‘เพื่อไทย’ จับมือ ‘ภูมิใจไทย’ แถลงตั้งรัฐบาล แจง “ไล่หนูตีงูเห่า” เป็นแค่เทคนิคหาเสียง

จับตาการจัดตั้งรัฐบาลของ ‘เพื่อไทย’ กับ ‘ภูมิใจไทย’ หลังแยกทางกับ ‘ก้าวไกล’ ผนึกกำลังกัน 212 เสียง เป็นพรรคตั้งต้นจัดตั้งรัฐบาล ท่ามกลางมวลชนบางส่วนที่ไม่เห็นด้วย บุกไปป่วนหน้าพรรค

เมื่อเย็นวานนี้ (7 ส.ค. 2566) ทางพรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และพรรคภูมิใจไทย นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรค นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค โดยทั้งสองพรรคมาร่วมการแถลงข่าวจับมือกัน ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย

นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยตอบรับคำเชิญของพรรคเพื่อไทย ภายใต้เงื่อนไขการร่วมจัดตั้งรัฐบาล 3 ข้อ คือ 1.ไม่แตะต้อง มาตรา112 2.ไม่เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย และ 3.หากรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจะต้องไม่มีพรรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ก็เห็นพ้องในทิศทางเดียวกัน ทั้ง 3 ข้อ ดังนั้น นับจากวันนี้เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินมีอุปสรรคน้อยที่สุด พรรคภูมิใจไทยให้คำยืนยัน และถือว่าพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล โดยมี 212 เสียง คือ 141 เสียงของพรรคเพื่อไทย บวกกับ 71 เสียงของพรรคภูมิใจไทย

จากนั้นก็จะเชิญพรรคอื่นมาร่วม ซึ่งได้รับการแจ้งจากพรรคเพื่อไทยว่าการตั้งรัฐบาลครั้งนี้พรรคร่วมรัฐบาลในแผนมี สส.เกินกึ่งหนึ่งแล้วแน่นอน เป็นไปตามเจตนารมณ์ของระบอบประชาธิปไตย

ส่วนทางพรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขอบคุณพรรคภูมิใจไทย ที่ตอบรับคำเชิญร่วมจัดตั้งรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชน และวิกฤตที่เกิดจากรัฐธรรมนูญ จนทำให้ตั้งรัฐบาลยุ่งยาก ซึ่งเงื่อนไขของพรรคภูมิใจไทย ทั้ง 3 ข้อ พรรคเพื่อไทยรับได้และได้ดำเนินการไปแล้ว และขอบคุณอย่างยิ่ง กับคำว่า 212 เสียงที่จะเป็นเสียงตั้งต้นในการจัดตั้งรัฐบาล

นพ.ชลน่าน กล่าวถึง 188 เสียง ที่เป็นเสียงของพรรคการเมืองขั้วรัฐบาลเดิมด้วยว่า ข้อสงสัยที่หลายคนกังวล ก็จะถูกตัดขาดลงไป เพราะไม่มีรัฐบาลเสียงข้างน้อย 188 เสียง แน่นอน

การแถลงข่าววานนี้ ได้เปิดให้สื่อมวลชนซักถาม คำถามสำคัญ คือ จะจับมือกับพรรค 2 ลุงด้วยหรือไม่ ซึ่ง นพ.ชลน่าน ยืนยันว่า ไม่มี 2 ลุง แต่ไม่ปฏิเสธเงื่อนไขที่ สส.รายบุคคล หรือเป็นกลุ่มบุคคลมาสนับสนุนในการเลือกนายกฯ

ด้าน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้จะได้เห็นว่าพรรคไหนจะเข้ามาร่วมรัฐบาลบ้าง ซึ่งมั่นใจว่าตอนนี้มีเสียง สส.เกินครึ่งของสภาแล้ว

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ถามถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยเคยกระทบกระทั่งกันระหว่างการหาเสียง เช่น การเปิดยุทธการไล่หนูตีงูเห่า ซึ่ง นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นเทคนิคในการหาเสียงของแต่ละพรรค แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นศัตรูกัน เมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้ว ก็สามารถร่วมงานกันได้

ส่วนเรื่องคดีความที่นายอนุทินเคยดำเนินคดี เกี่ยวการปราศรัยของนายเศรษฐา ทวีสิน แล้วพาดพิงในหลายประเด็นช่วงหาเสียงเลือกตั้ง โดยเฉพาะการโจมตีนโยบายกัญชาว่ามอมเมาประชาชนนั้น นายอนุทินกล่าวว่า ได้ถอนฟ้องไปแล้ว

หลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น นายอนุทินและแกนนำพรรคภูมิใจไทย เดินทางกลับออกจากพรรคเพื่อไทยอย่างทุลักทุเล เนื่องจากมีกลุ่มทะลุวัง นำโดย ‘บุ้ง เนติพร, ตะวัน ทานตะวัน ตัวตุลานนท์’ และ ‘หยก ธนลภย์’ ที่แต่งชุดพีพีอี พร้อมพกถังแอลกอฮอล์ เดินทางมาที่พรรคเพื่อไทย เพื่อคัดค้านการจับมือตั้งรัฐบาลของ 2 พรรค ทำให้ทาง นพ.ชลน่าน ต้องขอโทษนายอนุทิน ที่มีผู้ชุมนุมมาดักรอหน้าพรรค พร้อมกับได้เดินไปส่งนายอนุทินขึ้นรถด้วยตัวเอง

ก่อนที่กลุ่มทะลุวัง จะปิดทางเข้า-ออก ของพรรคเพื่อไทย ทั้งสองด้าน และปราศรัยโจมตี อย่างดุเดือด พร้อมกับตรวจรถทุกคันที่ออกจากพรรคเพื่อไทย เพื่อเรียกหา คุณอนุทิน

จนทำให้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ถึงกับต้องลงมาจากรถ เพื่อเจรจา และเกิดการปะทะคารมกัน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/lwwqkWBHWrk