วีรกรรม 'เอส คอลาย' พ่อเลี้ยงใจทราม บังคับลูกเลี้ยง 12 ขวบ เสพยา-ทำอนาจาร ติดคุกมาแล้ว 13 ครั้ง ตัดกำไลอีเอ็มทิ้ง

พฤติกรรมของพ่อเลี้ยงใจทราม กระทำอนาจารย์ลูกเลี้ยง นับว่าเป็นคดีที่สะเทือนสังคม ที่เราสามารถพบเห็นข่าวบ่อยๆ ซึ่งหลายกรณีแม่มักจะไม่รู้ จนต้องให้เพื่อนบ้านแจ้งข่าวกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ

แต่กรณีนี้ แม่ของเด็กทราบเรื่อง จึงรีบไปแจ้งตำรวจสืบสวนนครบาล ให้ช่วยจับกุมพ่อเลี้ยงรายนี้

โดย พลตำรวจตรี ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล จัดทีมไล่ล่า นายวีรยุทธ หรือ 'เอส คอลาย' อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ข้อหา 'ความผิดเกี่ยวกับเพศ' จากนั้น ลงพื้นที่ชุมชนต้องสงสัยแห่งหนึ่ง ย่านธนบุรี ปรากฏว่า วันที่ 5 สิงหาคม 2565 ผู้ต้องหาไหวตัวทัน จึงได้หลบหนีก่อนที่เจ้าหน้าที่จับกุมตัว

จากนั้น เจ้าหน้าที่พบเบาะแสจากพลเมืองดี ในตลาดวังหลัง ว่า เห็นคนร้ายเดินกับเด็กหญิง 'มีบาดแผลตามร่างกาย' จึงวางแผนเข้าค้นหา ตรวจสอบแล้วพบว่า คือ เอส คอลาย จริง จึงแสดงหมายจับ และควบคุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดี

ซึ่งขณะนั้น พบว่า เอส คอลาย พาลูกเลี้ยงวัย 12 ปี มาซื้อเสื้อผ้า ก่อนจะหนีลงพื้นที่ภาคใต้ แต่โชคดีที่ช่วยเหลือลูกเลี้ยงได้ทัน  

-------------

สำหรับพฤติการณ์ เอส คอลาย ต้องบอกว่า ก่อเหตุมาอย่างโชกโชน และไม่เกรงกลัวความผิด ไม่เพียงติดยาเสพติดงอมแงมแล้ว ยังก่อคดีสร้างความหดหู่ให้กับสังคมมากมาย

เมื่อปี 2562 เอส คอลาย เข้ามาคบกับ แม่ของเด็กหญิงวัย 12 ปี  คบกันมา 3 ปี ตั้งแต่เด็กอายุ 8 ขวบ จากการสังเกตของคุณแม่ เห็นว่า นายเอส คอลาย มีความสนิทสนมกับลูกสาวผิดปกติ มากเกินกว่าพ่อเลี้ยง และเวลาดูข่าวพ่อเลี้ยงข่มขืน หรือทำร้ายลูกเลี้ยง เอส ก็จะไม่ชอบ และบอกว่า พวกทำแบบนี้ รับโทษติดคุกจนตาย

ในปี 2565 เอส พาลูกสาวหนีไปอาศัยอยู่ด้วย คล้ายคู่รัก และก็พาเร่ร่อนไปทั่ว 'บังคับเสพยาเสพติดและลงมือกระทำชำเรา' แม่รู้เรื่อง ตอนแรกก็โพสต์เฟซบุ๊กออกตามหาลูกสาวหายตัวไป  จนกระทั่ง ชุดสืบสวนตำรวจนครบาลทราบข่าว จึงสืบสวน และติดตามจับกุมได้

พลตำรวจตรี ธีรเดช ได้สอบปากคำ เอส คอลาย ว่า ทำไมถึงก่อเหตุกับเด็ก เจ้าตัวตอบแบบไม่สะทกสะท้านว่า ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมขอโทษ ที่ผมทำให้เด็กคนหนึ่งมีตราบาป

ที่ผ่านมา เคยถูกจับกุมมาแล้ว 13 ครั้ง มีคดี ลักทรัพย์ // เสพ//ครองครอง และข้อหาอนาจารเด็กและอยู่ระหว่างประกันตัว ซึ่งติดกำไล EM แต่นายเอสได้ถอดกำไล EM ทิ้งไปเพื่อหลบหนี โดยอ้างว่า รู้ว่าคดีที่เคยก่อไว้ จะตัดสินแล้ว หากต้องไปขึ้นศาลต้องติดคุก ตนไม่อยากติดคุกจึงตัดกำไลอีกเอ็มทิ้ง

นอกจากนี้ ในการสอบปากคำ พลตำรวจตรี ธีรเดช ยังถามนายเอสว่า ได้ไปก่อเหตุกับเด็กคนอื่นหรือผู้หญิงอื่นอีกหรือไม่ นายเอส ยืนยัน ไม่ได้ทำ และพร้อมให้เปิดเผยใบหน้าได้ ถ้ามีใครถูกนายเอสกระทำ ก็พร้อมจะโดนดำเนินคดี

สำหรับคดีนี้ พลตำรวจตรี ธีรเดช บอกว่า ผู้ต้องหารายนี้ถือว่าเป็นภัยสังคม ที่รับไม่ได้คือ บังคับให้เด็กเสพยาเสพติดก่อนกระทำอนาจาร จึงไม่ต้องการให้คนเช่นนี้อยู่ในสังคม จึงขอประชาสัมพันธ์ หากพบพฤติกรรมของคนร้ายรายนี้ แจ้งเบาะแสมาที่เพจเฟซบุ๊ก "สืบนครบาล IDMB" ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

-------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/FRfTnLKX2zM