สังคม

ยายเล่าชีวิต 'ที่ดินตาบอด' ต้องมุดรูหมาเข้าบ้าน แจงเหตุที่ไม่ขาย ปัดโลภโก่งราคา

โดย JitrarutP

14 ส.ค. 2566

957 views

รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกรณีมีการเผยแพร่คลิปในโลกออนไลน์ เป็นภาพครอบครัวหนึ่ง มีผู้สูงอายุในครอบครัว ต้องมุดรูเล็กๆใต้กำแพงเพื่อเข้าออกบ้าน เหตุเพราะที่ดินของตัวเองเป็นที่ดินตาบอด ไม่มีทางเข้าออก จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ที่ดินขนาด 22 ไร่ ย่านบางบอน เป็นของตายาย ชื่อ ตาโทน กับยายจันทร์ ซึ่งมีลูก 3 คน ต่อมานายทวนซึ่งเป็นลูกชายของ ตาโทนยายจันทร์ เขาแบ่งมรดกให้พี่น้อง คือ นางเจียน 6 ไร่ นางเล็ก(แม่ของแม่วิมล) 6 ไร่



ต่อมาที่ดินตกทอดมาเป็นมรดกสู่ลูกหลาน แม่วิมลเล่าว่า แม่ของตนคือนางเล็ก เอาที่ดิน 6 ไร่ที่ได้มา ไปขายฝากกับนายทวน เหลือไว้แค่ 1 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินไข่แดง ถูกที่ดินคนอื่นล้อมไว้หมด เป็นที่ดินตาบอด ขณะที่เขามีการขายฝากที่ดินอะไรกันในยุคนั้น แม่วิมลบอกว่าอยู่อย่างอดอยาก อดมื้อ กินมื้อ ตอนนั้นราคารวม 5 ไร่ แค่ 1 หมื่นบาท แต่ตนกับแม่ไม่มีเงินไปไถ่ถอนเขา จนมันขาด กรรมสิทธิ์ตกเป็นที่ดินของเขาไป



ต่อมาลุงทวนขายที่ดินให้โรงงานแป้งไปฝั่งหนึ่ง แล้วนางเจียนก็ขายที่ดินให้ยายของพระรูปหนึ่ง จนทำให้ที่ดินฝั่งขวาทั้งหมด กลายเป็นของคนอื่นไปแล้ว ส่วนอีกฝั่งเป็นของนายทวน ส่วนของแม่วิมลเป็นที่ดินตาบอด 1 ไร่ อยู่ตรงกลาง



สำหรับครอบครัวของแม่วิมล กับลุงทวน บาดหมางกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ที่เป็นปัญหาเรื่องแบ่งมรดก เขายืนยันไม่เจรจา ไม่ให้มีทางออก บอกว่าญาติพี่น้องคุยกันหมดแล้วว่าไม่ให้ออก ทางครอบครัวของแม่วิมลมีคนป่วยทั้งบ้าน ผู้สูงอายุป่วยหลายโรครุมเร้า ลูกสาวของแม่วิมลก็ป่วยธาลัสซีเมีย มีลูกเล็กอีก 1 คน ต้องเดือดร้อนเรื่องทางเข้าออกมาตลอด ที่ผ่านมา ใช้ทางเข้าออก ตรงพื้นที่ของพระ เขาเปิดให้เป็นทางเดิน กว้าง 1 เมตร ที่ผ่านมาไม่มีใครมาว่า แต่บางจุดมันแคบจนเดินไม่ได้ จะไปเจรจาขอเช่าที่เป็นทางเดินเข้าออกให้มันกว้างกว่านี้ แต่คนดูแลสวนเขาบอกว่าไม่รู้ ไม่เห็น ไม่มีเบอร์ติดต่อเจ้าของที่ ทางครอบครัวแม่วิมลจึงไปจ้างทนายฟ้องศาล เพื่อขอทางเดินกว้างขึ้น ประมาณ 1.5 เมตรก็พอ แต่ทางทนายแนะว่าถ้าจะขอ ให้ขอเผื่อไปเลย 3 เมตร เดี๋ยวศาลจะตีลดลงมาเอง แต่พอเรื่องขึ้นศาล ก็ลงไว้ว่า 3 เมตรตามที่ร้องขอ ก่อนศาลจะยกฟ้อง



แต่หลังมีเรื่องฟ้องศาล เจ้าของที่ดินไม่พอใจ จึงมาสั่งปิดทางเดินเข้าออกทั้งหมด จนทางครอบครัวต้องอาศัยรูใต้กำแพงที่สุนัขขุดไว้ แล้วไปเดินออกทางโรงงานแป้งแทน



ขณะที่ อ.ปรเมศร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโส มองว่า พบความผิดปกติบางประการ คือตอนที่ไปขึ้นศาล ไม่มีการนัดเจรจาไกล่เกลี่ยกันระหว่างคู่ความ ถ้าสิ่งที่ทางครอบครัวพูดเป็นความจริง ที่ว่าศาลนัดเบิกความเลย โดยที่คู่กรณีสองฝ่ายนัดมาคนละวัน ไม่เคยเจอกันเลย และไม่มีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อน ถือว่าการดำเนินคดีมีความผิดปกติแล้ว



ส่วนในประเด็นที่ว่า มีคนมาขอซื้อที่ดินของแม่วิมล ในราคา 2.4 ล้าน แต่แม่วิมลไม่ยอมขาย จะเอา 3 ล้าน จนเกิดกระแสตีกลับว่าทางครอบครัวละโมบ ทางแม่วิมลยืนยันว่าไม่เป็นความจริง



ข้อเท็จจริงคือ คุณสมุทร ลูกของลุงทวนมาถามขอซื้อที่ดินของแม่ ราคา 4 ล้าน แต่ทางพี่น้อง 3 คน คือ วิมล ดนัย วินัย คุยกันไม่ลงตัว แม่วิมลอยากขาย แต่พี่อีกสองคนไม่ขาย เลยไม่ได้ขาย ณ เวลานั้น



ต่อมาประกาศขายที่ดิน ในราคา 3 ล้าน ซึ่งคุณเกรียงไกร คนที่ทำสวนในที่ดินของพระบอกว่าโอเคที่ราคานี้ พอจะขายกันจริงๆ เขาบอกว่าไม่ซื้อแล้ว แพงไป



ต่อมามีคนมาบอกว่า ราคาประเมินที่ดินตรงนี้ อยู่ที่ 2.4 ล้าน ถ้าจะขายก็ขายได้เท่านี้ แต่ไม่ได้มีใครมาขอซื้อ แต่พอมีการถ่ายทอดออกไป ข่าวกลับบอกว่ามีคนขอซื้อ 2.4 ล้านแต่ไม่ขาย เพราะจะเอา 3 ล้าน จึงไม่เป็นความจริง



ขณะที่ วัน อยู่บำรุง ซึ่งเข้ามาช่วยเป็นคนกลางเจรจาเรื่องนี้ บอกว่าจะไปช่วยเจรจาทั้งพระเจ้าของที่ ผู้เช่าที่ ว่าจะมีทางออกอย่างไรให้กับเรื่องนี้ได้บ้าง อาจจะเป็นได้ว่า รอการอุทธรณ์ของศาล ที่จะมีการไกล่เกลี่ยในชั้นศาล ส่วนเรื่องว่าเขาจะมาซื้อที่ของแม่วิมลไหม หรือจะสลับที่ดินอย่างไร ต้องไปเจรจากัน

คุณอาจสนใจ

Related News