรทุกของกลางตามหลัง ซึ่งเป็นลักษณะต้องสงสัยว่าจะมีการขนส่งสิ่งผิดกฎหมาย จึงขอเข้าตรวจค้นรถพบเกล็ดตัวลิ่นบรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ยจำนวน 42 ถุงน้ำหนักรวม 1,400 กิโลกรัม โดยมีการวางเกล็ดตัวเล่นไว้ที่ชั้นล่างส่วนบริเวณชั้นบนจะวางกระสอบดินทางการเกษตรทับปกปิดสายตาไว้


จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การว่าได้รับการว่าจ้างเป็นเงินจำนวนหนึ่ง โดยไปรับสินค้ามาจากบริเวณริมถนนในจังหวัดราชบุรี เพื่อนำไปส่งให้กับกลุ่มผู้ว่าจ้าง ซึ่งจะรอรับอยู่ที่จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งตำรวจทางหลวงมีข้อมูลของกลุ่มขบวนการเดิมที่เคยทำการสืบสวนสอบสวนไว้ในระดับหนึ่งโดยจะนำข้อมูลจากพยานหลักฐานที่ได้ไปตรวจสอบว่าเกี่ยวพันกับกลุ่มเครือข่ายเดิมหรือไม่ เชื่อว่าขบวนการดังกล่าวได้ทำการชำแหละและถอดเกล็ดจากประเทศในภาคใต้ และขนส่งเข้ามาในประเทศไทยเพื่อเป็นทางผ่านไปยังประเทศทางตอนเหนือของไทย ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ถือว่าเป็นการจับกุมเกล็ดตัวลิ่นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปี


เบื้องต้นตำรวจบก.ปทส. ได้แจ้งข้อหาร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพรบ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2562


สำหรับการประเมินมูลค่าความเสียหายของเกล็ดตัวลิ่นของกลางที่สามารถตรวจยึดได้หากสามารถส่งออกไปยังประเทศที่ 3 ราคาจะสูงขึ้นไปอีกหลายเท่าตัวเบื้องต้นราคาในตลาดมืดขณะนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 40,000 บาท โดยเกล็ดตัวลิ่นเป็นซากสัตว์ป่าคุ้มครองของประเทศไทยเป็นสัตว์ป่าในบัญชีที่ 1 ตามอนุสัญญาไซเตสโดยประเทศไทยเป็นสมาชิกลำดับที่ 80 ที่ลงนามรับรองในอนุสัญญานี้


ซึ่งข้อมูลตามสภาพแวดล้อมพบว่าตัวลิ่นหรือตัวนิ่มพันธุ์มลายูเป็นสัตว์ป่าในบัญชีหมายเลข 1 ที่ประเทศไทยต้องปฏิบัติตามอนุสัญญาดังกล่าวคือห้ามส่งออกนำเข้าหรือครอบครองเว้นแต่เป็นกรณีของการศึกษาวิจัยโดยผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบพบว่าเกล็ดตัวลิ้นที่พบน่าจะถูกฆ่าเพื่อให้ได้เกล็ดในล็อตนี้ประมาณ 3,000-4,000 ตัว โดยเกล็ดลิ้น 1 กิโลกรัมจะเท่ากับลิ่มตัวโตเต็มวัย 3 ตัว เพื่อนำเอาเนื้อไปเป็นส่วนประกอบของอาหาร และนำเกล็ดไปเป็นส่วนประกอบหนึ่งของยาอายุวัฒนะและยาโด๊ป ในประเทศมหาอำนาจของย่านเอเชีย ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศวิทยาเป็นอย่างมาก


จากข้อมูลการข่าวของกรมอุทยานพบว่าในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 การขนส่งและความต้องการตัวลิ่นลดน้อยลงแต่ปัจจุบันมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นจึงเกิดการลักลอบขนส่งล็อตใหญ่ขนาดนี้เกิดขึ้นและมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการลักลอบขนส่งแบบยังมีชีวิตหรือการชำแหละเอาเนื้อหรือเกล็ดเพียงอย่างเดียว

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ