“อนุสรณ์” ย้ำ “เพื่อไทย” ไม่จับมือ 2 ลุงในตอนนี้ มั่นใจรวมเสียงได้เพียงพอ

วันนี้ (6 ส.ค. 2566) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคเพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรค 2 ลุง ว่าตนไม่ได้เป็นหนึ่งในคณะเจรจาหลักในการเดินหน้ารวบรวมเสียงจากทางรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ตนเรียนในฐานะ สส. ซึ่งคณะกรรมการได้มารายงานให้ สส.ทราบว่า การรวบรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลขณะนี้เป็นอย่างไร โดยเท่าที่ได้รับข้อมูลยืนยันว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับ 2 ลุง


“วันนี้ไม่มี 2 ลุง ถามว่าไม่มี 2 ลุงแล้วเอามาจากไหน ก็จะเป็นการรวบรวมเสียงจากฝั่ง สส. ซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีทั้งหมด 500 ท่าน ก็จะไปดึงเสียง สส. มา เมื่อดึงเสียงแล้วถ้ายังไม่ครบ ก็จะไปรวบรวมเสียง สว. แต่คณะเจรจาก็สื่อสารกับทั้ง สส.และสังคม เราก็เห็นเท่ากัน ตรงกัน ว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณว่าคณะเจรจาได้รับแรงกดดันหรือยังไม่ได้เห็นสัญญาณว่าคณะเจรจาจะต้องไปจับมือกับ 2 ลุงในการจัดตั้งรัฐบาล” นายอนุสรณ์ กล่าว


เมื่อถามว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ ลาออกจากทุกตำแหน่งแล้ว แต่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค จะมีการรวมเสียงหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า คณะเจรจาได้สื่อสารกับ สส. ว่าตอนนี้ไม่มี 2 ลุง เราก็คิดต่อว่าไม่มี 2 ลุงคืออะไร ลุงที่ 1 คือลุงประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ประกาศวางมือทางการเมืองแล้ว เพราะฉะนั้น ลุงประยุทธ์ก็น่าจะตัดไป ส่วนลุงประวิตร ถามว่ามีอยู่ในสมการหรือมีอยู่ในส่วนที่ผู้เจรจาแจ้งเราหรือไม่ ก็ยืนยันอีกครั้งว่า ตอนนี้ไม่มีทั้ง 2 ลุง


เมื่อถามว่าแต่หากเป็นตัวพรรคของทั้ง 2 ลุง จะร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า หากมีรายละเอียดที่เปลี่ยนแปลงไป คณะเจรจาคงแจ้งให้ สส.ทราบ


เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยได้รับแรงกดดันจากการจัดตั้งฐบาลหรือไม่ เนื่องจากการรวมเสียงจะต้องพูดกันถึงเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรี นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ไม่มีครั้งใดที่รวมเสียงจะตั้งรัฐบาลได้ง่าย เพราะถ้าตั้งง่าย พรรคก้าวไกลคงสามารถรวบรวมเสียงและเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล สำเร็จไปแล้ว


“โดยความเป็นจริงก็มีความยาก เพราะพรรคเพื่อไทยมีคะแนนเสียง 141 เสียง โดยพรรคที่จะเชิญมารวบรวมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาลก็มีคะแนนเสียงห่างกัน ไม่เหมือนกับสูตรเพื่อไทย-ก้าวไกลที่ห่างกันเป็นสิบ ตอนนี้เหลือห่างจาก 11 แค่ 8 ที่นั่ง แต่พรรคเพื่อไทยคะแนนห่างจากพรรคอันดับสามครึ่งๆ นะครับ เพื่อไทย 141 ภูมิใจไทย 71 ผมคิดว่าแต่ละพรรคการเมืองที่จะมาร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยจะต้องเคารพต่อเสียงพี่น้องประชาชนด้วย” นายอนุสรณ์ กล่าว


นายอนุสรณ์ ย้ำว่า ยังไม่ได้รับรายงานว่าพรรคเพื่อไทยได้รับแรงกดดันในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งความจริงหากได้โหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 4 ส.ค. ตอนนี้เราอาจจะได้นายกรัฐมนตรีไปแล้ว แต่มองได้ว่ามีเวลาที่มากขึ้นก็ได้ทำงานเพิ่มขึ้น ได้เดินหน้าในการรวบรวมเสียงเจรจามากขึ้น


“ผมคิดว่าด้วยจำนวนที่นั่งที่มันต่างกันมากไม่น่าจะมีแรงกดดันหรือการบีบคั้นใด ๆ จากพรรคที่มาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล” นายอนุสรณ์ กล่าว


เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้ตัดสินใจเร็วไปที่จะออกจาก 8 พรรคร่วมฯ เดิมใช่หรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ไม่มีใครทราบ ถ้าเราไปกอดกันแน่น 312 เสียง จุดต่างที่ 8 พรรคหรือ 312 เสียงเห็นต่างกัน ฝ่ายหนึ่งเห็นว่าสามารถรอได้ แต่อีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็นพรรคเพื่อไทยเห็นว่า ไม่มีอะไรเป็นหลักการันตีหรือยืนยันได้ว่า 10 เดือนสามารถเป็นรัฐบาล เพราะสิ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องการคือไปทำงานให้เพื่อพี่น้องประชาชน ต้องการเป็นรัฐบาลแก้ไขปัญหาให้ประเทศชาติ ซึ่งนอกจากปัญหาปากท้องจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย จะเป็นการรและทำงานควบคู่กันไป แต่หากเรา 10 เดือนโดยไม่ทำอะไร บ้านเมืองก็ไม่ไปไหน