แม่ค้าขายแกงถุงละ 20 ปี โอดข้าวสาร-เนื้อสัตว์-ผักแพง แบกต้นทุนไม่ไหว ขอปรับราคาบางเมนูขึ้น 5-10 บาท

ที่จังหวัดอุทัยธานี ร้านข้าวแกงหน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์เพื่อการเกษตร ซึ่งเป็นขวัญใจของชาวเมืองอุทัยธานีมาอย่างต่อเนื่อง เพราะคนมาซื้อกันจนแน่นร้านในทุกเช้า โดยเฉพาะพ่อแม่ ผู้ปกครอง และคนทำงานที่ต้องไปทำงานไม่มีเวลาทำกับข้าวรับประทานกันเอง


ซึ่งจากการสอบถามนายสาทิตย์ เจ้าของร้านกับภรรยา ที่เปิดร้านขายข้าวแกงแห่งนี้มากว่า 10 ปีแล้ว ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่ายังคงยืนพื้นขายแกงถุงละ 20 บาท อยู่ และข้าวสวยนั้นขายถุงละ 5 บาทเหมือนเดิม แม้ข้าวสารจะมีราคาแพงขึ้น ซึ่งในช่วงนี้ก็ยอมรับว่าข้าวของนั้นแพงมากวัตถุดิบเครื่องปรุงต่าง ๆ รวมถึงผักและเนื้อสัตว์ที่นำมาประกอบอาหาร เช่นเมื่อ 2 วันก่อนนั้น ราคาผักชีกับต้นหอมนั้นขึ้นมาจนแทบจะซื้อมาไม่ได้ โดยผักชีกิโลกรัมละ 220 บาท ส่วนต้นหอมกิโลกรัมละ 130 บาท แล้วผักอื่น ๆ ที่ต้องซื้อมาประกอบอาหารในทุกวัน ก็ยังคงมีการขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วย


ในตอนนี้ต้องขอลูกค้าขึ้นราคากับข้าวบางอย่างเพิ่มขึ้นจากเดิม 5 - 10 บาท เช่นกับข้าวที่มีเนื้อสัตว์ทะเล เช่นกุ้ง ปลาหมึก โดยลูกค้านั้นก็เข้าใจก็ยังคงมาซื้อกันเหมือนเดิม โดยในช่วงเช้าของทุกวันนั้นชาวเมืองอุทัยธานีที่อยู่ในตัวอำเภอเมืองก็ยังคงมาที่ร้านแห่งนี้ ซึ่งมีอาหารให้เลือกกว่า 30 อย่างทุกวัน ทั้งผัด ทอด ต้ม แกง สารพัดเมนู


ซึ่งเจ้าของร้านนั้นใจดีเป็นกันเองกับลูกค้ามาก เพราะอุดหนุนกันอย่างประจำในทุกวันเลย ส่วนข้าวของที่แพงวัตถุดิบเครื่องปรุงรวมถึงผักสด ข้าวสาร ที่ปรับราคาสูงขึ้นต้องเพิ่มภาระต้นทุนที่สูงขึ้นจนกระทบเป็นลูกโซ่ ก็อยากให้ทางรัฐบาลที่จะมาเข้ารับตำแหน่งบริหารราชการแผ่นดิน ให้ความสำคัญเรื่องปากท้องเป็นอันดับแรก