สังคม

หนุ่มส่งพัสดุไม่ฟังคำเตือน สวมหมวกกันน็อกเข้าห้าง ตำรวจคว้าปืนยิงใส่บาดเจ็บ

โดย paranee_s

7 ส.ค. 2566

23.3K views

เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 7 ส.ค.66 พ.ต.ท.อุทัย ทองสาหร่าย รองผกก.สอบสวนสภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งเหตุยิงกันหน้าห้างสรรพสินค้าย่านคลองสาม และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.สุชัย แสงส่อง รองผกก.สอบสวนสภ.คลองหลวง พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง พ.ต.ต.มนตรี คงอาจ สวป.สภ.คลองห้า ช่วยราชการสภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้ง


ที่เกิดเหตุ ประชาชนกำลังวิพากษ์วิจารณ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และร่องรอยคราบเลือด ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเจ้าหน้าที่กู้ภัย นำส่งโรงพยาบาลไปก่อนแล้วทราบชื่อคือ นายอากร อายุ 27 ปี ถูกยิงที่บริเวณหลังเท้าด้านซ้าย ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อ ร.ต.ท.ภัณเต บัววิชัยศิลป์ รอง สว.จร.สภ.คลองหลวง ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไปที่สภ.คลองหลวงก่อนแล้ว และพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของคนเจ็บจอดอยู่บริเวณหน้าห้าง


จากการสอบถาม นายศักดิ์กรินทร์ อายุ 22 ปี เพื่อนคนเจ็บ บอกว่าตนเองกับเพื่อนทำงานส่งพัสดุที่ ซึ่งนำเงินมาฝากที่ตู้เติมเงินอัตโนมัติของธนาคารที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าทุกวัน และวันนี้ก็เช่นกัน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งอยู่ตรงโซนอาหารนั่งมองอยู่พักหนึ่ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินมาและบอกให้เพื่อนของตนเองถอดหมวกกันน็อก ซึ่งเพื่อนตนเองใส่หมวกกันน็อกครึ่งใบเข้าไป


ซึ่งขณะนั้นได้ฝากเงินเสร็จแล้ว และเพื่อนตนก็คุยกับตำรวจสักครู่หนึ่ง โดยไม่ได้ถอดหมวกกันน็อกและก็เดินออกมาจะขึ้นรถจักรยานยนต์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เดินตาม ออกมาอยู่ตรงร้านโดนัทและยืนด่า ซึ่งเพื่อนของตนเองก็บอกไปว่า มาพูดอะไรจะไปแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ถอดหมวกกันน็อกให้ได้ จนเดินออกมานอกห้างและทางตำรวจก็ดึงปืนออกมา ตนนึกว่าเขาจะขู่ แต่เขาก็ยิงเลยนัดเดียวเข้าที่เท้าทะลุ ซึ่งตนเองมาตั้งแต่ 16.00 น.


ด้านพ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวเมื่อถามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกัน ซึ่งเมื่อไปดูที่เกิดเหตุ พบมีผู้ได้รับบาดเจ็บจึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาล และทราบว่าถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณขาด้านซ้าย


จากการสอบถามพยานเบื้องต้นก็ทราบว่าทางผู้เสียหายจะเข้าไปทำธุรกรรมภายในห้างสรรพสินค้า ซึ่งขณะที่ทางผู้เสียหายเดินเข้าห้างนั้น ผู้เสียหายได้สวมหมวกกันน็อกและทางชื่อร.ต.ท.ภัณเต รอง สว.จร.สภ.คลองหลวง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สายตรวจเดินเท้า มีหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยธนาคารและร้านทองภายในห้างสรรพสินค้า จึงเดินเข้าไปตักเตือนห้ามปรามว่าเข้ามาในห้าง อย่าสวมหมวกกันน็อก ซึ่งที่ผ่านมาภายในห้างสรรพสินค้าก็เคยเกิดเหตุการณ์ชิงทรัพย์ร้านทองและปล้นธนาคาร เป็นมาตรการป้องกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง


แต่ผู้เสียหายก็ไม่ได้ฟังตำรวจเดินไปทำธุรกรรมการเงินปกติ และเมื่อเดินออกมาจากนอกห้าง ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกับผู้เสียหายก็ได้มีการโต้เถียงกันและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ปืนออกมายิงใส่เท้าของผู้เสียหาย


ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ภายในห้าง ให้การว่า ผู้เสียหายได้ใส่หมวกกันน็อกตั้งแต่เดินเข้ามาในห้าง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็เกรงว่าจะเกิดเหตุร้าย และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่าทางฝ่ายของผู้เสียหายจะมีอะไรหรือเปล่า จึงได้มีการชักปืนออกมาและยิงเข้าที่เท้าผู้เสียหาย


ส่วนของทางคดีนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้ให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายของผู้เสียหายหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยได้ตรวจสอบข้อมูลกล้องวงจรปิดทั้งหมดมาประกอบสำนวนคดี


ส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้อาวุธปืนยิงนั้นก็ได้มีการเก็บคราบเขม่าดินปืน และได้นำตัวไปเป่าแอลกอฮอล์ปรากฏว่าไม่พบแอลกอฮอล์ภายในร่างกาย พร้อมทั้งสอบสวนพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุทั้งหมดเพื่อที่จะให้ทราบข้อเท็จจริงในเรื่องของคดีว่าเป็นยังไงบ้างและมีการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ก่อเหตุด้วย และดูเรื่องของพยานหลักฐานว่าเป็นยังไง


ในส่วนของห้างสรรพสินค้าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นึกถึงความปลอดภัยของสถานที่ ซึ่งได้มีการติดป้ายประกาศห้ามสวมหมวกกันน็อกเข้าไปภายในห้าง หรือร้านทองต่าง ๆ ซึ่งพฤติกรรมส่วนใหญ่ของคนร้ายที่มาก่อเหตุนั้นก็จะสวมหมวกกันน็อกปกปิดใบหน้า ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามระมัดระวังเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อที่จะไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้น


โดยขณะนี้ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาใด ๆ รอสอบสวนพยานหลักฐานทั้งหมดก่อน และในกล้องวงจรปิดทางด้านผู้เสียหายจะใส่หมวกกันน็อกตลอดเวลาเมื่ออยู่ในห้างสรรพสินค้า

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ