สังคม

2ผัวเมียร้องสื่อ ที่ดินมรดกเป็นที่ดินตาบอด ต้องมุดกำแพงทางหมาลอดเข้าออกบ้าน

โดย nutda_t

14 ส.ค. 2566

14.9K views

จากกรณีโลกออนไลน์มีการแชร์เรื่องราวของตายายคู่หนึ่ง ต้องมุดลอดกำแพงซึ่งเป็นช่องเล็กๆ เวลาเข้าออกบ้านของตนเอง โดยระบุว่า บ้านอยู่ในที่ดินตาบอด ต้องมุดเข้า-ออกทางหมาลอด ซึ่งเรื่องดังกล่าวถูกส่งมาร้องยังเพจรายการโหนกระแส


ล่าสุดทีมข่าวลงพื้นที่ไปหาตายาย ซึ่งบ้านอยู่ในที่ดินตาบอด บนถนนบางบอน 5 ซอย 7 เขตบางบอน กทม. โดยรอบๆเป็นที่ดินของบุคคลอื่น ซึ่งการจะเดินเข้าไป ต้องลัดเลาะตามแนวกำแพงที่ดินแปลงข้างๆ ไปจนสุดทางระยะทางประมาณ 200-300 เมตร จากนั้นจะพบรูเล็กๆใต้กำแพง เมื่อทีมข่าวมุดลอดเข้าไป พบบ้านของตายายเป็นลักษณะเพิงเล็กๆ อยู่ด้านใน เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่


สอบถาม นางวิมล หรือ ยายแอ๋ว อายุ 65 ปี เจ้าของบ้านที่ดินตาบอด บอกว่า ที่ผ่านมาที่ดินผืนนี้เป็นที่ดินมรดกตกทอดจากรุ่นตายาย ซึ่งโดยรอบบ้านมีเนื้อที่ทั้งหมด 22 ไร่ 2 งาน 42 ตารางวา ต่อมามีการแบ่งให้ลูกๆ จากนั้นก็มีการขายต่อกันเรื่อยมา ซึ่งแม่ของยายแอ๋ว ได้รับส่วนแบ่งทั้งหมด 6 ไร่ แต่จากนั้นมีการนำที่ไปขายฝาก 5 ไร่ ต่อมาไม่มีเงินส่งที่จึงถูกยึด ทำให้เหลืออยู่ 1 ไร่ ที่ใช้เป็นที่พักอาศัย


ส่วนที่ดินบริเวณด้านหน้า ก็ถูกขายต่อมาเรื่อยๆ ซึ่งตอนนี้ก็ถูกแปรสภาพเป็นสวนของคนอื่น ทำให้ปิดทางเข้าบริเวณด้านหน้า ส่วนด้านข้างก็เป็นที่ของโรงงานแป้งมัน โดยมีการทำรั้วปิดไว้ เวลาเข้าออกจึงต้องใช้การมุดรั้วกำแพงปูนที่หมามันขุดไว้ ถ้าไม่ได้หมาคงไม่มีทางเข้าออก ที่ผ่านมาลำบากมาตลอดชีวิต จนถึงตอนนี้ยังต้องลำบากไม่มีทางเข้าออกบ้านอีก ทั้งนี้เคยมีเรื่องฟ้องร้องกับที่ดินแปลงติดกัน โดยจะขอเป็นทางเข้าออกประมาณ 1 เมตรครึ่ง แต่ทนายฝั่งยายบอก ขอไปก่อน 3 เมตร ซึ่งกฎหมายให้ได้ไม่ถึงขนาดนั้น ทำให้ฝังยายกับตาแพ้คดี


ขณะที่ นายสมุทร อายุ 59 ปี ลูกพี่ลูกน้องยายแอ๋ว ซึ่งมีแปลงที่ดินอยู่ติดกันเปิดเป็นอู่ซ่อมรถทัวร์ กล่าวว่า หลังเป็นประเด็นในโลกโซเชียล ตัวเองถูกทัวร์ลงหนัก หาว่าเป็นคนใจจืดใจดำกับญาติพี่น้อง ทั้งนี้ที่ดินของตัวเองด้านหลังบ้าน สามารถให้ยายแอ๋วเดินผ่านเข้าออกได้ แต่เฉพาะในกรณีฉุกเฉิน หากเดินเข้าออกทุกวันตลอดเวลา หรือไปจนชั่วลูกชั่วหลาน ตนเองก็ขอความเห็นใจด้วย เพราะว่าถ้าจะเดินผ่าน คือต้องผ่านตัวบ้านของตนเองเลย หากมีของหายใครจะรับผิดชอบ พร้อมบอกชาวโซเชียลไม่ต้องเอาทัวร์มาลงแล้ว แค่ลำพังที่อู่รถทัวร์มาให้ซ่อมก็เยอะพอแล้ว


ด้าน นายเกรียงศักดิ์ อายุ 61 ปี เป็นผู้เช่าที่ดินและเป็นผู้ดูแลที่ดินพิพาทที่ฟ้องร้องกับยายแอ๋ว ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีการเจรจาขอซื้อที่ดินจากยายแอ๋ว โดยกรมที่ดินได้เข้ามาประเมินราคาแล้ว มีราคา 2.4 ล้านบาท แต่ยายแอ๋ว ตั้งราคาขายไว้ 3 ล้านบาท เจ้าของที่จึงไม่ซื้อ เพราะตั้งราคาสูงกว่าที่ประเมินไว้


ต่อมาตนก็ทำสวนเรื่อยมา จนกระทั่งก่อนที่จะมีการกั้นกำแพงในปี พ.ศ.2535 ยายแอ๋วมาฟ้องตนว่าเขาเดินออกไม่ได้ จะเดินเข้าออกทางนี้ ซึ่งตนเองก็ให้แล้ว 1 เมตร ยายแอ๋วก็ไม่เอา จะเอา 3 เมตร จึงไปฟ้อง โดยบอกกับตนเองว่าไปเจอกันที่ศาล แล้วยายแอ๋ว จะฟ้องเอาจากฝั่งนู้นอีก 3 เมตร ซึ่งทางเจ้าของที่ดิน บอกว่าให้เดินไม่ได้ ที่ผ่านมาตนเองก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่ายายแอ๋วลอดรูออกมา เพิ่งจะมารู้วันนี้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ