สังคม

เขตการศึกษาฯบุรีรัมย์ ขู่เอาเรื่องเด็กพิการวัย14 ฐาน 'เก็บดอกเบี้ยเกิน กม.กำหนด' ปมครูยืมเงินเด็ก 2 หมื่น

โดย nattachat_c

17 ส.ค. 2566

4.7K views

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีครูสาวอายุ 27 ปี โรงเรียนบ้านโจด ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ สังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 ได้ยืมเงินเด็กหญิงอายุ 14 ปี ซึ่งเป็นเด็กพิการทางการเคลื่อนไหว (เดินขาเขย่ง) ชาว อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ไปเป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2566


ซึ่งจากคำบอกเล่าของเด็กก่อนหน้านี้ ครูสาวคนนี้มาถึงบ้านพัก แล้วพยายามมาคาดคั้นขอยืมเงินจาก นางสุภาพร พันธุ์ทูล อายุ 48 ปี แม่ของเด็ก แต่ไม่มีให้ จึงหันมาขอยืมเงินน้องเอ (นามสมมุติ) พร้อมกับเสนอจะให้ดอกเบี้ยกับเด็กร้อยละ 20 จนกระทั่ง เด็กยอมให้ยืมเงิน และสัญญาจะยืมเงินแค่ 2 เดือน


แต่สุดท้าย ไม่ยอมคืนเงินให้ ทวงถามหลายครั้ง ได้กลับมาเพียง 5,000 บาท ที่เหลือบล็อกโทรศัพท์ บล็อกไลน์ ไม่สามารถติดต่อได้ ก่อนจะมาร้องขอเพื่อขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ  เพราะเงินดังกล่าว เด็กจะเอาไปผ่าตัดรักษาตัวเอง

-------------

ความคืบหน้าล่าสุด วานนี้ (16 ส.ค. 66) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากแม่เด็กว่า นิติกรของสำนักงานเขตฯได้นัดหมายให้ครูมาจ่ายเงินจำนวนที่ค้างไว้ 15,000 บาท ที่สำนักงานเขตฯ


เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึง ถูก รอง ผอ.เขต มาโวยวายว่า 'ห้ามบันทึกภาพ' เพราะบริเวณนี้เป็นสถานที่ราชการ จะต้องทำหนังสือขออนุญาตเป็นลายลักอักษรก่อน แล้วปิดประตู ห้ามผู้สื่อข่าวเข้าไปในภายในอาคาร พร้อมกับให้ รปภ.มายืมคุมนักข่าวเอาไว้ เพื่อป้องกันการถ่ายภาพ


โดยหลังจากมีการชำระเงินกันเรียบร้อยแล้ว นางสุภาพร แม่เด็ก ออกมากล่าวว่า ได้พาลูกสาวมาที่เขตพื้นที่การศึกษาฯตามนัดหมาย ส่วนฝ่ายครู 27 ปี เดินทางมาพร้อมกับ ผอ.โรงเรียน


จากนั้น ทางสำนักงานเขต ได้กล่าวหาเด็กว่า 'เก็บดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด' ทำให้ลูกสาวตกใจ คิดว่าจะต้องเป็นคดีความ หันหน้ามาหาแม่พร้อมกับจับขาแม่ไว้แน่น และยังจะสอบสวนหาที่มาของเงินลูกสาวว่าเอาเงินมาจากไหน ทำไมเด็กตัวแค่นี้จึงมีเงินเก็บ


จึงต้องค้นหาภาพถ่ายในเฟชบุ๊กของลูกสาวมาเป็นหลักฐานว่า ลูกสาวหาเงินเองด้วยการขายของตามตลาดนัด รับจ้างทั่วไป ทั้งซักผ้า รีดผ้า ทำความสะอาดบ้าน


หลังจากนั้น จนท.จึงยอมให้ครูจ่ายเงิน 15,000 บาท ส่วนหนึ่งก็อยากจะถามครู ตอนยืมไปยืมถึงในบ้าน ตอนคืนให้ไปเอาที่เขตพื้นที่การศึกษาฯ และมีการสอบสวนเหมือนตำรวจ


ตนก็มีอาชีพเป็นครูเหมือนกัน มักจะสอนลูกเสมอเรื่องการทำมาหากิน เพื่อให้ตัวเองอยู่ได้ ส่วนสาเหตุที่ลูกสาวมีความมุมานะ เพราะคิดว่าจะต้องหาเงินรักษาตัวเอง เนื่องจากเคยคุยกับลูกว่า การผ่าตัดขาไม่สามารถใช้สิทธิ์การเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ เพราะเป็นการศัลยกรรม


ขณะที่ ด.ญ.เอ บอกว่า ตนเป็นคนชอบค้าขาย ขายทุกอย่างที่พอขายได้ รับจ้างทุกอย่างที่พอได้เงิน เพื่อเก็บเงินไว้หวังจะไปรักษาความพิการของตัวเอง และจะเก็บเงินไว้เป็นทุนการศึกษา หลังจากนี้ จะไม่กล้าให้ใครยืมเงินอีกแล้ว ถ้าเจอคนแบบนี้ จะตั้งใจเรียน และทำมาหากินดีกว่า

--------------



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/S99iAj5hBbw







คุณอาจสนใจ

Related News